ยุคนี้หลายคนคงอยากจะได้รถยนต์อเนกประสงค์สักคันไว้ในการครบครอง ด้วยความนิยมในกระแส ความต้องการในการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป คนจำนวนไม่น้อยมองอเนกประสงค์ แล้วก็คิดว่า พวกมันมีความเหมือนๆ กัน  ไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะหลายคนเข้าใจผิดหรือไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับ อเนกประสงค์พื้นฐานกระบะหรือ PPV 

ทุกวันนี้รถยนต์อเนกประสงค์แบบ   PPV   ถือเป็นรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากความต้องการในความคิดว่า ต้องการหารถที่แตกต่าง หลายคนไม่เข้าใจพวกมัน เมื่อซื้อมาใช้แล้ว รู้สึกว่าไม่ตรงความคิด แบบที่เคยเข้าใจ โดยเฉพาะหลายคนกระโดดจารถเก๋งมาขับรถประเภทนี้ อาจจะรู้สึกถึงความแตกต่างโดยสิ้นเชิง และวันนี้เราอยากมาปรับความเข้าใจเกี่ยวกับรถอเนกประสงค์แบบ   PPV 

ก่อนจะเริ่มต้น คุณต้องเข้าใจก่อนว่า รถอเนกประสงค์แบบ   PPV   หรือ   Pick Up Passenger Vehicle    เป็นรถอเนกประสงค์ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานกระบะพัฒนาให้มีความสามารถในการรองรับการโดยสารได้ดีขึ้นกว่รถกระบะที่มีส่วนบรรทุกด้านท้ายรถ ซึ่งรถทุกรุ่นในกลุ่มนี้ จะยังคงใช้โครงสร้างวิศวกรรมจากกระบะ แต่มีการปรับเปลี่ยนให้มีความสามารถในการขับขี่มากขึ้น 

ปัจจุบัน มีรถที่เข้าข่ายกลุ่มอเนกประสงค์จากกระบะ อยู่หลายรุ่นได้แก่  Toyota Fortuner , Mitsubishi Pajero Sport, Ford Everest ,Isuzu Mu X ,  และน้องใหม่ ที่กำลังจะมาขาย Nissan  Terra 

1.ขนาดใหญ่กว่า..จึงเทอะทะกว่า  ถ้าคุณเป็นผู้ขับขี่รถเก๋งมาก่อน แล้วตั้งใจจะซื้อรถยนต์อเนกประสงค์แบบ  PPV   ปัญหาแรกที่มักจะเจอ คือ คุณรู้สึกว่ามันขับยาก เนื่องจากมีขนาดใหญ่และยาวกว่า นั่นเป็นปกติของรถยนต์อเนกประสงค์กลุ่มนี้ แต่ก็มีความพยายามในการทำให้รถมีขนาดพอเหมาะต่อการใช้งาน เช่น  Toyota  Fortuner   มีความยาว 4795 มม.  มันยาวกว่า   Toyota Altis   ถึง  175 มม. อาจฟังดูไม่เยอะนัก แต่เมื่อมาดูความกว้างตัวรถ 1855 มม. มันกว้างกว่าอีก 80 มม. ทำให้การใช้งานบนถนนยากกว่าเก๋งในระดับหนึ่ง และหาที่จอดรถยากกว่า  โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยผ่านมือรถที่มีขนาดใหญ่มาก่อน 

2.ขับไม่ดีเท่าเก๋ง ถึงรถอเนกประสงค์   PPV  จะใช้คำว่า “รถอเนกประสงค์”  แต่ก้ใช่ว่าคุณจะคาดหวังว่าพวกมันจะขับได้ดีเทียบเท่าเก๋งที่เคยใช้ ด้วยความเป็นรถอเนกประสงค์ พวกมันถูกวิศวกรรมให้รองรับความสามารถในการลุยอย่างสมบุกสมบันมากกว่ารถเก๋ง ส่วนใหญ่รถพวกนี้จะมีระยะความสูงจากพื้นมากกว่า  เพื่อตอบโจทย์เรื่องลุย ทำให้เมื่อพูดถึงการขับบนถนนปกติ พวกมันจะมีการโยนตัวมากกว่ารถเก๋ง เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว และไม่เหมาะจะขับด้วยความเร็วสูงมาก เนื่องจากอาจะมีโอกาสพลิกคว่ำง่ายกว่า จากความสูงของมัน 

รถอเนกประสงค์แบบ   PPV

3.ช่วงล่างแข็งกว่า เมื่อต้องมองหารถนั่งหลายคนคงคิดจะหาความนุ่มนวลจากรถอเนกประสงค์ แต่ถ้าคุณซื้อรถอเนกประสงค์จากกระบะ พวกมันมีความนุ่มนวลในแบบของพวกมันเอง 

