ในช่วง 2-3 ปี ทีผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้า ได้รับความสนใจจากคนไทย จำนวนมาก ด้วยส่วนหนึ่งมาจาก ความทันสมัยน่าใช้ โดยเฉพาะ เมื่อมีคนบอกคุณว่า เฮ้ย! ลืมไปเลยว่ะ ปั้มน้ำมัน ซาโยนาระเด็กปั้ม และที่สำคัญ ประหยัดสุดๆ
นั่นทำให้ คนจำนวนมาก เริ่มศึกษาข้อมูล ให้ความสนใจ พวกเขาค้นพบว่า รถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าสนใจ มักจะเป็นแบรนด์ อเมริกา ภายใต้แกนนำอย่าง นาย อีลอน มัสก์ ขวัญใจคนรุ่นใหม่ ในนาม Tesla
ในทำนองเดียวกัน รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ก็มาแรงแซงโค้ง ด้วยปัจจัยทางด้านราคาขาย อันนื่องมาจาก เขตเสรีการค้า ไทยจีน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีน ไม่ว่าแบรนด์ใดๆ จะมีราคาถูกลง ยิ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาล มันมีราคาไม่ถึงล้านบาท อยู่ในช่วงที่จับต้องได้ง่าย สำหรับคนไทยจำนวนมาก
ตามบอร์ด กลุ่ม EV มัก จะพูดเสียดสีแบรนด์รถยนต์ยักษ์ใหญ่ จาญี่ปุ่น ขวัญใจคนไทยจำนวนมาก ว่า ไหนล่ะ!! รถยนต์ไฟฟ้า มัวแต่ทำรถยนต์ไฮบริด อยู่นั่นแหละ
ใช่สิ!! ไฮบริด ยังไม่คุ้นทุนนี่
หนักหน่อย ก็จะพูดว่า อนาคต ไม่เห็นแสง เดี๋ยวก็ต้อง อำลา เหมือน แบรนด์ดังๆในอดีต อย่าง โนเกีย และ โกดัก
แต่ทั้งหมด ที่ชาวโซเชี่ยลพูดมานั้น .. .ผมกลับมองว่า มันยิ่งเป็นแรงฮึดให้ โตโยต้า และบริษัทในเครือ อย่าง เล็กซัส ทำรถยนต์ไฟฟ้าออกมาโดยเร็ว
Lexus UX 300e เปิดตัวมาในไทย 2 ปี แต่หลายคน ไม่รู้ว่ามัน มาวางจำหน่ายในไทย แล้ว ในราคา 3,490,000 บาท
คุณทราบไหมครับ จริงๆ พวกเขาขายรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นแรกในไทยมาแล้ว กว่า 2 ปี ภายใต้แบรนด์ Lexus แบรนด์หรูพรีเมี่ยม เพียงแต่คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการจริงๆ จะคิดเอาเหมาว่า พวกเขายังไม่มีรถยนต์ไฟฟ้าขายไทย
รถคันนั้น อยู่กับผมในวันนี้ นั่นคือ Lexus UX300e รถยนต์ไฟฟ้า รุ่นแรกจากแบรนด์ Lexus และ น่าจะเรียกว่า เป็นรุ่นแรกในเครือโตโยต้า ที่เข้ามาขายในไทย ด้วย
รถรุ่นนี้เปิดตัวมาสักระยะ แต่ต้องยอมรับว่า น้อยคนที่จะซื้อมันมาใช้ ส่วนหนึ่ง มาจากแบรนด์ Lexus ก็ใช่เป็นที่นิยมของคนไทย อีก ส่วนหนึ่ง เชื่อว่า มีคนจำนวนไม่น้อย ไม่รู้ว่ารถรุ่นนี้ ขายในไทยแล้ว ท้ายสุด พูดตามตรงว่า ด้วยราคาขายของมันที่ก็เอาเรื่อง เนื่องจาก เป็นการนำเข้าทั้งคัน จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ราคาของมันค่อนข้างสูงมาก จน ราคานี้ คนอาจไปเอารถเยอรมันดีกว่า
แต่ อย่าเพิ่งอ่านที่ผมเขียนแล้วปิดรีวิวไปครับ ลองเปิดใจ มาดู รถคันนี้ไปพร้อมกันก่อน
ตัวตน UX สปอร์ตเพื่อคนเมือง
สำหรับใครที่เพิ่งจะรู้จัก Lexus ต้องเล่าให้ฟังเสียหน่อยว่า ในหลายปีทีผ่านมา แบรนด์ มีความพยายามอย่างยิ่งในการพัฒนารถ เพื่อคนกลุ่มใหม่ๆ
หนึ่งในนั้น คือ รหัส UX ที่ออกมา วางจำหน่าย ในฐานรถยนต์อเนกประสงค์แบบ Entry compact Crossover รถยนต์ใช้งานในเมืองได้ดี ขับนอกเมืองก็ได้ มันออกมาเพื่อสูงกว่า Lexus NX และย่อตัว มาจาก Lexus RX ที่ได้รับความนิยม
