ช่วงสิ้นปีแบบนี้หลายคนมีแผนจะบินไปเที่ยวต่างประเทศ แน่นอนว่าอาจต้องจอดรถทิ้งไว้ที่บ้านหลายวัน วันนี้เรามีวิธีรักษารถให้คงสภาพยามที่คุณไม่ได้ใช้มาฝาก

ผู้อ่านคนใดมีแบบจะออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวช่วงปีใหม่ ยิ่งไปนานเกิน 10 วันด้วยแล้ว นั่นทำให้คุณได้พักผ่อนกายใจได้อย่างสดชื่น แต่สำหรับรถคันโปรดหากทิ้งไว้นานขนาดนั้น ตอนกลับมาคุณอาจต้องปวดหัวถ้าลืมทำตามขั้นตอนที่เราจะแนะนำต่อจากนี้

เพื่อเป็นการทำให้รถของคุณคงอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดเสียหายจากการจอดเป็นระยะเวลานาน เรามีข้อแนะนำ 4 ข้อ ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องหัวเสียหลังกลับมาเที่ยว หรือบินไปทำธุระต่างประเทศหลายเดือนก็ตาม

1.เติมลมยางให้ได้สูงกว่าปกตินิดหน่อย

การตรวจเช็คลมยางถือเป็นอันดับแรกที่คุณควรทำเมื่อต้องการจอดรถนาน เพราะมันเป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุดเพียงแค่นำรถไปเติมลมให้มากกว่าตามสเป็คที่ระบุไว้เล็กน้อย โดยสาเหตุที่ต้องเติมลมยางแข็งกว่าปกตินั้น ก็เพราะตอนที่เราจอดรถนานๆ น้ำหนักตัวรถจะส่งผลให้แรงดันลมยางลดน้อยลงทีละนิด หากคุณไม่ได้ตรวจเช็คลมยางก่อนแล้วนำไปจอดเลย นั่นอาจทำให้ยางเกิดแบนลงจนสภาพโครงสร้างเกิดความเสียหายได้

how-to-fuel (3)

 

2.ให้คนเติมน้ำมันเป็นประจำ

หากคุณมีแพลนว่าจะไม่ได้ใช้รถนานเกินกว่า 6 เดือน เราแนะนำว่าก่อนจะทำแบบนั้นคุณควรนำรถไปเติมน้ำมันให้เกิน 1 ส่วน 4 ของถัง โดยปกติแล้วน้ำมันที่นอนนิ่งอยู่ในถังนานเกิน 6 เดือน เชื้อเพลิงจะเริ่มทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น เปลี่ยนเป็นกรดอะซิติกและสารอื่นๆ ออกมา ซึ่งบางคนเรียกว่าน้ำมันเน่าคาถังก็ไม่ผิดแต่อย่างใด

หลังจากนั้นให้ทิ้งกุญแจรถพร้อมไหว้วานญาติสนิทมิตรสหาย ในการนำน้ำมันสดใหม่มาคอยเติมทีละ 4-5 ลิตร ทุกๆ 1 เดือนที่ผ่านไป แม้ว่าน้ำมันเก่าจะเสื่อมสภาพไปบ้าง แต่การกลับมาสตาร์ทใหม่ด้วยน้ำมันที่หมุนเวียนตลอด จะปรากฏอาการเครื่องสั่นในช่วงรอบเดินเบาอยู่ซักครู่ ซึ่งก็ดีกว่าเติมน้ำมันทิ้งคารถเอาไว้โดยไม่มีการกรอกของใหม่เติมเข้าไป

3.เปิดช่องระบายอากาศ

เชื่อว่าหลายคนเวลาจอดรถทิ้งไว้นานๆ มักจะปิดกระจกมิดชิดพร้อมด้วยนำผ้าคลุมมาปิดบังมิให้ฝุ่นมาเกาะรถ แต่การทำเช่นนั้นอาจส่งผลเสียมากกว่าแบบไม่รู้ตัว นั่นก็เพราะภายในห้องโดยสารตามปกติจะมีความชื้นอยู่ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเหล่าเชื้อรากับแบคทีเรีย คุณอาจเคยเห็นบางคนโพสรูปเบาะนั่งรถคันโปรดที่เต็มไปด้วยเชื้อรา หลังจอดรถทิ้งไว้มานานเป็นเวลาหลายเดือน

วิธีการป้องกันปัญหาดังกล่าวเพียงแค่ทำการแง้มกระจกหน้าต่างลงมานิดหน่อย เพื่อให้อากาศภายในห้องโดยสารมีการหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา จริงอยู่การทำเช่นนั้นจะทำให้ฝุ่นละอองเข้าไปเกาะอยู่ภายในตัวรถ แต่การทำความสะอาดเช็ดถูคราบฝุ่นยังดีกว่าต้องมาหาวิธีกำจัดคราบเชื้อราสีสันชวนแหวะบนเบาะ

4.ห้ามดึงเบรกมือ และเสียบเครื่องกระตุ้นแบตเตอรี่ไว้

การจอดรถนานๆ คุณห้ามเปิดการทำงานระบบเบรกมือ เพราะนั่นอาจทำให้เบรกมือจับตัวเกาะแน่นจนไม่สามารถคลายออกได้ วิธีดีที่สุดก็คือหาขอนไม้ ก้อนหิน หรืออะไรก็ตามมาวางขั้นล้อรถมิให้เคลื่อนที่แทน เพียงเท่านี้คุณก็ไม่ต้องกังวลว่าเบรกมือจะติดอีกต่อไป

แบตเตอรี่ 12V ประจำรถเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะชี้ชะตาความหัวเสียของคุณ เพราะหลายคนมักเจอปัญหาแบตฯ หมดรถสตาร์ทไม่ติด ต้องหาใครมาช่วยพ่วงจัมพ์สตาร์ทรถกันให้วุ่นวาย ร้ายกว่านั้นแบตฯ อาจเสื่อมสภาพจนเก็บประจุไม่อยู่ถึงขั้นต้องเสียเงินเปลี่ยนลูกใหม่ไปเลยก็มี

วิธีการรักษาสภาพแบตเตอรี่ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานเสมอ อาจต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นมาซักหน่อย แต่ในระยะยางคุณจะสามารถใช้วิธีการนี้ได้กับรถทุกคันภายในบ้าน นั่นก็คือการซื้อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่มีโหมดกระตุ้นแบตฯ และฟื้นฟูภายในตัว ซึ่งวิธีการนั้นแสนง่ายเพียงนำอุปกรณ์ไปเสียบเข้ากับแบตฯ ประจำรถ จากนั้นจึงค่อยนำปลั๊กไปเสียบกับไฟบ้าน เพื่อให้กระแสเข้ามาหล่อเลี้ยงแบตฯ 12V ผ่านเครื่องมือดังกล่าว

โดยปกติแล้วอุปกรณ์ชนิดนี้มีราคาราว 1,000-10,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและฟีเจอร์ความสามารถในการใช้งาน หากอยากประหยัดเงินก็ใช้แบรนด์โนเนมจากจีน แต่หากชอบคุณภาพกับการรับประกันก็ลองใช้ของมียี่ห้อราคาสูงขึ้นมาหน่อย

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 4 วิธีในการรักษารถยนต์คันโปรดของคุณให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เมื่อต้องจอดรถเป็นเวลานาน เราหวังว่าการไปเที่ยวต่างประเทศ เรียนต่อ หรือทำธุระกิจต่างประเทศของคุณ จะกลับมาพบกับรอยยิ้มว่าลูกรักไม่มีอาการงอแง และเอาออกไปขับได้เหมือนกับวันที่คุณจากมันไป

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่