ตั้งแต่โครงการส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าและรถไฮบริดเกิดขึ้นมา ทางบริษัทรถยนต์ชั้นนำในไทยก็ดูจะตื่นเต้นกันอย่างมาก ท่ามกลางการแข่งขันตลาดยานยนต์แห่งอนาคต บริษัทรถยนต์หลายเจ้าต่างเร่งเดินหน้าพยายามนำเสนอนวัตกรรมใหม่สู่ประเทศไทย และในโครงการลงทุนใหม่ล่าสุดนี้ คนไทยจะได้พบรถอะไรบ้าง ตามการคาดการณ์บนพื้นฐานข้อมูลที่เคยเป็นข่าวออกมา

 

Toyota

ค่ายรถยนต์โตโยต้าดูจะเป็นบริษัทรายแรกที่ดีใจจนเนื้อเต้น เมื่อภาครัฐออกมาเผยแนวการส่งเสริมการลงทุนใหม่ล่าสุดในการสนับสนุนโครงการรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดเมื่อปีกลาย แถมทางบริษัทยังเป็นเสือปืนไวเข้าร่วมโครงการในทันที

รถรุ่นแรกที่จะออกมาตามโครงการส่งเสริมการลงทุนนี้คือรถอเนกประสงค์   Toyota  C-HR Hybrid   มาพร้อมราคาขายไม่เกิน 1.2 ล้านบาท เป็นรถไฮบริดที่ถูกที่สุดในเวลานี้ในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดจากประเทศญี่ปุ่น

โดยหลังจากเปิดตัวรถยนต์   Toyota C-HR   ใหม่ ก็ยังดูจะไม่มีรถใหม่รุ่นใดตามมา แต่ก่อนหน้านี้เคยมีคนพบรถยนต์   Toyota Prius   ใหม่ขับทดสอบบนถนน ในสภาพไม่พรางตัวใด ๆ อาจจะเป็นไปได้ว่า นี่คือรถไฮบริดรุ่นต่อไป ที่จะมาทำตลาด

และมีแนวโน้มสูงมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางโตโยต้า เคยนำรถยนต์   Toyota Prius   โฉมก่อนเข้ามาจำหน่าย ซึ่งถ้ารับการส่งเสริมการลงทุนจะยิ่งทำราคาถูกลงไปอีก ที่สำคัญมันใช้เครื่องเดียวกับ   Toyota C-HR   จึงมีความเป็นไปได้สูงมาก

Toyota-Prius-History012

 

Mazda

 หลายคนแปลกใจที่มาสด้า ศึกษาโครงการส่งเสริมการลงทุนไฮบริดกับเขาด้วย จนหลายคนงงว่าพวกเขาจะเอาอะไรมาขาย

ท่ามกลางงานแถลงนโยบายประจำปี 2018  ทางมาสด้าชี้ว่า  การศึกษาการลงทุนของพวกเขาเพื่อเตรียมนำรถยนต์  Mazda 3 Hybrid   ซึ่งปัจจุบันวางขายในญี่ปุ่น เข้ามาผลิตในประเทศไทย รวมถึงแน่นอนว่าจะต้องขายในประเทศด้วย

โดยมาสด้า 3 ไฮบริดนั้น ใช้เครื่องยนต์   Mazda Skyactiv G  ขนาด 2.0 ลิตร  พ่วงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน โดยมีให้เลือกเพียงตัวถงซีดาน มีความประหยัดสูงสุด 30.8 ก.ม./ลิตร  ถือว่าค่อนข้างประหยัดพอสมควร

 

Nissan  

ทางด้านนิสสัน น่าจะเรียกว่าเป็นบริษัทที่มีความชัดเจนในการนำผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาจำหน่าย  อันที่จริงนิสสันอยากจะนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาจำหน่ายนานแล้ว แต่ยังไม่สบโอกาสสักที การที่รัฐวางแนวนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้ารถยนต์ไฮบริด ก็อาจจะพูดได้ว่าเข้าทางพวกเขาเต็มๆ

สำหรับนิสสันแล้ว พวกเขาชู 2 ผลิตภัณฑ์สำคัญ ที่จะเข้ามาจำหน่าย โดยอย่างแรกคือรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีทั่วโลก   Nissan  Leaf   แม้ว่าความพร้อมของไทยในเรื่องจุดชาร์จต่างๆ จะยังไม่รุดหน้ามามากมาย แต่นิสสันมั่นใจว่าพวกเขาจะขายได้ โดยเฉพาะ 1 ใน 3 จากการวิจัย ร่วมกับฟรอสต์ และ ซัลลิแวน ชี้ว่า คนอาเซียนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถคันต่อไปแน่ๆ ยิ่งสร้างความมั่นใจให้นิสสันเหิมเกริม จนประกาศว่า ไทยจะได้พบ   Nissan  Leaf   แน่ๆ ในปีนี้ โดยเป็นรภที่นำเข้าทั้งคันในราคาประมาณ 2 ล้านบาท

