Bonn Test Mode

ยัดน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ใส่ถังเรียบร้อย ผมเริ่มออกเดินทางการขับขี่ในโหมดประหยัดแบบอัตราเฉลี่ยรวมภาคกลางคืน หรือที่ผมเรียกว่า   “Bonn Test Mode”

ออกตัวมาจากปั้มผมขับผ่านถนนนกาญจนาท่ามกลางความมืดย่ำค่ำ ผมสัมผัสได้ถึงความเงียบของห้องโดยสารในรถรุ่นนี้ มันเงียบมากจนไม่อยากเชื่อว่านี่เรากำลังขับรถเล็กจริงๆ ส่วนหนึ่งมาจากกระจกบังลมบานหน้า   Acoustic Glass   

ความเงียบขยน่าแปลกใจ พาผมต้องงัดแอพพลิเคชั่น เดซิเบลมิเตอร์ ออกมาลองวัดในระหว่างขับที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. ห้องโดยสารเงียบถึง 70 เดซิเบล ถือว่าเงียบมากจากประสบการณ์ทดสอบในรถเล็ก ซึ่งปกติแล้วจะต้องมีเสียงลมเล็ดรอดหรือเสียงจากซุ้มล้อ ไม่ว่าจะจากยางบดถนน น่าแปลก   Ativ  กลับทำได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ จนผมกับเดือน และน้องโอปอล ที่มาร่วมกันเป็นสักขีพยานในการทดสอบรถ ต่างลงความเห็นเดียวกันว่า เป็นห้องโดยสารที่เงียบที่สุดในตอนนี้ ผมเห็นเช่นนั้นด้วย เนื่องจากส่วนตัวรถคุณแม่เป็น   Suzuki Ciaz  ยังไม่เงียบเท่านี้เลย

ทดสอบรถยนต์ Toyota Yaris ATIV

นอกจากห้องโดยสารเงียบมากแล้ว ระบบกันสะเทือน   Toyota Yaris Ativ  ยังถือเป็นอีกไฮไลท์เด็ดเจ้าตัวเล็กคันนี้ คุณอย่าเพิ่งดูถูกระบบช่วงล่างทางด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมหล็กกันโคลง และทางด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม คอยย์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ที่ฟังดูก็ไม่ต่างจากอีโค่คาร์หรือรถเล็กรุ่นอื่นในตลาด

เมื่อมาลองขับจริงๆ บนถนน ทางโตโยต้าสามารถพิชิตใจผมอย่างไม่น่าเชื่อ ช่วงล่างรถคันนี้กล้าพูดว่าไม่เป็นสองรองใคร มันแน่นหนึบไม่มีคำว่า “ร่อน” หรือดูโคลงเคลงขับไม่มั่นใจ ในเวลานี้ผมขับที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. บนนถนนบรมราชนนี ช่วงสุดท้ายก่อนเข้าเมืองแล้วต้องลดความเร็วเหลือ 80  จามแนวทางการทดสอบ รถดูนิ่งสนิท ยามเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วก็ไม่มีอาการบินร่อนดูน่ากลัว

ทั้งที่ก่อนหน้านี้สักสองปีเห็นจะได้ ผมมีโอกาสขับ   Toyota Vios  รุ่นปัจจุบันในตอนนั้นยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลง   Toyota Vios  ใหม่ ทำออกมาได้ดีแล้ว แต่   Toyota Yaris Ativ  เซทช่วงล่างออกมาได้ดีกว่ามาก ขนาดผ่านถนนที่ขุรขระ ฝาท่อกทม. คนนั่งยังรู้สึกสบายตลอดการเดินทางจนมีคนแอบไปเข้าเผ้าระอินทร์ระหว่างการทดสอบรถ แล้วแบบนี้จะไม่ออกปากชมเขาได้อย่างไรกัน

ผมกลับมาถึงปั้มเดิมเข้าหัวจ่ายเดิมเติมน้ำมันคืนถังตามกฎการทดสอบ   Bonn Test Mode  หลังจากเดินทางผมได้อัตราประหยัด 18.03 ก.ม./ลิตร ถือว่าประหยัดมากพอสมควร ผมแปลกใจมากที่พบเรื่องๆ ดีๆ มากมายในรถคันนี้  

ทดสอบรถยนต์ Toyota Yaris ATIV

 

สรุป   Toyota Yaris ATIV … The Amazing Toyota

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาผมมักรู้สึกเฉยๆ กับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า มันเป็นรถที่คนมองอยู่แล้วและไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่จนรู้สึกว่าต้องให้ความสำคัญในการทำรีวิวมากมายอะไร แต่หลังจากติดตามข่าวมานาน จนกระทั่งมาถึงการทดสอบ   Toyota Sienta ยัน   Toyota Yaris  Ativ  กล้าพูดเลยว่าวันนี้พวกเขากำลังเปลี่ยนตัวเอง จนคุณอาจสลัดภาพเดิมๆ รถยี่ห้อนี้ไปเลย