ด้วยหัวใจสำคัญในการพัฒนาจากโครงสร้างกระบะ ทำให้รถอเนกประสงค์  PPV   ต้องมีชิ้นส่วนร่วมบางอย่างกับกระบะอยู่เพื่อเข้าขายตามโครงสร้างภาษีของภาครัฐ ชิ้นส่วนหลักที่ยังใช้ร่วมกันส่วนใหญ่คือ โครงสร้างเชสซี ซึ่งการมีเฟรมตัวรถรถแยกจากแชสซี ทำให้การให้ตัวเชิงโครงสร้างรถอเนกประสงค์กลุ่มนี้น้อยกว่าเก๋ง เนื่องจากระบบกันสะเทือนจะติดตั้งกับตัวแชสซี ไม่ใช่ตัวถัง  ข้อดีคือมันลุยได้ดีกว่า อเนกประสงค์ที่ใช้โครงสร้างแบบรถเก๋ง 

กลับกันรถอเนกประสงค์พื้นฐานกระบะก็ยังมีความกระด้างของช่วงล่างอยู่บ้า งแม้จะน้อยกว่ากระบะ เนื่องจากปัจจุบันส่วนใหญ่มีการเปลี่ยนระบบช่วงล่างอิสระ หรือกึ่งอิสระทางด้านหลัง แต่พวกมันก็ยังใช้โครงสร้างแชสซีเป็นหลักในการซับแรงกระแทกจากพื้น ยังผลให้ยังคงแอบมีความกระด้างอยู่บ้าง 

รถอเนกประสงค์แบบ   PPV

4. ไม่ประหยัดอย่างที่คิด คนจำนวนไม่น้อยมองเครื่องดีเซลคือเทพพระเจ้าความประหยัดของเครื่องยนต์ …. พวกคุณเข้าใจผิดมหันต์ รถอเนกประสงค์แบบ   PPV   อาจจะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลก็จริง แต่อย่าถามหาความประหยัดจากพวกมันมากนัก ด้วยขนาดรถที่มีความใหญ่กว่าเก๋ง สูงกว่าเก๋ง แถมยังมีน้ำหนักตัวเปล่าหนักกว่า  (ยกตัวอย่าง   Toyota  Fortuner   มีน้ำหนักเปล่า 2060 กก.)  อุปสรรคที่กล่าวมาล้วน เป็นหอกข้างแคร่ต่อแง่ความประหยัดในการขับขี่ที่คุณอาจจะเฝ้าใฝ่หา 

จากประสบการณ์การทดสอบรถตระกูลนี้หลายรุ่น ที่ผ่านมือแน่ๆ มี 3  รุ่น คือ   Toyota , Fortuner , Mitsubishi  Pajero Sport   และ  Ford Everest  สรุปได้ว่า การขับรถกลุ่มนี้ในเมืองจะมีอัตรประหยัดเฉลี่ยไม่เกิน  11 ก.ม./ลิตร และนอกเมืองถ้าเดินทางด้วยความเร็วไม่เกิน  120 ก.ม./ช.ม. จะได้อัตราประหยัดไม่เกิน  14 ก.ม./ลิตร  และยิ่งคุณมีจำนวนผู้โดยสารมาก อัตราประหยัดก็จะยิ่งแย่ลง โดยเฉพาะรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่ใหญ่

รถอเนกประสงค์แบบ   PPV 5.นั่ง 7 ใช้งานได้ แต่อย่าหวังมาก  กลายเป็นประเด็นที่หลายคนมองถึงความคุ้มค่า เมื่อมีคนบอกว่ารถยนต์กลุ่มนี้ สามารถรองรับการโดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง และเมื่อคุณดู ก็พบว่ามันใช้งานได้จริงเสียด้วย 

7ที่นั่งในอเนกประสงค์ฟังดูคุ้มค่าน่าใช้ คำนวนราคาแล้วก็แทบจะเรียกว่า เสร็จเซลล์ไปหมดเสียทุกราย แต่หลายครั้งจากประสบการณ์ที่นำมาทดลองขับ รถยนต์อเนกประสงค์แบบนี้  ออกแบบที่นั่งเบาะตอนที่ 3 มาสำหรับผู้โดยสารตัวเล็กหรือเด็ก ทำให้เมื่อใช้งานจริงอาจไม่ได้ตามที่หวังไว้ อย่างที่ต้องการ 

มาถึงตรงนี้ เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะเข้าใจรถอเนกประสงค์จากพื้นฐานกระบะมากขึ้น เราไม่ได้บอกว่าพวกมันไม่ได้ เพราะความจริงรถกลุ่มนี้เจ๋งมากในเรื่องการลุย แต่ถ้าคุณคิดว่าจะหารถขับกับครอบครัว เน้นความสบายในการเดินทา งพวกมันอาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่ารถแบบ   Cross Over 

ตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับรถอเนกประสงค์   MPV – SUV -Crossover   ได้ที่นี่ 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่