อีกหนึ่งที่ทางนิสสันเล้งว่าจะนำเข้ามาทำตลาดในเร็วๆนี้ ดูจะไม่พ้น ตระกูล   E Power   ซึ่งปัจจุบันในญี่ปุ่นนำเสนอใน   Nissan  Note E Power

ระบบขับเคลื่อน   E Power   เป็นระบบขับเคลื่อนไฮบริดแบบอนุกรม โดยใช้เครื่องยนต์เป็นตัวปั่นไฟฟ้าให้กำลังต่อแบตเตอร์รี่ ไปขับเคลื่อนระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ข้อดีคือผู้ใช้ไม่ต้องกังวลใจในเรื่องการต้องประบเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง ในการใช้รถที่มีระยะทางจำกัดแบบรถไฟฟ้า แต่ยังได้การขับขี่แบบรถยนต์ไฟฟ้า  และที่สำคัญสามารถประยักต์กับนิสสันโน๊ตได้ทันที

แต่ดูเหมือนว่าด้วย Nissan  Note   เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการสนับสนุนตามโครงการอีโค่คาร์ระยะที่ 1 จึงทำให้นิสสันต้องไต่ถามภาครัฐว่า ถ้าเข้าร่วมจะมองว่าเป็นการส่งเสริมการลงทุนซ้ำซ้อนหรือไม่ คล้ายกับปัญหาใช้โปรโมชั่นซ้อนโปรโมชั่น  ซึ่งถ้ามีความชัดเจน เชื่อว่าเราน่าจะได้เห็น   Nissan  Note E power   ในประเทศไทย เร็วๆนี้แน่นอน  

อ่านรีวิว   Nissan  Note E Power   เมื่อ พี่บอล ไปลองขับที่ประเทศ ญี่ปุ่น 

 

Suzuki

ทางด้าน  Suzuki   เป็นบริษัทรถยนต์จากญี่ปุ่น ล่าสุด ที่ออกมาเผยว่าสนใจเข้าร่วมโครงการรถยนต์ไฟฟ้าและรถไฮบริด ของภาครัฐ  

ความสนใจดังกล่าวเมื่อมองผลิตภัณฑ์   Suzuki  ในประเทศไทยแล้ว รถที่น่าจะเข้ามาตอบตลาดรถยนต์ยุคใหม่ น่าจะเป็น   Suzuki Swift  Hybrid ที่มาในร่างเดียวกับ   Suzuki Swift   อีโค่คาร์น้องใหม่ในไทย เพียงแต่ทางซูซูกิ จะติดตั้ง ระบบ   Smart Hybrid Vehicle by Suzuki  

มันเป็นระบบ   Mild Hybrid   ที่มาพร้อมไดชาร์จแบบพิเศษ ซึ่งภายในเป็นมอเตอร์ฟ้า สามารถปั่นไฟฟ้าเข้าไปเก็บในแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็ก และยังเป็นชุดขับมอเตอร์ไฟฟ้าในการสตาร์ทเครื่องยนต์ รวมถึงช่วยเร่งในการขับขี่

ปัจจุบันระบบนี้ มีติดตั้งในรถยนต์   Suzuki Ciaz   ในประเทศอินเดีย และ   Suzuki  Swift  ในประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้ามองความเป็นไปได้ รถที่น่าจะได้อานิสงค์นี้รุ่นแรก น่าจะเป็น   Suzuki Swift   ใหม่ มากกว่า 

suzuki-swift-2017 (4)

อย่างไรก็ดี โจทย์ของ   Suzuki   มีความคล้ายกับนิสสัน ในแง่โปรโมชั่นซ้ำซ้อนหรือไม่  เนื่องจาก  Suzuki Swift   เป็นรถยนต์ที่เข้าตามโครงการอีโค่คาร์ระยะที่ 2 อยู่แล้ว แพ็คเกจใหม่รถยนต์ไฟฟ้าและรถไฮบริด หากบริษัทลงทุนเพิ่มในโรงงานที่ระยองแทบจะสามารถทำได้ทันที เพียงแต่ต้องมองประโยชน์ที่รัฐจะตีความออกมา

