หลังจากเปิดตัวเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นแรดอย่าง KIA EV6 เมื่อปี 2021 กลายเป็นรถที่ครองใจชาวเกาหลีและทั่วโลกและเป็นการปูทางให้รุ่นอื่นๆเจริญรอยตาม

ล่าสุดส่งทีภาพทีเซอร์อย่างเป็นทางกับการปรับโฉมครั้งแรกโดยเป็นภาพภายนอกทั้งด้านหน้าและด้านท้ายเริ่มที่ด้านหน้าจุดที่เปลี่ยนนั้นเริ่มที่ ชุดไฟหน้า LED ใหม่ พร้อมไฟ DRL แบบ LED รูปทรงเลขเจ็ดกลับหัวเพรียวบางขึ้นคล้ายกับรุ่น K4 พร้อมกระจังหน้าออกแบบใหม่ และแน่นอนว่ากันชนหน้าดีไซน์ใหม่ด้วย ด้านท้ายคงเดิมแต่สังเกตดีๆจะมีการปรับในส่วนของดีไซน์เส้นไฟในโคมไฟท้าย Connected LED แนวยาวเรียวรูปตัวยูคว่ำ และกันชนหลังใหม่รวมถึงล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 19 -20 นิ้ว

ภายในมีการปรับในส่วนระบบอินโฟเทนเมนต์เวอร์ชันล่าสุด ‘ccNC’ ในจอคู่ขนาดใหญ่สองจอ หรือ Panoramic curved display อยู่ในตำแหน่งลอยตัวและมาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว รองรับ Android Auto, Apple CarPlay ไร้สาย อัพเดทซอฟท์แวร์แบบ OTA  จัดวางแบบลอยตัวควบรวมไว้ในกรอบเดียวกัน ปรับจอควบคุมระบบปรับอากาศขนาดใหม่ 5 นิ้ว

ขุมพลังไฟฟ้ามีทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง 228 แรงม้า ที่ 4,600–9,200 รอบต่อนาที แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ 0-2,600 รอบต่อนาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วดมง ทำได้ 7.3 วินาที วิ่งไกลสุด 504 และ 528 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP  ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD 101 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร ในส่วนล้อหน้าและ 224 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ในส่วนล้อหลัง เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงถึง 325 แรงม้าที่ 6,800-9,000 รอบต่อนาที แรงบิด 605 นิวตันเมตรที่ 0-4,000 รอบต่อนาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 5.2 วินาที วิ่งไกลสุด 484 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP

รุ่น EV6 GT 585 แรงม้าที่ 6,800-9,000 รอบต่อนาที แรงบิด 740 นิวตันเมตรที่ 0-4,200 รอบต่อนาที แบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWDอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุด 405 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1 speed Reduction Gear โดยทั้งสามทางเลือกมีความจุแบตเตอรี่ Li-ion Battery 77.4 kWh สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้หลากหลายทั้งแบบ Normal Mode / ECO Mode / Sport Mode และ Smart Mode

ด้านการชาร์จหัวชาร์จแบบ CCS Type 2 มีทั้งแบบกระแสตรง DC ชาร์จเร็ว 10-80% รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 50 kW ชาร์จเร็ว 73 นาที และรองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 350 kW ในเวลา 18 นาที ส่วนการชาร์จกระแสสลับ AC ชาร์จช้า  รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 11 kW 7.20 ชั่วโมงและยังชาร์จ V2L สามารถต่อกระแสไฟ จากรถยนต์ไปพ่วงใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆได้เบื่องต้นจะเปิดตัวทั่วโลกช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ทางด้านตลาดออสเตรเลียพบกันช่วงสิ้นปี 2024

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: