หนึ่งในอาวุธสำคัญที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน สามารถทำยอดขายได้ถล่มทลาย ก็คือเรื่องของการตั้งราคาที่ย่อมเยา จนผู้ผลิตค่ายยุโรปและอเมริกาปวดหัว แต่มันทำให้พวกเขาปวดหัวถึงขั้นไหนกันล่ะ ?

อย่างที่ทุกท่านพอจะทราบกัน และมีการปรากฏให้เห็นกันอยู่แล้วในทุกวันนี้ ว่าหากเราต้องการจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคัน รถยนต์สัญชาติจีนมักกลายเป็นตัวเลือกที่มาพร้อมกับราคาซึ่งสามารถจับต้องได้ง่ายที่สุด ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย แต่เกิดขึ้นกับทุกประเทศทั่วโลก ที่มีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน นำผลิตภัณฑ์ของตนเองไปบุกตลาด

ไม่เพียงเท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าสักคันในประเทศจีน ก็ยิ่งสามารถซื้อยานพาหนะเหล่านี้ได้ในราคาที่ถูกกว่าเดิมไปอีก โดยหากเทียบกับผู้ที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกที่สุดในสหรัฐอเมริกา ก็มักจะต้องเสียเงินมากกว่าการซื้อรถที่ใช้เครื่องยน์สันดาปภายในถึงเท่าตัว แต่ในประเทศจีน ผู้คนกลับสามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้ในราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปที่ราคาย่อมเยาที่สุดถึง 9 เปอร์เซ็นต์เสียด้วยซ้ำ

และจากข้อมูลโดย JATO Dynamics ที่ได้มีการรวบรวมตัวเลขราคารถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก และทำการนำมาเปรียบเทียบกันพบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน จะมีราคาวางจำหน่ายเฉลี่ยที่ถูกกว่ารถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติยุโรป และอเมริกาถึงเกือบครึ่ง

โดยสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็ประกอบไปด้วยเหตุผลหลายประการด้วยกัน เริ่มจากในฝั่งผู้ผลิตสัญชาติอเมริกา และยุโรป (รวมถึงญี่ปุ่น) ส่วนใหญ่แล้วมักเลือกที่จะพัฒนาแหล่งพลังงานของรถ ซึ่งก็คือตัวแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนที่มีราคาต้นทุนวัตถุดิบค่อนข้างสูงเป็นหลัก และส่วนใหญ่ก็ยังเลือกพัฒนาแล้วนำมาใช้ในการสร้างรถยนต์จำพวกครอสโอเวอร์ หรือรถอเนกประสงค์ ลามไปจนถึงรถยนต์กลุ่มพรีเมียมเป็นหลักมากกว่า

ในขณะเดียวกัน สำหรับผู้ผลิตสัญชาติจีน กลับเลือกที่จะพัฒนาแบตเตอรี่โดยใช้แร่ หรือวัตถุดิบชนิดอื่น ที่มีราคาถูกกว่าซึ่งช่วยลดต้นทุนในการสร้างรถยนต์หนึ่งคันได้เป็นอย่างดี และยังมีการนำไปใช้กับรถยนต์ขนาดเล็ก ที่ไม่จำเป็นต้องทำราคาแพงได้อีก จึงทำให้ราคาโดยเฉลี่ยของรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนมีความย่อมเยา และทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้ง่ายกว่า

ไม่เพียงเท่านั้น ในด้านต้นทุนจากระบบสายพานการผลิต ซึ่งรวมถึงต้นทุนจากแรงงานมนุษย์ หรือว่าง่ายๆก็คือค่าแรง ของพนักงานในสายพานการผลิตที่โรงงานในประเทศจีนเอง ก็ยังถูกกว่าหลายๆประเทศในทวีปยุโรป และอเมริกา รวมถึงญี่ปุ่น จึงทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ยิ่งมีต้นทุนการผลิตที่ถูกลงไปอีก

และนอกจากต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าแล้ว ดูเหมือนว่ารถยนต์หลายๆรุ่นจากประเทศจีน มักได้รับประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีจากภาครัฐในหลายๆประเทศ เนื่องจากพวกเขาสามารถออกแบบและปรับตัว หรือปรับเสป็ค แม้กระทั่งปรับเงื่อนไขในการทำตลาด ไปจนถึงการก่อตั้งโรงงานในประเทศนั้นๆได้

เมื่อประกอบกับการที่ในปัจจุบัน ขณะที่ผู้ผลิตสัญชาติอเมริกา มีรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 51 รุ่น และผู้ผลิตสัญชาติยุโรป ก็มีรถยนต์ไฟฟ้า 135 รุ่น ให้ลูกค้าทั่วโลกได้เลือกซื้อ แต่ผู้ผลิตสัญชาติจีนกลับมีรถยนต์ไฟฟ้าให้ลูกค้าทั่วโลกได้เลือกซื้อมากถึง 235 รุ่น จึงทำให้ลูกค้าเข้าถึงรถยนต์ของพวกเขาได้ง่ายกว่า เพราะมันมีตัวเลือกที่หลากหลาย และครอบคลุมมากกว่านั่นเอง

งานนี้เรียกได้ว่าผู้ผลิตสัญชาติจีน สามารถครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างดีเยี่ยมเป็นอย่างมาก ชนิดที่ว่าแม้แต่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติยุโรปเอง ยังต้องคิดทบทวนอย่างหนัก เพราะต่อให้รถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาจะอยู่เซกเมนท์ เมื่อมองไปที่ตำแหน่งทางการตลาดโดยละเอียดก็ตาม แต่หากไม่สามารถมัดใจลูกค้าหน้าใหม่ได้แต่แรก การจะให้ลูกค้าข้ามแบรนด์มาจับรถยนต์ในอนาคตก็เป็นเรื่องที่ยากกว่าการทำให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่แรกอยู่ดี

และนี่ยังไม่รวมผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น ที่ยังคงชักช้าในการสร้างตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอีก เพราะแม้พวกเขาจะเริ่มกระเตื้องกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังดูช้าเกินไปอยู่ดี เมื่อเทียบกับผู้ผลิตหน้าใหม่สัญชาติจีน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่