ท่ามกลางการแข่งขันตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ในช่วงระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นแบรนด์รถยนต์ใหม่ และแบรนด์เก่าที่กลับมาแจ้งเกิดในตลาดอีกครั้ง การเข้ามาของบริษัทหน้าใหม่เหล่านี้ต่างทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นในปัจจุบัน

รายล่าสุดที่เข้ามาทำตลาดในไทย ไม่มีกระแสไหนโดดเด้งไปกว่า การกลับมาของรถยนต์แบรนด์น้ำหอม  Peugeot   (เปอร์โย) เดิมทีรถแบรนด์นี้ไม่ได้หายไปไหน แต่ไม่ค่อยทำตลาดเท่าไรนัก ทำให้แบรนด์ที่เคยสร้างชื่อเสียงในสมัยรุ่นพ่อจางหายไปจากตลาดแม้ว่าจะมีรถรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดบ้างก็ตาม

แบรนด์เปอร์โย กลับเข้ามาอีกครั้ง ภายใต้การแต่งตั้งของ กรุ๊ป  PSA   ให้ บริษัท เบลฟอร์ด ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ (กรุ๊ป) คอร์เปอร์เรชั่น เอเชีย จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์นี้ โดยรถรุ่นแรกที่จะนำเข้ามาจำหน่ายคือ  Peugeot 3008   ใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิต รเทอร์โบ

ในวันเปิดตัวกระแสข่าวชี้ตรงกันว่า รถรุ่นนี้ จะมาพร้อมราคาขายเพียง 1.4 -1.5 ล้านบาท ด้วยการนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งยังไม่มีใครตอบได้ว่าข่าวนี้จริงเท็จแค่ไหน

การมาของแบรนด์สิงโตครั้งนี้เป็นที่สนใจขอคนจำนวนมาก เนื่องจากในอดีต รถยนต์เปอร์โย เป็นรถที่มีการออกแบบที่ดีและมีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีในระดับที่น่าพอใจ แถมยังมีราคาขายถูกกว่ารถยนต์จากแบรนด์เยอรมัน

พูดถึงสิงโต ก็ทำให้เรานึกถึงแบรนด์กระทิงดุ   Lamborghini   การเปิดตัวรถยนต์สายแรงระดับซุปเปอร์คาร์ เข้ามาทำตลาดจริงจังในไทยอีกครั้ง หลังจากแบรนด์นี้เคยทำตลาดจากเจ้าเก่ามายาว

Lamborghini Bangkok โชว์รูม

การเปลี่ยนมือจากกลุ่ม นิช คาร์ มาสู่บริษัทใหม่  เรนาซโซ มอเตอร์ จำกัด ภายใต้เครือ ชาร์ริส โฮลดิ้ง กลุ่มเดียวกับที่ขายรถยนต์ไฟฟ้า  BYD ,   Ducati   เรียกว่าสร้างสีสันให้กลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูงในประเทศไทย กลับมาคึกคักอย่างมาก แถมบริษัทยังเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ มีโชว์รูมพร้อมรองรับบริการหลังการขาย ริ่มถนนวิภาวดีเสร็จสรรพ

ถึงจะมาใหม่ล่าสุดในตลาดก็ไม่รอช้า ที่จะส่งรถที่หลายคนรอคอย อย่าง   Lamborghini  Urus   เข้ามาทำตลาด รวมถึงงาน มอเตอร์โชว์ยังส่ง   Lamborghini  Hurucan  Evo   เข้ามาทำตลาดด้วย นอกจากนี้ลูกค้าที่สนใจยังสามารถสั่งรถรุ่นอื่นๆ อีกได้ตามต้องการ  จนต้องจับตาถึงยอดขายกระทิงดุในไทย ที่ต้องเหนื่อยหน่อย ถ้าจะคิดสู้กับม้าลำพองที่ถือครองตลาดเจ้าเดียวมายาวนาน

ทางด้านรถเยอรมัน ก็มีความเคลื่อนไหวในแบรนด์  Audi   หลังเงียบๆ หายๆ ไปยาวนาน ในที่สุดทาง  Audi   ก็จัดตั้งตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ บริษัท ไมน์สเตอร์ เทคนิค จำกัด เข้ามาดูแลในฐานะ  Audi   ประเทศไทย แทนผู้จัดหน่ายเก่า

ตอนเปิดตัว ก็ปูพรมลุกหนักเต็มที่ ไม่ว่าจะรถเก๋ง ,รถอเนกประสงค์ และรถสปอร์ต  มีให้เลือกตอบโจทย์มากมายเท่ากับแบรนด์เจ้าตลาดชั้นนำ แถมรถทุกคันยังนำเข้าตรงจากเยอรมัน สร้างความมั่นใจเรื่องการใช้งาน และความเป็นเยอรมันพันธุ์แท้อีกต่างหาก