ในกรณถ้านิสสันยื่นระบบ   E Power  ผ่าน   Suzuki  ก็น่าจะได้รับการอนุมัติด้วยเช่นกัน 

 

Honda 

ทางด้านบริษัทรถยนต์ฮอนด้า เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยื่นขอเสนอขอเข้าร่วมโครงการรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดในประเทศไทย แต่ก็ยังเป็นข่าวเงียบท่ามกลางบริษัทอื่นที่เปิดตัวรถออกมาโครมๆ ตามกระแสเรียกความสนใจสู่บริษัท

สำหรับปัจจุบันฮอนด้ามีเพียงรถยนต์   Honda Accord Hybrid   เท่านั้นที่เป็นรถยนต์ไฮบริดทั่งขายในบ้านเรา โดยก่อนหน้านี้ ทางฮอนด้าเคยนำเสนอผลิตภัณฑ์ไฮบริดที่น่าสนใจมากกมาย และบางอย่างขายได้ดี เช่น   Honda  Jazz Hybrid   ที่ยังมีขายในต่างประเทศ แต่กลับไม่มาขายในไทย  รวมถึงด้วยพื้นฐานเดียวกันยังมีรถ   Honda  City Hybrid  ที่มีการวางขายให้ช้ำใจที่ประเทศมาเลเซีย  หรือจะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์เล็ก  Honda  HR-V   ที่มีรุ่นไฮบริดเช่นกัน

อย่างไรก็ดีตามแผนงานของฮอนด้าระดับโลก เคยเผนแผนวิสัยทัศน  Honda  Vision 2020   ชี้ทิศทางว่าบริษัทจะต้องทำการลดคาร์บอนไอเสียลงให้มากที่สุด และรถจะยังต้องเข้าถึงลูกค้าในราคาสมเหตุสมผลได้  ซึ่งในวิสัยทัศนใหม่ 2030 ที่เปิดออกเมื่อปีที่แล้ว ฮอนด้าให้ความสำคัญกับรถไฮบริดเสียบปลั้กอย่างมาก พวกเขาตั้งมั่นว่า  จะพัฒนารถเสียบปลั้กให้ได้ และในอีก 10 กว่าปีข้างหน้ารถยนต์ไฟฟ้าฮอนด้าจะต้องขายได้ 2 ใน 3 ของโลก

 ปีที่ผ่านมาทางฮอนด้าพาสื่อมวลชนไทย ไปลองสัมผัสรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศมาหลายทริปมาก แต่ก็ยังเหมือนไม่ฟันธงว่ารุ่นไหนจะมาไทย

แต่ถ้าให้โยนเหรียญกัดคุกกี้เสี่ยงทาย รถที่ฮอนด้าประสงค์จะนำมาไทย น่าจะมี 4 รุ่น คือ  1.  Honda  Jazz Hybrid   2. Honda  City  Hybrid   ทั้งคู่น่าจะถูกวางหมากให้เข้ามาทำตลาดในรุ่นถัดไป แล้วจัดการปลดระวางเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เพื่อให้ความสามารถการแข่งขันตัวรถยังสูงกว่ารถอีโค่คาร์ ดีกว่าไปลดชั้นรถลงไปเจอกับรุ่นเล็ก

Honda-city-Hybrid (1)

สำหรับ   Honda  Accord   Hybrid   เชื่อว่าน่าจะเป็นรถที่ยังได้ไปต่อในอนาคต ส่วนไพ่ใบสุดท้ายที่เชื่อว่า   Honda   จะนำเข้ามาขายในไทย คงไม่พ้น   Honda  Insight  ใหม่ ซึ่งมีการเปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้ว เพียงแต่ยังไม่เปิดรายละเอียดทางเทคนิคออกมาบอกเล่าเก้าสิบกัน

รถไฮบริด   Honda Insight  ใหม่ 

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าฮอนด้ายังไม่มีโมเดลเสียบปลั้กไฟฟ้าล้วนขนาดเล็ก ยกเว้น   Honda  Clarity   ที่มีขนาดใกล้เคียงรถยนต์   Honda  Accord   ซึ่งไม่น่าจะเข้ามาแข่งขันได้ในไทย

 

เป็นอย่างไรบ้างครับ บรรดารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่เตรียมเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จากโครงการส่งเสริมการลงทุนรถไฟฟ้า และรถไฮบริด ของภาครัฐบาล บอกเลยว่ามีรถน่าสนใจเพียบ รอเพียงเวลาที่มันจะมาขายในไทยเท่านั้น 

 

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่