ท่ามกลางกระแสการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ การก่อกำเนิดรถยนต์ประเภทใหม่ “รถอเนกประสงค์” ดูจะได้รับความนิยมทั่วโลก ความสามารถในการสนองต่อความต้องการคนรุ่นใหม่ที่กิจกรรมมากมาย ชีวิตอันหลากหลายอย่างสุด ส่งให้รถกลุ่มนี้ขายดีมากขึ้น และด้วยอานิสงค์เดียวกันนี้ ก็ยังให้ผลข้างถึง “รถกระบะ” ที่ทำตลาดมาหลายนานหลายปี

ภาพการเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้งาน “รถกระบะ” ยุคใหม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง รถเหล่านี้ดั้งเดิมเกิดมาเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์กำลังถูกขลับให้กลายเป็นรถนั่งพรั่งพร้อมความอเนกประสงค์ในการใช้งานมากขึ้น พวกมันดูดี ขับดี และใช้งานได้หลากลาย ตั้งแต่ใช้ในชีวิตประจำวัน จนไปลุยในวันว่าง ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

แนวโนเมการเปลี่ยนแปลงการใช้กระบะมีขึ้นมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยกระบะยุคแรก การวิจัยเก่าๆ จากในอเมริกาชี้ว่าตั้งแต่วันแรกที่รถกระบะเกิดขึ้น พวกมันไม่ได้ถูกใช้เพื่อการทำงานอย่างเดียว แต่ยังรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย ในปี1990 งานวิจัยชิ้นหนึ่งในอเมริกา ที่ถูกอ้างอิงในหนังสือ   The American Truck   ระบุว่า มีรถกระบะเพียง ร้อยละ 18 เท่านั้น ที่ถูกซื้อมาเพื่อใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง

รถกระบะ ไม่ได้ถูกใช้เพื่อการทำงานเท่านั้นอย่างที่เราเข้าใจ ในเวลาหลังเลิกงาน รถเหล่านี้ถูกใช้ตอบโจทย์ในการใช้ชีวิต สำหรับโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ต้องนำเสนอสิ่งใหม่ต่อตลาด พวกเขาวางหมากให้รถกระบะเป็นมากกว่ารถใช้งาน มันเป็นที่พรั่งพร้อมในความสามารถและมีดีเท่ารถยนต์อเนกประสงค์

ในอเมริกาจากข้อมูลจากจดทะเบียนรถยนต์ของ   Hedge and The Company เผยว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ยังนิยมรถกระบะ โดยมียอดจดทะเบียนในอเมริกาถึง 18%  มากกว่า ยอดจะทะเบียนรถอเนกประสงค์ที่มีเพียง 12%

ภาพเดียวกันก็เกิดขึ้นในประเทศไทยเช่นกัน  โดยใน 5 อันดับแรกของรถยนต์ขายดีประจำปี 2017 ที่มีรายงานเมื่อไม่นานมานี้ของ   Headlightmag.com  (จากการรวบรวมของทางเว็บไซต์เอง) ระบุว่า 4 ใน 5 ของรถยนต์ที่คนไทยนิยมมากที่สุด ยังเป็นรถกระบะ ไม่ว่าจะ  Isuzu  Dmax, Toyota Hilux Revo , Ford Ranger  หรือ   Mitsubishi  Triton

โดยท่ามกลาง 10 อันดับรถขายดี รถยนต์นั่งขนาดเล็กกลายเป็นกลุ่มที่มียอดขายดีรองลงมา ส่วนบรรดารถยนต์อเนกประสงค์ที่ดูเหมือนกำลังจะมาตามกระแสโลก กลับพบว่า ใน 20 อันดับรถยนต์ขายดี  ส่วนใหญ่คนยังนิยมรอเนกประสงค์จากพื้นฐานกระบะ อาทิ   Toyota Fortuner, Mitsubishi  Pajero Sport ,  Isuzu  Mu X   ครอสโอเวอร์ ส่วนอเนกประสงค์จากพื้นฐานรถเก๋ง มีเพียงรถรุ่นเดียวที่รอดตายมาได้ คือ   Honda HR-V   เท่านั้น ชี้ชัดหนักแน่น ว่ากระบะยังหนึ่งในใจคนไทยเสมอมา