Toyota Yaris ATIV  เป็นรถที่มีความดีความชอบในหลายด้าน สนองตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง  ไม่เพียงแค่ทำรถออกมาตอบตลาดแล้วก็คิดว่า “เชอะ!! ยังไงก็ต้องมาซื้อฉัน” อีกต่อไป

ประการแรกการออกแบบ   Toyota Yaris  Ativ  จัดว่าเป็นเพชรน้ำเอกของโตโยต้าในตอนนี้เลยก็ว่าได้ การออกแบบของรถที่ออกมาในทางสปอร์ตดูดีตรงใจวัยรุ่น สะกดสายตาความต้องการ ไม่ใช่ออกรถมาแล้วรู้สึกว่ามันดูธรรมดา เหมือนที่ผ่านมา หน้าตาและบั้นท้ายฉีกกฎ คล้ายนำส่วนผสมรถยนต์ตัวนอกมาใช้ เป็นสิ่งที่ทุกคนรวมทั้งผม อยากยืนขึ้นปรบมือให้ความตั้งใจของโตโยต้า

ทดสอบรถยนต์ Toyota Yaris ATIV

เช่นเดียวกับการออกแบบและสรรหาออพชั่นในห้องโดยสาร ไม่ใช่เพียงการใส่ยัดๆให้มันมีค่าราคาขายมากขึ้น แต่เป็นสิ่งที่ใช้งานได้จริง ตรงใจลูกค้าต้องการ เช่นระบบเครื่องเสียงที่กระหึ่มชนิดที่ผมและเดือนต่างลงความเห็นว่า เป็นรถอีโค่คาร์ที่มีเครื่องเสียงดีที่สุดในเวลานี้ แถมการออกแบบภายในยังค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียด เช่น เก๊ะคอนโซลหน้าแบ่งช่องเสร็จสรรพ , กระจกแต่งหน้าทั้งซ้ายและขวา ,หรือหัวหมอนตอนหลังที่ไม่ได้เย็บติดพนักผิงเบาะโดยสาร

แต่กระนั้น  Toyota   กลับมาตกม้าตายเรื่องง่ายๆ  อาทิ สลักล็อกหัวหมอนมีแค่ตำแหน่งเดียว และสำหรับบางคนอาจจะมองเรื่องนี้ว่าเป็นข้อเสียด้วยเช่นกันคือระบบปรับอากาศภายในรถเย็นเกินไป  ขนาดส่วนตัวผมเป็นคนขี้ร้อน ยังรู้สึกเลยว่ามันเย็นมาก จนตลอดการขับทดสอบปรับแอร์มาอยู่ที่อุณหภูมิ 26 องศา  หรือจะจัดโปรซื้อรถแถมเสื้อกันหนาวมาด้วย

นอกจากนี้ จุดบอดในห้องโดยสาร ก็คงไม่พ้นพื้นที่เหนือศรีษะของคนนั่งโดยสารตอนหลัง เหลือน้อยจนหัวติดอาจจะด้วยผมเป็นคนตัวสูงก็จริง แต่เด็กสมัยใหม่หลายคนก็ตัวสูงใหญ่แบบผมเช่นกัน การให้คนตัวสูงนั่งโดยสารในตอนหลังของเอทีฟเป็นไปได้ก็ควรเลี่ยง

ตลอดจนเบาะหลังของ   Toyota Yaris  Ativ  ไม่สามารถปรับพับได้ และสำหรับใครที่เพื่อนเยอะชอบพาเพื่อนนั่งโดยสารเต็มรถ 5 คนพอดี อยากจะบอกว่า การโดยสารตอนหลังของรถรุ่นนี้เหมาะกับนั่ง 4 คนมากกว่า เนื่องจากตรงกลางเบอะ  ค่อนข้างแข็งมากนั่งชั่วคราวพอได้ แต่ถ้าคิดจะหิ้วเพื่อนไปเที่ยวด้วยกันนั่งอัดในรถ คนที่ได้ที่นั่งตรงกลางเบาะหลังรถรุ่นนี้โชคร้ายที่สุด

ด้านสมรรถนะการขับขี่ผมถือว่ามีดีในแบบอีโค่คาร์ ก่อนอื่นสมควรเข้าใจว่ารถอีโค่คาร์ไม่ได้ออกแบบมาให้ซิ่งสะบัดซ่าทุกถนนแบบที่วัยรุ่นไทยหลายคนเข้าใจแล้วเอารถประเภทนี้ไปแต่งจนวิศวกรบริษัทรถคงเกาหัวคิดไม่ตกว่า นี่เราออกแบบรถมาให้ประหยัดจริงมิใช่หรือ

