เคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมเวลาเราคิดจะซื้อรถใหม่สักคันหนึ่ง ต้องมองดูรถที่มีขนาดใหญ่กว่าคันเก่า หรูหราเพิ่มขึ้น หรือต้องมีเครื่องแรงไว้ก่อน วันนี้เราจะมาเปิดปมให้ทุกท่านได้รับรู้
คิดหนักทุกทีเวลามีคนมาปรึกษาว่าอยากได้รถใหม่สักคัน ซึ่งทุกคนมักมีคำตอบคร่าวๆ อยู่ในใจแล้วทว่ายังไม่ชัวร์ที่จะตัดสิน โดยมากร้อยละ 90 มองหารถคันถัดไปมีขนาดต้องใหญ่กว่าคันปัจจุบัน หรือไม่ก็กระโดดข้ามเซ็กเม้นท์จากอีโคคาร์ไปขับรถเอสยูวี และพีพีวีรถยอดนิยมของคนยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ สาเหตุที่คนส่วนใหญ่ขยับขยายรถให้ดีกว่าเดิม จริงๆ แล้วมันมีเหตุผลอะไรบ้าง?
อยากได้รถคันใหญ่ขึ้น เผื่อครอบครัวไปพร้อมกัน
เริ่มข้อแรกด้วยเหตุผลสุดคลาสสิกเวลาคิดจะซื้อรถใหม่แทนคันเก่า ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใด สถานภาพทางสังคมแบบไหน ประจวบกับมีเงินเท่าไหร่ในบัญชี การซื้อรถคันใหญ่ขึ้นเพื่อครอบครัวก็เกิดขึ้นอยู่เสมอ
ความคิดนี้ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร แต่เราอยากให้ผู้อ่านลองพิจารณาสักนิดก่อนคิดเซ็นใบจอง ไม่ว่าคุณจะขยับจากรถเก๋ง 4 ประตู ไปเลือกรถ PPV ค่ายญี่ปุ่นหรืออเมริกา ลองเช็คความคุ้มค่าจากตัวอย่างคำถามของเรา เพื่อการันตีว่าคุณเหมาะจะขยับไซส์รถให้สิ้นเปลืองขึ้นหรือไม่
- คุณขับรถคนเดียวหรือนั่งแค่ 2 คน เป็นประจำ ในหนึ่งเดือนขับคนเดียวถึง 20-25 วัน นานทีจะมีคนขึ้นครบ 4 คน
- คุณเป็นคนโสด แต่มีครอบครัวคือพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ที่นานๆ ทีจะพากันไปเที่ยวต่างจังหวัด ราว 3-4 เดือนต่อหนึ่งครั้ง
- คุณอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่เป็นหลัก ไม่ค่อยได้ขับรถทางไกล
- คุณซีเรียสเรื่องความประหยัดน้ำมัน รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมา
ถ้าทั้งสามข้อที่กล่าวมาคุณผู้ยังครองโสดอยู่แล้วตอบว่าใช่ถึง 2 ข้อ นั่นก็แปลว่าคุณควรพิจารณาให้ดีว่า การซื้อรถคันใหม่ให้ใหญ่ขึ้น แท้จริงแล้วมันจำเป็นจริง หรือเพียงแค่จ่ายเงินส่วนต่างราคาแพง ในการให้ความสบายแก่บุคคลในครอบครัวเพียงช่วงเวลาไม่ถึง 80% ของการใช้รถโดยคุณ
“นิสัยชอบเผื่อติดตัวอยู่กับคนไทยเกือบทุกคน แต่หากเผื่อมากไป ภาระหลังจากนั้นจะกลับมาทำร้ายเจ้าของรถ”
ครอบครัวใหม่ กำลังจะมีเจ้าตัวเล็ก
ต่อกันด้วยกรณีที่คุณมีแฟน แล้วมีแผนการว่ากำลังจะแต่งงานในเร็ววัน ข้อนี้พบเห็นได้บ่อยเป็นอันดับสอง เนื่องจากคู่รักมักมองภาพอนาคตไว้เป็นขั้นตอน ประมาณว่าพอแต่งงานเสร็จก็จะเริ่มคิดมีทายาท พอมีลูกก็ต้องซื้อรถคันใหญ่ขึ้น เวลาไปไหนลูกจะได้นั่งสบาย ใส่ของได้เยอะ สรุปไปเองว่ารถคันใหญ่ย่อมปลอดภัยกว่ารถคันเล็ก เหล่านี้เป็นเหตุผลหลักที่คนกำลังจะแต่งงาน หรือแต่งไปแล้วใกล้จะมีลูกนึกคิด
บางทีเราก็นึกอดเป็นห่วงไม่ได้กับความคิดประมาณนี้ เพราะถ้ามองตามหลักเศรษฐศาสตร์ การเริ่มต้นครอบครัวใหม่จะต้องลงทุนเงินอีกเป็นจำนวนมาก ไหนจะค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ค่าผ่อนบ้านผ่อนคอนโด หรือแม้แต่ค่านม ค่ารักษาพยาบาล และค่าเล่าเรียนของลูกที่กำลังจะเกิดขึ้น เอาแบบนี้ถ้าคุณยังนึกภาพไม่ออก เรามีเหตุผลว่าการใช้รถคันเก่ายังตอบโจทย์ได้อยู่
- คนส่วนใหญ่คิดว่าเวลาแต่งงานใหม่หรือกำลังจะมีลูกต้องเตรียมเงิน ไว้สำหรับซื้อรถคันใหม่ให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วถ้ามองด้วยใจเป็นกลาง รถคันเก่าคู่บุญของคุณยังทำหน้าที่ได้ดี โดยให้ดูว่ารถคุณนั้นมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อเด็กหรือไม่ เช่น จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX ที่เบาะหลัง ถ้ามีก็แปลว่าคุณยังใช้รถคันนั้นได้ต่อ