แต่ภาพของการเปลี่ยนในกลุ่มกระบะต่อการใช้งานในเชิงการใช้ชีวิตเริ่มชัดขึ้นอีก เมื่อเจ้าลึกเข้าถึงข้อมูลรูปแบบตัวถังที่ทางเว็บไซต์ได้เก็บข้อมูล พบว่า รถกระบะที่ขายดีที่สุดอย่าง  Isuzu  Dmax  มียอดขายรถกระบะ 4 ประตูสูงถึง 52,658 คัน แม้ว่าจะยังพ่ายรถแคปตอนครึ่ง 10,200 กว่าคัน แต่ยอดขายนี้ก็มากกว่า รถกระบะแบบหัวเดียวหรือ  Single  Cab

ในทำนองเดียวกันกับ   Toyota   ยอดขาย   Toyota Hilux Revo  ใหม่ ทำยอดขายรุ่น 4 ประตู  33,701 คัน มันเป็นรองยอดขายกระบะตอนครึ่ง แต่ก็มากกว่ายอดขายกระบะหัวเดี่ยว เช่นกัน

ยอดขาย 2 ค่ายกระบะชั้นนำดูจะไปในทิศทางเดียวกัน แต่   Ford ค่ายกระบะแกร่งจากอเมริกา ดูจะเป็นค่ายเดียวที่ยอดขายกระบะ 4 ประตู มากที่สุดในค่ายด้วยยอดขาย 28,079 คัน เป็นรองโตโยต้าเพียง 5,000 คัน ทั้งที่มียอดขายรวมห่างกันเท่าตัว  หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของยอดขายกระบะฟอร์ดในประเทศไทย

สาเหตุที่คนในปัจจุบันเริ่มกลับมาให้ความนิยมรถยนต์กระบะอีกครั้ง มาจากกระแสความนิยมรถยนต์อเนกประสงค์เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับวิถีวิตคนในวันนี้เปลี่ยนไป แถมรถกระบะมีราคาไม่แพงจนไกลเกินเอื้อม

ในระดับราคา 7 แสน – 1 ล้านบาท ลูกค้าสามารถเลือกซื้อกระบะได้ทุกรูปแบบ มีหลายทางเลือกที่ต้องการ ทั้งขับสองยกสูง ,ขับเคลื่อนสี่ล้อ , แถมเครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ยังมีพละกำลังดี ขับมั่นใจให้ความประหยัดมากขึ้น

ตลอดจนด้วยการสั่งสมการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รถกระบะสมัยใหม่มีความน่าใช้งานมากขึ้นไม่ว่าจะงานออกแบบภายนอกที่ดูดีมากขึ้น รวมถึงภายในห้องโดยสารที่มีออพชั่นการใช้งานดีขึ้น บางยี่ห้อออพชั่นภายในดีกว่าซื้อรถเก่งในระดับราคาเดียวกันด้วยซ้ำไป แถมยังได้รถที่มีพื้นที่โดยสารกว้างขวางกว่า มิหนำซ้ำเรื่องอาการช่วงล่างแข็งกระด้างขับแล้วไม่มั่นใจในยุคก่อน ถูกปรับปรุงจนขับได้ไม่น้อยหน้ารถเก๋งในสมัยนี้

ส่วนสาเหตุที่กระบะแค๊ปยังเป็นที่นิยมมากที่สุดมาจากความสามารถในการเปิดพื้นที่แค๊ปได้ แม้จะไม่สามารถอำนวยการโดยสารให้มีความสะดวกสบายเท่ารุ่น 4 ประตู แต่ราคาที่ถูกกว่าหลายแสนบาท และการตีความในเรื่องการจดทะเบียนเป็นรถบรรทุกส่วนบุคคล (ป้ายเขียว) เป็นส่วนหนึ่งทีทำให้รถกระบะตอนครึ่งยังได้รับความนิยมอย่างมาก