ทดสอบรถยนต์ Toyota Yaris ATIV

รถอีโค่คาร์เกิดจากความตั้งใจของรัฐบาลในการรักษาสิ่งแวดล้อม ของแถมตามมาก็ไม่พ้นความประหยัดในการบริโภคน้ำมัน และ  Toyota Yaris ATiv   ตอบโจทย์นี้ได้ดีในระดับที่น่าพอใจ  

ตารางแสดงอัตราประหยัดน้ำมัน   Toyota  Yaris Ativ

ในเมือง 13.7 ก.ม./ลิตร
นอกเมือง 13.3 ก.ม./ลิตร
ทดสอบโหมดเฉลี่ยรวม 18.03 ก.ม./ลิตร

 

จากการทดสอบคุณน่าจะเห็นเรื่องน่าประหลาดใจที่   Toyota Yaris  ATIV  สามารถทำอัตราประหยัดในเมืองดีกว่านอกเมือง 

สาเหตุที่ยามขับนอกเมืองมันไม่ได้ประหยัดมากมายนัก เนื่องจากเหตุผลบางอย่างทางด้านวิศวกรรม จากการให้อัตราทดเฟืองท้ายสูงถึง 5.833 ถือว่าเป็นอัตราทดที่สูงที่สุดในเวลานี้ของบรรดารถยนต์อีโค่คาร์ 4 ประตู

มันให้ผลลัพธ์ในยามขับขี่ทางไกลไม่สู้คู่แข่งที่มีการทดกำลังต่ำกว่านี้ เวลาขับทางไกลรถจะกินรอบเครื่องค่อนข้างมาก ผมสังเกต การทำงานของเครื่องยนต์ตลอดการทดสอบ พบว่าที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. กินความเร็วรอบเครื่องที่ 2,200 รอบต่อนาที และเพิ่มขึ้นทีละ 200 รอบต่อความเร็ว 10 ก.ม./ช.ม. จนที่ 120 ก.ม./ช.ม.ใช้รอบเครื่องยนต์ 2,600 รอบต่อนาที

ทดสอบรถยนต์ Toyota Yaris ATIV

หากเทียบกับรถยนต์อีโค่คาร์รุ่นอื่นที่เคยผ่านมือมาหรือกระทั่งรถที่บ้าน   Honda Brio Amaze  หรือ   Suzuki  Ciaz มันกินรอบเครื่องยนต์ในระหว่างการเดินทางไกลมากกว่าพอสมควร นำมาสู่เหตุผลที่มันไม่ได้ประหยัดมากมายยามเดินทางไกล ต้องใช้เครื่องยนต์ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ

กลับกันก็มีข้อดีอยู่บางประการ เช่น รถวิ่งดีมากชนิดปลิวลม คุณขับที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม.ก็จริง แต่ก็รู้สึกว่าไปไวกว่าคนอื่นมากพอสมควร  และอย่างที่พอจะเดาได้ใช่ไหมครับว่า อัตราทดจัดจ้านขนาดนี้การออกตัวก็ย่อมต้องดีกว่าคู่แข่งอีโค่คาร์คันอื่นๆ …และ จากการทดสอบอัตราเร่งของ   Toyota Yaris  Ativ   มันสามารถทำอัตราเร่งเฉลี่ย 0-100 ก.ม./ช.ม. ได้ในเวลา 16.0 วินาที และ80-120 ก.ม./ช.ม. ได้  11.33 วินาที

ตารางแสดงการทดสอบอัตราเร่ง ดีที่สุด 3 ครั้ง   Toyota Yaris ATiv รุ่น  S

การทดสอบ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 เฉลี่ย
0-100 ก.ม./ช.ม. 16.00 16.00 16.00 16.00
80-120ก.ม./ช.ม. 11.00 12.00 11.00 11.333
ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ บนหน้าปัด 178
ค่าไมล์เพี้ยนเมื่อจับจาก   GPS ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. บนหน้าปัด 4 %

 

*หมายเหตุ ทดสอบนถนนลาดยาง นั่ง 2 คน เปิดแอร์ อุณหภูมิภายนอก 28 องศาเซลเซียส

มันอาจไม่ได้เร็วหวือหวาอย่างที่หลายคนคาดก็จริง ทว่าจากการทดสอบหลายครั้ง ผมยังพบข้อกังขาเรื่องแป้นคันเร่งไฟฟ้า ซึ่งมีการหน่วงจังหวะหนึ่งก่อนออกตัว โดยเฉพาะเมื่อกดมิดติดพื้น รถจะไม่ได้ออกตัวพุ่งไปทันทีมันจะขยับตัวเล็กน้อยก่อนนึกได้ว่า  ต้องทะยานตัวออกไป จังหวะนี้มีตั้งแต่รถ Toyota Yaris  รุ่นที่แล้ว มันเหมือนวัวขี้เกียจโดนแซ่เฆี่ยน ถึงจะออกตัว