งานออกแบบ Lexus UX เน้นความสปอร์ต เต็มพิกัด ด้านหน้ามากับ เอกลักษณ์ กระจังหน้า Spindle Grill เฉพาะตัวของ ทาง Lexus ไฟหน้าที่มีความโฉบเฉี่ยว จิกตา ให้ทรงสปอร์ต
ในรุ่น UX300e ที่ขายในไทย ยังได้ ไฟหน้า LED ทั้ง 3 ดวง ,ไฟหน้า ปรับสูงต่ำ อัตโนมัติ มี Cornering Light รวมถึงไฟหน้าปรับองศาตาพวงมาลัยด้วย
เส้นสายตัวรถสะท้อนความเป็นสปอร์ตอย่างลงตัว ให้เส้นสายที่ดูมีพลังทั้งช่วงฝากระโปรง ซุ้มล้อหน้า ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง Michealin Primacy ช่วงท้าย ออกแบบ ให้มีความเป็น Coupe Like ในช่วงเสา C ไปจนถึงท้ายรถ มีกลิ่นอาย ความเป็น RX เข้ามาในตัว ไฟท้ายมีความแตกต่าง ด้วยไฟแบบ Cross Taillight เชื่อมไฟ จาก ซ้ายไปขวา
ถ้าขยับออกมาจะพบว่า Lexus UX ทั้งคัน ดูน่าสนใจ สปอร์ต ส่วนตัว ผมคิดว่า นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบ อย่างลงตัว ดูดีที่สุด หลังจากผ่านรถกลุjมนี้มาหลายรุ่น แต่เรื่องงานออกแบบ ก็ต้องแล้วแต่จริต ของแต่ละคน
ส่วนตัวรถมีขนาด
- ความยาว4,495 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,840 มิลลิเมตร
- สูง 1,540 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร
- ความสูงจากพื้นถึง ท้องรถ 140 มม.
นั่น เป็นขนาดที่พอเหมาะกับการใช้งานในเมือง มีขนาดเท่ารถยนต์ Subaru XV รุ่นก่อนหน้า พอจอดเทียบกับเจ้าส้มที่บ้าน เท่ากันเป๊ะ!!!
ไม่เพียงเท่านี้ถ้า คุณยังจะแปลกใจ ถ้าพบว่า นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่มีหลากสีมากที่สุด ไม่ว่าจะสีน้ำเงินแบบรถทดสอบของเรา คุณจะพบว่ ามันสี มีเขียวขี้ม้า , สีส้ม ,สีแดง ,สีน้ำตาล ,สีเทา อีก 3 สี , สีดำ อีก 2 สี เยอะที่สุด แล้วในกลุ่มนี้
ห้องโดยสาร ที่ไม่ทันสมัย …
อ่านหัวข้อ หลายอาจจะงง เอ้า!!! ไม่ทันสมัย มันก็ไม่สมกับเป็นรถยนต์ไฟฟ้า … น่ะสิ
เอาจริงๆ ความทันสมัย ดีตรงดูหวือหวา เข้ามา แล้ว ว้าว นี่ ว้าวนั้น แต่ความเรียบง่าย นั่นคือ สิ่งที่เล็กซัส พยายามนำเสนอมาโดยตลอด
อันที่จริง ภายใน Lexus UX300e ในภาพรวม จะมีความคล้ายกับ Lexus UX 250h อยู่หลายอย่าง จะบอกว่าเหมือนกันก็ได้ ในราวๆ 80% ของทั้งหมด
จุดที่แตกต่างกันนั้น มีอยู่ไม่กี่อย่าง อย่างแรก คือ หน้าปัดเรือนไมล์ ที่มีการปรับปรุงให้สมกับคำว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสักหน่อย ทางฝั่งขวา จะบอก ข้อมูลของแบตเตอร์รี่ เป็นขีดคล้าย การบอกน้ำมัน แต่ไม่มีข้อมูลของ % แบตเตอร์รี่ มันแบ่งเป็น 5 ช่อง ตีเสียว่า ช่องละ20% ราวๆนั้น
ตรงกลางเป็น หน้าจอบอกการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า แบ่งเป็น Charge / Eco /Power ดูแล้วก็เข้าใจง่ายดี ตรงกลาง จะมีเลขความเร็วมาให้เราได้ ใช้งาน
ส่วนด้านซ้ายมือ เป็นหน้าจอ Multi Information Display ให้ข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นในการขับขี่ เช่น สถานะ การใช้พลังงานของมอเตอร์, ระยะทางคงเหลือ, การทำงานของระบบความปลอดภัย และอืนๆ อีกมากมาย หาได้จากตรงนี้
ตรงหน้าคนขับ พวงมาลัย บางคนว่าค่อนข้างเล็ก ส่วนตัว ผมชอบ คิดว่า ขนาดกำลังดีไม่ใหญ่หรือ เล็กเกินไปนัก พวงมาลัย เป็นมัลติฟังชั่น ระบบ Cruise Control อยู่ขวา ฝั่งซ้ายเป็นการปรับหน้าจอ เรียนรู้ไม่ยาก แปปเดียวเข้าใจ นั่นคือ ข้อดีของรถยนต์จากเครือโตโยต้า ที่ไม่สร้างความวุ่นวายให้กับผู้ใช้งาน