อย่างไรก็ดี ข้อพิสูจน์ว่ากระบะวันนี้ไม่ได้ถูกใช้ในเชิงพาณิชย์มากเหมือนแต่ก่อน เป็นที่สังเกตได้จากบรรดาบริษัทรถยนต์ ในวันนี้ค่ายรถกระบะชั้นนำทุกบริษัท มีรถรุ่นตบแต่งพิเศษ สนองความต้องการผู้ซื้อ อาทิ   Ford Ranger Wildtrak, Chevrolet Colorado High Country,Nissan Navara Black Edition,   Isuzu  Dmax   ที่มีทั้งสายลุย   V Cross Max   และ   สายซิ่ง   X Series   จนโตโยต้าอดรนทนไม่ได้ เปิด   Toyota Hilux Revo Rocco   และ Mitsubishi   ส่ง   Mitsubishi  Triton Athlete   ออกมาวางจำหน่าย 

และล่าสุด   Ford   เป็นบริษัทแรก และบริษัทเดียวในเวลานี้ที่ตอกย้ำ ภาพการใช้กระบะที่เพื่อการใช้ชีวิต พวกเขาท้าทายด้วยการนำเสนอ กระบะขนาดกลาง เครื่องแรงแต่งเต็มจากโรงงาน  Ford Ranger Raptor   แม้ว่าจะยังไม่ประกาศราคาจำหน่าย แต่ก็เชื่อว่าจะเป็นกระบะที่มีราคาสูงถึงเหยียบล้านบาทกลางๆ  จากของแต่งชั้นนำ และการพัฒนาในร่างสุดยอดกระบะที่วันนี้เปลี่ยนเป็นรถกระบะสปอร์ตพร้อมลุยดีๆ หนึ่งคัน

ความกล้าของค่ายวงรีสีน้ำเงินยิ่งชี้ว่า พวกเขามองว่ากระบะไม่ใช่รถเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์อีกต่อไป และอันที่จริงแล้วในต่างประเทศ รถกระบะถูกปรับภาพมาสู่การเป็นรถใช้งานอเนกประสงค์มากขึ้น โดยเฉพาะกระแสฮือฮาที่สุดเมื่อปีกลายไม่พ้นค่าย   Mercedes Benz   เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการจับมือกับ  Nissan   ผลิตรถยนต์   Mercedes Benz  X Class   จากพื้นฐานของกระบะ   Nissan Navara

แต่ภาพของกระบะเพื่อการใช้ชีวิตก็ถูกมองมานานแล้ว โดย  Honda   มีกระบะ   Honda  Ridgeline   ขายในอเมริกา มันเป็นกระบะที่มาจากพื้นฐานรถเก๋ง เน้นพัฒนาตอบสนองคนทำกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ต้องขนของชิ้นโต อาทิ รถมอเตอร์ไซค์วิบาก หรือ   ATV 

ภาพการใช้กระบะของคนไทยและทั่วโลก วันนี้เริ่มเปลี่ยนไป แม้กระบะอาจจะถูกใช้งานเพื่อเชิงพาณิชย์อยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ในภาพของคนซื้อกระบะยุคใหม่แล้ว พวกมันกำลังผันไปสู่การเป็นรถใช้งานวันว่าง ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้ลุยได้อย่างสมบุกสมบัน และดูดีอย่างไม่เคอะเขินเมื่อขับไปทำงาน กระบะกำลังหวนสู่ยุคใหม่ตัวตนที่เปลี่ยนไป และมันจะเป็นรถที่อยู่ในใจใครหลายคนไปอีกนาน

 

ที่มาข้อมูล บางส่วน ยอดขายกระบะแยกตามตัวถังรถ   Headlightmag.com , 10 อันดับรถยนต์ขายดีปี 2017   Headlightmag.com

 
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์   Ridebuster.com  ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง  Facebook 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่