ซื้อรถใหม่เพราะแคร์ภาพลักษณ์
รถยนต์ = ภาพลักษณ์ สังคมไทยมองสถานะสังคมด้วยเปลือกนอกนี่คือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้ายานพาหนะ 4 ล้อ ที่หนุ่มสาววัยทำงาน พอเริ่มดำเนินชีวิตด้วยลำแข้งของตนเองได้สักพัก ก็เริ่มมีความคิดจะซื้อรถใหม่เป็นดั่งตัวแทนความก้าวหน้าในชีวิต ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ไม่ได้ผิดอะไร แต่ถ้าคิดไม่ดีผลกระทบที่ตามมายิ่งส่งผลให้แย่กว่าเดิม
“คนไทยให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มาก โดยเฉพาะกับรถยนต์ที่กลายเป็นหนึ่งเครื่องมือบ่งบอกสถานะทางสังคม”
ถามว่าข้อดีของการซื้อรถใหม่มีอะไรบ้าง เราตอบได้เป็นข้อๆ ประมาณนี้
1. รถสวยถูกใจเจ้าของ
2. รถแรงขึ้นขับสนุก ประหยัดน้ำมัน
3. ภาพลักษณ์ที่คนอื่นมีต่อเราดีขึ้นกว่าตอนใช้รถเก่า
4. ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เทคโนโลยีสะดวกสบายเต็มคัน
พอมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียเวลาถอยรถป้ายแดงบ้าง
1. ต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อดาวน์รถ ค่าผ่อนก็ต้องหามาจ่ายเพิ่มภาระให้ตัวเองทุกเดือน
2. ค่าเบี้ยประกันภัย ค่าบำรุงรักษา ค่าภาษี ของรถรุ่นใหม่ทุกวันนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
3. เจ้าของรถจะต้องมีวินัยทางการเงินสูงขึ้น เรียกว่ารัดเข็มขัดแน่นเลยในบางคน
ด้วยข้อดี ข้อเสียที่เราอธิบายมาทั้งหมด อาจพอทำให้ผู้อ่านเห็นภาพแล้วคิดตามได้ว่า การซื้อรถใหม่นั้นมีข้อดีมากมายที่เกิดขึ้นต่ออารมณ์ความรู้สึก กลับกันข้อเสียจะเกิดขึ้นแล้วกระทบต่อเรื่องเงินทองอย่างชัดเจน บางคนซื้อรถใหม่คันโก้ สวยหรูดูสปอร์ตทันสมัย แต่การใช้ชีวิตจริงไม่ได้เป็นสุขดั่งภาพลักษณ์ที่สร้างไว้ ยังต้องรัดเข็มขัดการเงินอย่างรอบคอบ หากวันใดบริษัทเกิดเลิกจ้าง หรือมีเหตุให้เจ็บป่วยไม่สบาย และเรื่องราวฉุกเฉินเกิดกับตัวเองจนถึงครอบครัว วันนั้นรถคันใหม่จะกลายเป็นภาระแทนที่ความดีงาม
อ้าว!! แล้วเมื่อไหร่ที่ควรตัดสินใจซื้อรถใหม่?
เนื้อหาก่อนหน้านี้อาจเขียนในเชิงเตือนสติหนักไปบ้าง แต่ย่อหน้าหลังจากนี้เราจะมาบอกว่าถ้าคุณเข้าเค้าตามเกณฑ์ต่อไปนี้ ให้ไปธนาคารสั่งเขียนเช็คสั่งจ่ายดีลเลอร์ขายรถได้เลย
- รถคันเก่านั่งได้เพียง 5 คนเต็มที่ แต่ครอบครัวมีสมาชิก 6-7 คน แถมยังออกไปทำธุระ กินข้าว ท่องเที่ยวบ่อยครั้งพร้อมๆ กัน
- รถคันเก่ามีอายุเกิน 10 ปี เริ่มมีอาการเสียตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรงรถขับต่อไม่ได้
- ต้องการความปลอดภัยให้กับครอบครัวขั้นสูงสุด รถคันเดิมมีถุงลม 2 ใบ แถมไร้ระบบเบรกเอบีเอส หรือระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
- มีงบการเงินดาวน์ ผ่อนรถต่อเดือนได้สบาย แบบไม่ต้องรัดตึงเกินไป คิดง่ายๆ เงินเดือน 5 หมื่น ผ่อนรถราว 1-2 หมื่น แล้วยังมีเงินเหลือไว้เผื่อฉุกเฉินก็ยังพอไว
- ข้อสุดท้าย เรียกว่าเหมือนคําประกาศิต “มีเงินจบนะ” ถ้าเรื่องเงินทองไม่ใช่ปัญหาของคุณ จะซื้อรถคันใหม่ แบรนด์ไหน ราคาเท่าไหร่ ก็เลือกได้ตามใจ
สุดท้ายนี้ เราหวังว่าบทความที่เราเขียนจะช่วยเปิดแง่มุมที่ผู้อ่านลืมนึกถึง เพราะการซื้อรถใหม่ใช่เพียงการได้ทรัพย์สินเพิ่มเท่านั้น สิ่งที่ตามมายังเป็นภาระความรับผิดชอบ ทั้งเรื่องการผ่อนชำระ ค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวข้อง ซึ่งหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา รถคันนั้นจะมาลดคุณภาพการใช้ชีวิตของคุณเจ้าของทันที
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