ตรงหน้าคนขับ ถ้ากวาดตาไปตรงกระจกบังลมหน้า คุณจะพบ เขา 2 อัน ตรงหน้า หลายคนคง แอบนึกขำ ทำไม ต้องทำแบบนี้ ผมว่ามันก็แนวดีนะ ไม่เคยมีใครคิดเอาปุ่มการขับขี่มาไว้ตรงนี้มาก่อน
จุดนี้ คุณจะพบกับ โหมด การขับขี่ ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ Eco , Normal และ Sport ส่วนแต่ละโหมด เป็นอย่างไร เดี๋ยวผมจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกที อีกด้านจะเป็นการปิด ระบบควบคุมการทรงตัว นั่นเอง สวิทช์ชุดนี้ จะพิลึกหน่อย ตรงใช้การบิด และบางอย่างใช้การกด
ยกตัวอย่างเช่น คุณขับในโหมดEco จะไป Normal จังหวะนี้ต้องกดครับ ทีแรก ก็งงๆ พอใช้ไป นานวันอยู่กับรถ ก็เออใช้งานง่ายดีนะ
ตรงกลางคอนโซลเป็นระบบความบันเทิง มาพร้อมชุดจอ ขนาด 10.3 นิ้ว ใช้ทั้งการให้ความบันเทิง เชื่อมต่อ และ ยังมีแผนที่นำทางในตัว เป็นของมันเองด้วย แต่ผมเชื่อว่าคงมีไม่กี่คน ที่จะใช้แผนที่นำทางของมัน ด้วยว่าเราติดกับ Google Map ซึ่งก็สามารถใช้งานได้ผ่านการเชื่อมต่อเช่นกัน
จุดเด่นของ เครื่องเสียงใน Lexus UX300e มาจากค่าย Mark Levinson พร้อมลำโพง 13 ตำแหน่ง มาพร้อมแอมป์ Class D 8 Channel เรียกความกระหึ่ม ให้สะเทือนทั้งคันถ้าคุณเปิดดังมากพอ รวมถึง คุณจะแปลกใจ ที่มันยังมีช่องใส่ CD มาให้คุณเปิดแผ่นได้ด้วย
เครื่องเสียงชุดนี้ จะเน้นโทนเสียงกลาง ฟังพวก ป๊อป ร็อค เบาๆ สบายระลื่นหู ถ้าพวกฮิปฮอป อาจจะยังขาด Sub Woofer สักหน่อย แต่ถ้ายกว่า รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายในไทย นี่น่าจะเป็น ระบบเครื่องเสียงที่ดีที่สุดที่มีมาให้ ในบรรดารถยนต์ไฟฟ้าด้วยกัน
ข่าวดี สำหรับคนที่เบื่อความวุ่นวาย รถคันนี้ ยังใช้แอร์ที่เป็นปุ่มเหมือนเดิม การใช้งานเข้าใจง่าย ถัดลงมา จะเป็นปุ่ม เบาะอุ่นร้อนและ เบาะเป่าลม รวมถึง พวงมาลัยอุ่นร้อน ที่คุณสามารถใช้ได้ในหน้าหนาว
ใต้ล่างนั้น เป็น ที่ชาร์จมือถือไร้ สาย เพิ่มเข้ามาให้ความครับครันในการใช้งาน พร้อมช่องชาร์จ 12V
ตรงกลางคอนโซล นำเสนอ TrackPad ใช้งานได้ง่ายร่วมกับแผนที่ เข้าใจไม่ยากนัก อาจจะไม่สะดวกนัก ถ้าต้องขับไปใช้ไป เขาจึงไปวางให้ผู้นั่งช่วยจิ้มให้เราผู้ขับขี่
หลายคนอาจจะสงสัย พี่ๆ พี่ลืมปุ่มเครื่องเสียง รึเปล่า มันอยู่ตรงไหน ผมจะบอกว่าเปล่า ครับปุ่มเครื่องเสียงวางไว้ที่คอนโซลกลาง และ นอกจากจะเป็นปุ่มแล้ว มันยังใช้การหมุนรูดด้วยในบางอย่างเช่นเครื่องเสียง ทำผมนึกถึง พวก Sony Walkman ในยุค 90
แต่ส่วนที่ผมว่าแนวโคตร สุดๆ คือ คอนโซลกลางนี่แหละ ปกติเพื่อความเสมอภาคในการใช้งาน คอนโซลกลาง จะถูกออกแบบให้เปิดขึ้นข่องบน เป็นฝาอ้า ที่เราคุ้นเคย ปัญหาเดียวคือ มันใช้งานไม่ง่ายนัก สู้การเปิดข้างไม่ได้
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า และมีขนาดใหญ่ จนค่อนข้างนั่งสบายอย่างมาก
แต่ Lexus แก้ปัญหานี้ ด้วยการทำให้มันใช้งานเปิดข้างได้ทั้ง 2 ด้าน ไม่ว่า เราผู้ขับขี่จะเปิด หรือ ทางฝั่ง คนนั่งเขาจะเปิดเอาของ ก็ทำได้ เป็นสิ่งที่คุณ เห็นไม่บ่อยนัก ขนาดพื้นที่เก็บของคอนโซลกลางค่อนข้างใหญ่พอสมควร เหมาะสมต่อการใช้งาน
