ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Nissan Sylphy ซีดานไซส์ C-Segment ที่แทบขายไม่ได้เลยในเมืองไทย กลับทำยอดจำหน่ายปีที่แล้วในจีนไปถึงสี่แสนกว่าคัน เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นล่ะ?

แม้ภาพของนิสสันในเมืองไทยจะดิ่งลงในแง่ลบ ด้วยข้อบ่นจากบรรดาลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ที่มีรถนิสสันจอดเต็มโรงรถ รวมถึงประชาชนคนทั่วไปที่ติดตามข่าวสารวงการยานยนต์ แต่ยังมีอีกประเทศหนึ่งที่คนยกย่องชื่นชม จนส่งให้นิสสันอยู่ในลำดับต้นๆ ยี่ห้อรถยนต์ขายดี นั่นก็คือที่ประเทศจีน

ว่ากันตามตรงกลุ่มรถยนต์ซีดานขนาด C-Segment ในโซนเอเชียมีไม่กี่ประเทศที่ผู้คนให้ความนิยม อาทิ ไทย เกาหลีใต้ และจีน โดยเฉพาะดินแดนมังกรถือได้ว่ามีความต้องการรถใหม่ต่อปีสูงที่สุดในโลก โดยอันดับหนึ่งของยอดขายรถยนต์นั่งประจำปี 2018 ตกเป็นของ Nissan Sylphy ซีดานที่คนไทยน้อยคนนักจะนึกถึงและซื้อหามัน จากการสรุปยอดขายตอนสิ้นเดือนธันวาคมปีที่แล้วซิลฟี่ขายในจีนได้ถึง 481,216 คัน เลยทีเดียว

หากย้อนกลับตอนปี 2016-2017 เจ้าซิลฟี่มียอดขายก้าวกระโดดขึ้นทุกปี จาก 367,797-400,000 คัน และล่าสุดเพียงช่วงครึ่งแรกของปี 2019 นับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวรถเจนเนเรชั่นที่ 14 ตอนเดือนเมษายน ก็จำหน่ายรถไปได้มากถึง 212,317 คัน

อะไรกันที่ทำให้ผู้คนชาวจีนตอบรับซิลฟี่มากมายขนาดนี้? เอาเป็นว่าหากคุณอยากรู้ก็เชิญอ่านได้เลยครับ ปี 2006 คือครั้งแรกที่ Nissan Sylphy เจนฯ 12 เปิดตัว ณ แดนมังกร ตอนนั้นมันตั้งเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าครอบครัวชาวจีนส่วนใหญ่ ที่กำลังมองหารถยนต์นั่งอันมีห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย แล้วเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำม้นกับความทนทานต้องดีเยี่ยมไม่แพ้กัน

สามสิ่งที่กล่าวมาเป็นแกนสำคัญในการผลักดันให้ซิลฟี่เข้าไปอยู่ในใจลูกค้าแดนมังกร เพราะยุคนั้นคู่แข่งในกลุ่มรถซีดานไซส์ C-Segment ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของชาวจีนได้ดีเท่ากับซิลฟี่ หากคุณติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในเมืองจีน จะพบเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น ยุโรป หรือแม้แต่รถสัญชาติจีนเอง พวกเขาจะมีรถซีดาน หรือแม้กระทั่งรถเอสยูวี ในเวอร์ชั่นฐานล้อยาว (Long Wheelbase) อยู่เสมอ

พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมว่า บริษัทรถอื่นๆ เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของชาวจีน เหมือนเช่นที่นิสสันเคยทราบจุดนี้และประสบความสำเร็จตั้งแต่ปี 2006 เรื่อยมาจวบจนถึงปัจจุบัน เพราะคนที่นี่เขาชอบรถภาพลักษณ์ดี แต่ต้องนั่งได้สบายกว้างขวาง และประโยชน์ใช้สอยที่ห้องเก็บสัมภาระก็ต้องมีเหลือเฟือ เพราะช่วงตรุษจีนจะต้องขนข้าวของจำนวนมากนำกลับบ้านไปฝากคนที่พวกเขารัก

นิสสันวางกลยุทธ์หลักไว้สองประการเพื่อการันตีความสำเร็จของซิลฟี่ในอนาคต…

“ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับวัฒนธรรมจีน” เท่ากับ “เสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์นิสสันให้เติบโต” สองสิ่งที่กล่าวมาถือเป็นความชาญฉลาดที่นิสสันมองเกมออกว่าควรทำอย่างไร ให้คนจีนมีภาพรถยี่ห้อนี้ติดอยู่ในสมองและหัวใจของพวกเขาอยู่เสมอ

นิสสัน จีน (Dongfeng Nissan) เลือกใช้จุดเด่นเรื่องความกว้างขวางห้องโดยสารด้านหลังของซิลฟี่ ที่แม้จะนั่งหลังถึงสามคนก็ยังมีความสบายไม่อึดอัดเหมือนอย่างคู่แข่งในตลาด ขณะเดียวกันห้องเก็บสัมภาระท้ายรถก็มีให้มามากมาย เรียกว่าทั้งคนทั้งสิ่งของเดินทางไปพร้อมกันได้แบบไม่ต้องเลือก ยิ่งไปกว่านั้น รูปลักษณ์การออกแบบภายในของซิลฟี่ยังจูกตาต้องในจริตลูกค้าจีนอีกด้วย

All NEW Nissan Sylphy All NEW Nissan Sylphy

ด้วยจุดเด่นที่ทำให้ซิลฟี่เป็นที่นิยมมาต่อเนื่องถึง 13 ปี ยังส่งผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์นิสสันในจีนด้วย เพราะยอดขายรถยนต์โมเดลอื่นๆ ของรถยี่ห้อนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและเดินหน้าต่อเนื่อง โดยในปี 2015-2016 และ 2018 พวกเขาขายรถยนต์ได้ 900,000-1,000,000 และ 1,100,000 คัน ซึ่งมีรถเรือธงเป็นซิลฟี่คอยเติมเชื้อไฟในใจลูกค้าชาวจีนอย่างต่อเนื่อง

เราหวังเช่นกันกับผู้อ่านว่าอยากเห็นนิสสันไทย กลับมาเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าชาวสยามให้การยอมรับเฉกเช่นเดียวกับยุคปี 2000 เราอยากเห็นแบรนด์นี้กลับมาทำตลาดอย่างสร้างสรรค์ เป็นเอกเทศ และโฟกัสได้ตรงเป้าเข้าถึงใจลูกค้าจริงๆ หวังว่าจะได้พบกับนิสสันยุคใหม่เร็วๆ นี้…

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่