การเสียจังหวะจากคันเร่งนี่เองที่ทำให้มันไม่ได้ซิ่งซ่ารวดเร็วมากมายอย่างที่ผมเองก็คิดเอาไว้ว่ามันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ผมเชื่อว่าปัญหานี้ถ้าถูกปรับปรุง Toyota Yaris ATiv  จะเป็นรถอีโค่คาร์ที่มีอัตราเร่งเร็วที่สุด เนื่องจากความสามารถทางด้านวิศวกรรมของเครื่องยนต์และชุดเกียร์

ยิ่งในตอนนี้   Toyota  Yaris Ativ เป็นรถที่เซท   Un Sprung Weight  หรือน้ำหนักใต้สปริงมาดีมาก คุณอาจจะรู้สึกถึงโคลงรถที่เบาตัว แต่เวลาขับด้วยความเร็วจะยังรู้สึกมั่นใจ จากที่ขับทดสอบมาตลอดการเดินทาง ผมมั่นใจว่าโครงสร้าง  ATIV  ไม่ใช่โครงเดียวกับ   Vios  มันมีการปรับปรุงหลายส่วนโดยเฉพาะการใช้เหล็ก ประเภท  High Tensile   และ   Ultra High Tensile กับโครงสร้างหลักตัวรถมากขึ้น

ผมสัมผัสได้ทุกครั้งที่เข้าโค้ง 360 องศาจากถนนราชพฤกษ์ไปยังปากเกร็ด หรือเปลี่ยนเลนสะบัดไปมา ระหว่างการขับขี่ โครงสร้าง  ATIV   มีการบิดตัวน้อยมาก และมั่นใจทุกครั้งที่ขึ้นขับ มันพกมาความมั่นใจมาเสมอ

ผมกำลังจะนำรถ   Toyota Yaris ATIV  ไปคืน   Toyota ไม่บ่อยนักที่ผมจะรู้สึกซาบซึ้งในการขับรถดีๆ สักคัน ส่วนตัวก็ยังไม่อยากเชื่อว่า ยาริส เอทีฟ จะเป็นรถที่ทำให้ซึ้งใจได้เพียงนี้ มันสร้างความประหลาดใจในหลายเรื่อง หลังจากมีโอกาสขับขี่ ไม่ว่าทั้งสมรรถนะตัวรถ , ฟังชั่นการใช้งาน  ,ไปจนถึงการออกแบบ

จนกล้าพูดว่า นี่คือรถที่ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ   Toyota   ต่อตลาดประเทศไทย และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ จะมีสักกี่ครั้งที่คุณเห็นบริษัทระดับโลกขนาดนี้สลัดทุกสิ่งที่เคยทำ เปลี่ยนความคิดตัวเองสู่ทิศทางใหม่ ตอบโจทย์ให้โดนใจลูกค้าลบทุกข้อครหาที่เคยโดนคู่แข่งสอยร่วงเอายอดขายไปกิน

สิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วใน   Toyota  Yaris ATiv ผมกล้าพูดเต็มปากในฐานะที่อยู่ในวงการสักพักใหญ่ว่า รถโตโยต้ายุคใหม่ มันไม่ธรรมดาอย่างตาเห็น ..  จนกว่าจะได้ลองสัมผัส

 

เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ขอบคุณ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ   Toyota Yaris  ATIV รุ่น  S  มาให้ทดสอบ

Toyota Yaris  ATIV รุ่น S

ราคาจำหน่าย  619,000 บาท

จากใจผู้ทดสอบ

สิ่งที่ชอบ >>  การออกแบบตัวรถที่สปอร์ต , ช่วงล่าง ,การเก็บเสียง ,ความประหยัด และเครื่องเสียงที่กระหึ่มได้ใจ บอกเลยว่ามันโดนใจสุด

สิ่งที่ไม่ชอบ >> คันเร่งตอบสนองช้า ,เบาะหลังพับไม่ได้ , พื้นที่เหนือศรีษะน้อยไปหน่อย สำหรับคนตัวสูง และขับนอกเมืองไม่ประหยัดเท่าที่ควร

สิ่งที่อยากให้มี >>  ระบบนำทางในรถ , ล้อแม็กที่ดูดีมากกว่านี้ และอยากให้พิจารณาทำรุ่นเกียร์ธรรมดา

คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ >> นี่คืออีโค่คาร์ซีดานที่ดีที่สุดในตอนนี้ …

 

ช่วยเป็นกำลังใจให้ทีมงาน   ridebuster.com  เพียงถูกใจจากท่านเราจะสรรหาสาระดีๆมานำเสนอต่อไป

[ngg_images source=”galleries” container_ids=”357″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่