มาว่ากันเรื่องการโดยสารกันบ้างดีกว่า Lexus UX300 e คันนี้ มาพร้อมเบาะนั่ง ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควร การปรับเบาะคู่หน้า เป็นการปรับไฟฟ้าทั้งคู่ ฝั่งคนขับมีที่ดันหลังมาให้ น่าเสียดาย ไม่มีบันทึกท่านั่งมาให้
ขนาดของเบาะนั่งออกแบบมาค่อนข้างใหญ่ให้ความสบายในการโดยสารพอตัว ทั้งที่รองนั่งที่มีความยาวกำลังดี ไม่สั้นจนเกินงาม คนตัวใหญ่นั่งได้สบายมาก
การโดยสารตอนหลังจะออกแนวสปอร์ตๆ พื้นที่โดยสารตอนหลัง อาจจะมีปัญหากับคนตัวใหญ่ ที่มีความสูงตั้งแต่ 185 ซม. ขึ้นไป อาจจะต้องให้ผู้โดยสารเบาะหน้าเลื่อนหน้านิด เพื่อจะได้มีที่โดยสารมากพอ
เรื่องพื้นที่เหนือหัวมีพอประมาณ แม้จะมีรายงานว่า ด้วยการวางแบตเตอร์รี่ ทำให้ พื้นห้องโดยสารต้องสูงขึ้นมาราวๆ 54 มม. แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค สามารถนั่งได้สบายมาก
เท่าที่ลองนั่ง ผู้โดยสารจะอยู่ในท่านเอนหลังนิดหน่อย มีที่เท้าแขนมาให้ แม้ว่ามัน จะแอบเตี้ยไปหน่อยในการใช้งาน นอกจากนี้ ยังมีช่องแอร์ ช่องชาร์จไฟ 2.1 แอมป์ รวมถึง เบาะนั่งหลัง ยังมีเบาะอุ่นร้อน 3 ระดับด้วยนะ
ตัวเบาะนั่งหลังสามารถปรับพับได้ในอัตรา 60/40 พับแล้วจะกระเดิด นิดๆไม่เรียบ มีความต่างระดับ ระหว่าง เบาะนั่งหลังและห้องสัมภาระท้าย
พูดถึงห้องสัมภาระท้าย มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ในเวอร์ชั่นบ้านเราไม่มีแผ่น แบ่งชั้นเก็บของมาให้ ความจุห้องสัมภาระอยู่ที่ 367 ลิตร เป็นรองเพียง Volvo XC40 EV เท่านั้น ที่มีพื้นที่ 452 ลิตร
ฝาท้ายรถ Lexus UX300e ทำมาจาก โครงอลูเมี่ยม พร้อมวัสดุภายนอก Super Olefin Polymer ทำให้ มีน้ำหนักเบา และแข็งแรง ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าในเวอร์ชั่นบ้านเรา มาพร้อมระบบ เตะเปิดด้วย ช่วยให้ สะดวกในการใช้งานมากขึ้น
การวิศวกรรม
เหลาภายในมานาน มาดูกันที่การวิศวกรรมกันบ้าง ดีกว่าครับ
ใต้เรือนร่าง Lexus UX300e พัฒนามาจาก Toyota TNGA-C ถ้าคุณคิดว่ามันคุ้นๆ ก็ไม่แปลก เพราะนี่คือโครงสร้างเดียวกับที่นำมาใช้ในรถยนต์ยอดนิยม อย่าง Toyota Corolla, Toyota Corolla Cross ไปจนถึง Toyota C-HR แต่ก็มีการพัฒนาบางอย่างให้พร้อมสำหรับการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
ตัวแบตเตอร์รี่จัดวางไว้ที่พื้นห้องโดยสาร เพื่อให้ จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำที่สุด ทำให้การตอบสนองของการโคลงตัวและช่วงล่างลดลงระหว่างการขับขี่
แบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน ความจุ 153 Ah กำลังแบตเตอร์รี่ อยู่ที่ 53.45 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระบายความร้อนด้วยน้ำ (คูลแลนท์) ระยะทางต่อการชาร์จ อยู่ที่ 360 ก.ม. ตามการทดสอบในโหมด NEDC และเหลือ 300 ก.ม. ในโหมด WLTP
การนำไฟเข้าแบตเตอร์รี่เป็นหน้าที่ของหัวชาร์จ type 2 ในแบบ AC วางไว้ทางด้านขวาของตัวรถ ส่วนทางฝั่งซ้าย เป็นหน้าที่ของ หัวชารจ Chademo รองรับการชาร์จแบบ DC
ตรงแบตเตอร์รี่รี่ จะมี โครงสร้างพิเศษ เพื่อให้จุดยึดแข็งแรง และรองรับแรงกระแทก ในระหว่างการขับขี่ รวมถึง ยังมีแผ่นปิดบังแบตเตอร์รี่ เพื่อความมั่นใจในการใช้งาน รถมีระยะต่ำสุด จากพื้นถึงท้องรถที่ 140 มม.