อาวดี้ พัทยา เป็นโชว์รูม และศูนย์บริการแห่งที่ 2 ในประเทศไทย

ไม่เพียงเท่านี้ ถึงจะไม่ได้เปิดเผยเป็นข่าวต่อเนื่องเท่าไร แต่หลังจากที่เปิดตัวแบรนด์พร้อมโชว์รูมหลักที่ถนน เพชบุรีตัดใหม่ ทางบริษัทก็ขยายการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด โชว์รูมตรงถนนเลียบทางด่วน รามอินทรา-พระราม 9 เปิดให้บริการมาได้สักปีกว่าแล้ว

นอกจากนี้ยังเปิดศูนย์บริการเพิ่มเติมในต่างจังหวัดอีก 2 แห่ง ได้แก่  โชว์รูมพัทยา และ โชว์รูมภูเก็ต ซึ่งตามแผนมีแนวโน้มจะขยายโชว์รูมไปยังเชียงใหม่ และทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย ในอนาคต

Audi ประเทศไทย

ถ้าให้พูดแบรนด์รถยนต์น้องใหม่ที่มาแรงในตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา สร้างกระแสไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งจากการเสียดสีของโซเชี่ยล ไปจนถึงการพูดถึงจากความกล้าแตกต่างในการทำตลาด ต้องยกให้แบรนด์รถยนต์เกาะอังกฤษ   MG   หรือ  Morris Garage   ที่เข้ามาทำตลาดในไทยถึงวันนี้ก็มียอดขายกว่า 50,000  คันแล้ว

ถึงมันจะไม่ใช่ตัวเลขยอดขายเยอะมาก แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าคนไทยพร้อมเปิดใจกับแบรนด์ใหม่ ถ้ามีเหตุผลที่ดีพอ เช่นราคาขายที่ไม่ไกลเกิน และศูนย์บริการที่เร่งครอบคลุมทุกพื้นที่ จากปี พ.ศ. 2559 ที่มีศูนย์บริการเพียง  55 แห่ง ขยายมาเป็น 80 แห่ง ในปีพ.ศ. 2560  และในปี พ.ศ. 2561 มีศูนย์บริการ 104 แห่ง ครอบคลุม 66 จังหวัด ทั่วไทย ส่วนปี พ.ศ. 2562 มีเป้าหมายให้ครอบคลุม 140 แห่งทั่วไทย

ในอีกมุมหนึ่งที่เห็นชัดคือการทำตลาดอย่างต่อเนื่องล้ำหน้าเอาใจลูกค้า เมื่อเทียบกับแบรนด์เจ้าตลาดชั้นนำ ไม่ว่าจะ การเป็นบริษัทรถยนต์รายแรกๆที่กลนำเครื่องยนต์เทอร์โบเข้ามาใส่ไว้ในรถเกือบทุกไลน์อัพสินค้า (ยกเว้น MG 3)  การแนะนำระบบเชื่อมต่อระยะไกล   MG i-Smart   ออกมาตอบตลาด หรือ จะเป็นล่าสุดการเปิดตัวรถยนต์  MG ZS EV   รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่มีราคาขายต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท จนหลายคนดูจะสนใจพวกมันไม่น้อย

แถมในเดือนหน้าจะมีการเปิดตัวรถกระบะเอ็มจี ออกมาเป็นครั้งแรกในชื่อ  MG Extender   เบื้องต้นยืนยันว่าจะเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ

ยิ่งเมื่อเราดูจากจำนวนรถบนถนนจะพบว่ารถยนต์ เอ็มจีมีคนออกเยอะขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะรถขนาดเล็ก   MG 3 ใหม่ และรถยนต์   MG ZS   ตตลอดจนด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ทำให้เราเห็นรถเอ้มจีมากขึ้นบนถนนเมืองไทย

บรรดาแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่มเข้ามาทำตลาด ถ้าจับเอาจากบทเรียนการแจ้งเกิดของเอ็มจีมาใช้ จะเห็นว่า ประเด็นสำคัญ อยุ่ที่การมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุม พร้อมบริการหลังการขายที่มั่นใจได้ ในราคาขายสมเหตุสมผล ประกอบกับการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง สร้างให้คนรู้จักแบรนด์จนติดหูติดตา

การเข้ามาของแบรนด์รถยนต์ใหม่ๆในไทย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะมีตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อมากกว่าเดิม ซึ่งการเข้ามาแจ้งเกิดใหม่อาจต้องใช้เวลาเข้าถึงผู้บริโภค ก่อนที่พวกเขาจะกล้าตัดสินใจซื้อใช้งานจริงๆ

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่