ด้านการขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้า รหัส 4 KM ให้กำลังขับสูงสุด 204 แรงม้า และทำแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร นั่นอาจฟังแล้วไม่มากนัก เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ที่เราเคยผ่านมือมา ในระดับรถยนต์หรู
มอเตอร์ ส่งกำลังขับ ผ่านชุดเกียร์ รหัส Q711 (Triple Axle , 2-Stage reduction) มีอัตราทด 11.691 /1 คันเกียร์ เป็นแบบ Shift By Wire เพื่อความสะดวกในการใช้งาน แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่น จากแดนมังกร ตรงมันมีเกียร์ P มาให้ เหมือนรถยนต์ปกติ ทั่วไป
ระบบกันสะเทือนเป็นแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัท ทางด้านหน้า / ด้านหลัง เป็นแบบ Double Wish Bone เพื่อความลงตัวในการโดยสาร เบรกหน้ามีขนาดจาน 305 มม. หนา 28 มม. ด้านหลัง มีขนาด 217 มม. หน้า 18 มม. การบังคับรถ เป็นหน้าที่ของพวงมาลัยไฟฟ้า
น้ำหนักตัวเปล่ารถคันนี้ อยู่ที่ 2,245 กก. (ไม่รวมผู้ขับขี่) ซึ่งก็ไม่ได้หนักไปกว่ากระบะคันโตหนึ่งคัน
การทดลองขับ
ทางด้านการขับขี่ ต้องเรียนตามตรงว่า Lexus UX300e มีสื่อที่ได้จับรถรุ่นนี้จริงๆ เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ต้องขอบคุณทาง เล็กซัส ประเทศไทย ที่ให้โอกาสทางเราในการได้ลองขับรถรุ่นนี้
การเป็นรถที่หาตัวจับยาก ทำให้น้อยคนจะรู้เรื่องราว เกี่ยวกับมัน จนเหมาเอาว่า โตโยต้า และบริษัทในเครือไม่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งที่ แบรนด์นี้เขาพยายามทำรถยนต์ไฟฟ้า มาหลายครั้งหลายคราว แล้ว เอาไว้ จะเก็บ ประวติศาสตรื Toyota EV มาเล่าให้ฟัง
อันที่จริง แล้ว นี่คือรถยนต์อเนกประสงค์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า คันที่ 4 ที่ผมมีโอกาส สัมผัส โดย ก่อนหน้านี้ ในระดับ ราคาไล่เรี่ยกัน ผมมีโอกาส ลอง Volvo , BMW มาแล้ว ทั้งคู่ต่างมีจุดเด่นของมันเอง ในแง่การดึงดูดลูกค้า คันหนึ่งโคตรแรง คันหนึ่งได้เรื่องพื้นที่ใช้สอย
แล้วกับ Lexux UX300e ล่ะ …. ???
มันเหมือนมาติดอยู่ตรงกลาง ของรถทั้ง 2 คัน ที่เรากล่าวไป ขนาดตัว ที่จริงแล้ว ถ้า นำมิติตัวถังมาดู ต้องบอกว่า มันไม่ได้ใหญ่ไปกว่า วอลโว่สักเท่าไร แถม ยังเตี้ยแบน อีกต่างหาก ที่จริง มันออกแนวเดียวกับ Volvo C40 Recharge ที่เพิ่งออกมาวางจำหน่ายในปีนี้ ด้วยลักษณะ ตัวถัง ที่มีความใกล้เคียงกัน
ผมได้พูด ถึงกำลังขับ ของรถ คันนี้ไปแล้ว ว่ามันมีกำลังขับสูงสุด 204 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ใช่ครับ มันไม่แรง เท่าทางค่ายฝั่งยุโรปเลย
หากกำลังขนาดนี้ ก็มากพอที่จะบดยางลั่นเอี้ยด!! กลาง สี่แยก ถ้า คุณเผลอกดคันเร่ง ลงไปเต็มๆ ที่จริงแล้ว มันค่อนข้างล้อฟรีง่าย อาจจะด้วยความตั้งใจ ให้ผู้ขับขี่รู้สึกสนุกกับรถ น่าจะเป็นความตั้งใจของทาง Lexus
อาการล้อฟรีง่าย นี่เอง เป็นอุปสรรคสำคัญ ต่อการทำอัตราเร่งของเรา ถ้าล้อฟรีออกตัว ระบบจะเข้ามาตัดการทำงาน เพื่อลดการหมุนฟรี
จากการทดสอบ ของเรา พบว่า มันจะยังอยู่ในตัวเลข 9.5 วินาที ซึ่ง ก็ถือว่าเร็วพอสมควร ถ้าเทียบกับว่า ผมเคยผ่าน PPV กำลังเครื่องยนต์ พอๆ กัน อย่าง Toyota Fortuner มา มันจะอยู่ที่ราวๆ 11-12 วินาที เท่านั้น
ในกรณี ถ้าคุณออกตัว โดยล้อไม่ฟรี เจ้า นี่จะวิ่งไวกว่าเดิม 1 วินาที จบ 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 8.6 วินาที หลังจากความพยายามหลายต่อหลายรอบ เพื่อที่ไม่ทำให้ ล้อฟรี
ผลสรุป อัตราเร่ง เฉลี่ย ที่เราทำได้ คือ 8.74 วินาที และ อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. อยู่ที่ 6.63 วินาที ความเร็วสูงสุด ไม่มากมายนัก เพียง 173 ก.ม./ช.ม.
มันอาจไม่หวือหวา เหมือน รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น หาก จะถามว่า เร็วกว่ารถสันดาป ที่มีน้ำหนักตัวไล่ๆ กัน ใช่ไหม ก้ต้องตอบว่า ใช่เลยครับ …
แต่ ถ้านำมาเทียบกับ บรรดารถยนต์ไฟฟ้า ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ก็ต้องบอกว่า อยู่เกือบท้ายตาราง ที่จริง แล้ว มันเกือบ โดน MG ZS ที่มีแรงบิดมากกว่ากินด้วยซ้ำไป
การชาร์จไฟ และความประหยัด
ทางด้าน การชาร์จไฟฟ้าในรถยนต์ Lexus UX 300e กันก่อน รถคันนี้ มาพร้อมกับ หัวชาร์จ Type 2 ใน โหมด AC และ Chademo ในการชาร์จ DC
ตามรายละเอียดทางเทคนิค ระบุว่า
- หัวชาร์จ AC รองรับกระแสไฟฟ้า สูงสุด 6.6 KW
- หัวชาร์จ DC รองรับ กระแสไฟฟ้า สูงสุด 50 KW
นอกจากการชาร์จ ทั้ง 2 แบบแล้ว รถคันนี้ ยังมีที่ชาร์จพกพา แบบ Type 2สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ ในยามฉุกเฉิน เช่นชาร์จ กับไฟรีสอร์ทเป็นต้น หัวปลั้ก เป็นปลั้กแบบยุโรป ให้ดี ต้องมี หัวแปลงหาซื้อได้ตาม Home Pro ราคา 90 บาท ก่อนใช้ เพื่อป้องกัน ไฟฟ้า ลัดวงจร
แต่การชาร์จแบบนี้ จะใช้เวลานานกว่ามาก เมื่อเทียบกับการใช้ Wall Box 7 KW ที่ควรใช้เมื่อ คุณมีรถยนต์ไฟฟ้า
ด้านระยะเวลาในการใช้งาน ตามสเป็ค มีดังนี้
- DC 50 กิโลวัตต์ ใช้เวลา 50 นาที (กำลังไฟ 125 แอมป์)
- AC 6.6 กิโลวัตต์ ใช้เวลา 6.5 ชั่วโมง (กำลังไฟ 32 แอมป์
- AC (ที่ชาร์จไฟพกพา ใช้เวลา 24 ชั่วโมง (กำลังไฟ 10 แอมป์)
จากการทดลองชาร์จจริง ในโหมด DC
- ที่46% ของแบตเตอร์รี่ไปยัน 80% ของแบตเตอร์รี่ ด้วยกำลังชาร์จ 36 กิโลวัตต์ จากหัวชาร์จ กำลังสูงสุด 50 KW ด้วย ตู้ PEA Volta ใช้เวลา 24 นาที เท่านั้นในการชาร์จ
- และจาก 40% ไป 80% ของแบตเตอร์รี่ กำลังสูงสุด 50 KW ด้วยกำลังชาร์จ 44 กิโลวัตต์ ชั่วโมง ด้วยตู้ PEA Volta เช่นกันใช้เวลา 30 นาที ในการชาร์จ
ดังนั้น โดยเฉลี่ย 40- 80 % จะใช้เวลา ราวๆ 30 นาที โดยประมาณ
แต่สำหรับใครที่ใช้รถยนต์ในเมือง ต้องบอกก่อนนะครับว่า จากการทดสอบตู้ชาร์จสาธารณะ ของเรา เราพบว่า ตู้ชาร์จ PTT EV Station ไม่สามารถ ชาร์จLexus UX300e ได้ ณ วันทดสอบ ซึ่งผมได้แจ้งไปทาง PTT แล้วว่า ตู้ ของพวกเขาไม่สามารถชาร์จรถรุ่นนี้ได้
แม้จะคิดบวกว่า คนซื้อ Lexus คงไม่ยอมเสียเวลา ไปจอดรถชาร์จไฟตามปั้มน้ำมันหรอก แต่ผมไม่ได้คิดแค่นั้น การทำให้รถคันนี้ ชาร์จได้ กว้างขวาง หมายถึง ระยะการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ในยามจำเป็นจริงๆ
การชาร์จจนเต็ม 100% รถแจ้งว่ามีระยะทางขับได้ ราวๆ 276 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้มากมายนัก ในการใช้งานจริงสำหรับชีวิต คนเมือง อาจจะใช้งานได้ 3-4 วัน ถ้าขับต่างจังหวัด ชาร์จ เดียวหัวหิน – เขาใหญ่ ก็พอได้อยู่
ทีนี้เรามาดู เรื่องอัตราประหยัดกันบ้างดี กว่า , ที่ผ่านมา ลองรถยนต์ไฟ้ามาก็หลายรุ่น ต้องยอมรับว่า ยังไม่เจอรถที่มีอัตราประหยัดดีนัก จะอยู่ที่ราวๆ 4-5 กิโลเมตร / กิโลวัตต์ เท่านั้น ถึง เล็กซัส อาจจะย่อมพ่าย ในเรื่องกำลัง และอัตราเร่งไปอย่างน่าเสียดาย จนหลายคนมองข้าม
ทว่า เมื่อมาคุยกัน เรื่องประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้า และการกินไฟ รถคันนี้กินไฟน้อยที่สุดในคลาส จากการขับทดสอบ
- ในเมือง กินไฟ อยู่ที่ 790 ก.ม. / กิโลวัตต์
- นอกเมือง กินไฟ อยู่ที่ 6.10 ก.ม./กิโลวัตต์ (ขับด้วย ความเร็ว 100-120 ก.ม./ช.ม.)
นั่นดีกว่า รถยนต์อเนกประสงค์ไฟฟ้าทุกรุ่น ที่ผมเคยผ่านมือมา เมื่อ เราลองมาหาร ค่าเฉลี่ยการเดินทาง จากค่าไฟฟ้าตู้สาธารณะ ที่แพงที่สุดของ PEA Volta 7.9778 บาท / กิโลวัตต์ จะได้
- ในเมือง ค่าเดินทางเฉลี่ย 1.00 บาท /ก.ม.
- นอกเมือง ค่าเดินทางเฉลี่ย 1.3 บาท /ก.ม.
จากตัวเลขที่ข้อมูลนี้ ต้องยอมรับว่า นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ ค่อนข้าง มีประสิทธิภาพในการใช้ไฟฟ้ามากที่สุด
ข้อที่ต้องควรพิจารณา ในการชาร์จไฟรถ มีข้อเดียว คือคุณไม่มีทางรู้ % แบตเตอร์รี่ ระหว่างการขับขี่ จะมีเพียงระยะทางคงเหลือบอกต่างหน้าเท่านั้น การชาร์จไฟ จะรู้ว่า ได้% เท่าไร ในการทดสอบ ผมต้องด^จากตู้เท่านั้น มานั่งในรถ แล้วก็ดูข้อมูลการชาร์จก็ไม่มี
รถคันนี้มาพร้อม แอพพลิเคชัjน ที่สามารถ ติดตาม สถานะการชาร์จได้
ผมทราบมาว่า ทาง Lexus มีแอพพลิเคชั่นเฉพาะให้รถคันนี้ สามารถดูข้อมูลการชาร์จและอื่นๆ ได้ ซึ่งน่าจะสะดวกอย่างมาก ในการใช้งาน
และสำคัญที่สุด ในการนั่งรอชาร์จไฟ คุณ สามารถเปิดรถสตาร์ท ฟังเพลง หรือทำงานภายในรถ โดยไม่ต้องไปตากแดดตากลมได้ ภายใต้ My Room Mode คล้ายการบิด สวิทช์ On ในรถยนต์สันดาป แต่ คุณจะนอนในรถได้ไหม เรื่องนี้ผมไม่ได้ทดลอง
การบังคับ ควบคุม และ ระบบกันสะเทือน
มาทางด้านสมรรถนะในการขับขี่บ้าง พูดถึง อัตราเร่ง และความประหยัดไปแล้ว กHต้องเป็นเรื่อง ความสามารถในการควบคุมรถ
ที่ผ่านมา ผมต้องเรียนตามตรงว่า รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ผ่านมือมา ค่อนข้างจะมีช่วงล่างแข็ง ไม่ค่อยอ่อนโยน ส่วนสำคัญมาจากตัวรถที่มีน้ำหนักเยอะ บวกกับพละกำลังมากมาย บางคัน ซัด 400 ม้า ก็ต้องพูดตามตรงว่า มันคือรถสปอร์ตดีๆ หนึ่งคัน
ผมเคย ถามตัวเอง ว่า จะมีไหม รถยนต์ไฟฟ้าที่นั่งสบายตอบโจทย์จริงๆ ตอนลอง BMW ในโหมด Comfort ก็คิดว่าดีเป็นที่น่าพอใจแล้ว
อย่างเขาว่าครับ เหนือฟ้า ยังมีฟ้า เหนือฟ้า ก็มีอวกาศ แต่เหนืออวกาศ มีอะไร นี่ผมไม่รู้นะ ฮ่า !!
Lexus UX300e เป็นรถคันแรก ที่ผมต้องออกปาก ระหว่างขับขี่ว่า เฮ้ย นี่แหละ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีช่วงล่างใกล้เคียงกับความเป็นรถยนต์สันดาปมากที่สุด
ความดีงามของมัน มาจากการทุ่มเทอย่างหนัก ของทีมวิศวกร เล็กซัส ในการพัฒนารถ ปรับช่วงล่างให้สามารถตอบสนองในการขับขี่เหมาะสมต่อการใช้งาน
ทีมงาน Lexus ญี่ปุ่น ยอมรับว่า เวลาในการพัฒนา รถคันนีhส่วนใหญ่ หมดไปกับการเซทและตั้งค่าช่วงล่างให้มันออกมาสมบูรณที่สุด มีการปรับปรุงโช๊คอัพ จากรุ่น UX250h หรือรุ่นไฮบริด รวมถึง ยังจัดการปรับสมดุลน้ำหนักรถ ให้เหมาะสมกับความเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
เราอาจจะพูดว่า แบตเตอร์รี่ วางไว้ใต้ห้องโดยสารแล้ว แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ทางวิศวกร ได้ลงมือทำให้ในรถคันนี้
การกันสะเทือนในรถคันนี้ ไม่มีความกระด้างเลยแม้แต่น้อย มันค่อนข้างมีความเฟิร์มมั่นคง ยืดยุบเก็บอาการไว แต่ไม่ไว เป็นรถสปอร์ต มันยังมีความหยุ่น ให้สัมผัสถึงการกระแทกแบบเป็นธรรมชาติอยู่บ้าง มันเป็นช่วงล่างที่นั่งสบายเอาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในเมือง ที่คุณจะต้องเจอ ทั้ง งานก่อสร้างรถไฟฟ้า , ฝา ท่อ หรือ จะเป็นรอยต่อถนน ก็ตาม
พอใช้ความเร็วอาการช่วงล่างจะยังคงนุ่มนวล หากก็รู้สึกถึงความมั่นคง แม้จะขับเร็ว ก็ยังสัมผัสได้ถึงความมั่นใจ
สรุป Lexus UX 300e ดีทุกอย่างเสียตรง ราคาแรงไปนิด
จะว่าไป ตั้งแต่ ผมมีโอกาส ขับรถยนต์ไฟฟ้ามา หลายรุ่น Lexus UX300e ดูจะเป็นรถที่มีความลงตัวมากที่สุด
มันขับสบาย อัตราเร่งน่าพอใจ และ มีความดูดี ในแบบที่มันเป็น จะว่าไป นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ดูออกแบบมาอย่างลงตัวมากที่สุด รุ่นหนึ่ง สะกดสายตาให้ทุกคนมอง เวลาอยู่บนถนน
สิ่งที่ทำให้ หลายคนไม่ตัดสินใจซื้อรถคันนี้ และมีจำนวนเพียงกระหยิบมือในประเทศไทย มาจากราคาของมันที่ค่อนข้างแรงเอาเรื่อง ราคาเดียวกัน สามารถซื้อรถเยอรมัน ขนาดตัวใหญ่กว่าได้อย่างสบาย และด้วยศักดิ์ศรีของแบรนด์ แน่ล่ะ ไม่แปลกที่คนจะมองข้าม Lexus ไปอย่างน่าเสียดาย
แต่ถ้า คุณมีโอกาสลองขับ จะสัมผัสได้ถึงความกลมกล่อม รถยนต์ไฟฟ้าที่ขับดีแบบรถสันดาป ไม่ต้องปรับกระบวนท่าอะไรมากมาย
การได้ ลองรถรุ่นี้ทำให้ผมพอจะเริ่ม คิดมองเห็นแล้วว่า รถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย โตโยต้า น่าจะออกมาเป็นอย่างไร ในอนาคตอันใกล้
แม้ว่า พวกเขาอาจจะมาช้า แต่การได้ลอง Lexus UX300e ช่วยให้กระจ่างว่า รถยนต์ไฟฟ้า ดีๆ ขับสนุก ขับสบายก็มี เพียงแต่คุณต้องอดใจรอจากผู้ผลิต ชาวญี่ปุ่นสักหน่อย
เรื่อง ขับทดสอบ และ ภาพ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
บทความรีวิว และ ภาพ นี้เป็น ลิขสิทธิ์ ของ ridebuster.com ห้าม นำไปเผยแพร่ในช่องทางอื่น โดยมิได้รับอนุญาต ผู้ที่ละเมิด จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายสูงสุด
