Kia EV6 ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยสร้างชื่อให้กับแบรนด์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดีนับตั้งแต่ปี 2021 และตอนนี้ ก็ถึงเวลาแล้วที่มันจะได้รับการปรับโฉมใหม่อีกครั้ง เพื่อเติมความสดใหม่ให้ตัวรถดูทันสมัยและมีความน่าสนใจกว่าเดิม

2025 KIA EV6 ยังคงเป็นตัวรถที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานเดิมกับตัวรถโฉมก่อนหน้า แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในระดับ Facelift ด้วยงานออกแบบหน้าตาภายนอกใหม่ ที่แต่เดิมก็มีความโฉบเฉี่ยวอยู่แล้ว คราวนี้ก็ยิ่งมีความดุดันยิ่งขึ้นด้วยกรอบโคมไฟหน้าใหม่ที่ดูแหลมคมหว่าเดิม

โดยเฉพาะขอบแถบไฟ DRL ที่วาดต่อจากแนวกระจังหน้า แล้วตวัดลมมาอ้อมกรอบไฟเลี้ยวทรงสามเหลี่ยวเป็นรูปตัว C และยังมีการปรับงานออกแบบกันชนหน้าให้มีช่องดักลมที่มีความเป็นเส้นสันชัดเจนยิ่งขึ้นทั้งในส่วนของรุ่นตัวถังปกติ และ GT-Line และชุดล้อเอง ก็ยังมีการปรับลวดลายใหม่ ให้ดูมีความซับซ้อนยิ่งขึ้นและโดดเด่นสะดุดตามากกว่าเดิม

ท้ายสุด คือกันครึ่งหลังของตัวรถ ที่มีความแตกต่างจากเดิม เพียงแค่กันชนท้ายเท่านั้น ซึ่งหากเป็นรุ่นตัวถังแฮชแบกท์ หรือรุ่นตัวถังปกติ แม้มันจะยังคงใช้งานดีไซน์แบบแยกโซน 2 ชั้นดังเดิม แต่ส่วนครึ่งล่างก็มีการปรับรายละเอียดใหม่ ให้มันสามารถรีดลมออกจากใต้ท้องรถได้ดียิ่งขึ้น ส่วนครึ่งบนก็ถูกปรับใหม่ ด้วยการเล่นกรอบภายในสีดำเงา ตัดกับสีตัวถัง เพื่อเพิ่มมิติตัวรถที่ถูกมองเข้ามาจากสายตาคนรอบข้างให้เด่นชัดขึ้น

ส่วนรุ่น GT-Line หรือรุ่นท้ายลาด ก็จะมีการปรับงานออกแบบกันชนท้ายใหม่ ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นเช่นกัน และที่น่าสนใจคล้ายๆกับรุ่นตัวถังปกติ ก็คือรายละเอียดดิฟฟิวเซอร์ช่วงครึ่งล่างที่ถูกปรับใหม่ ให้สามารถรีดลมออกจากใต้ท้องรถได้ดียิ่งขึ้นเช่นกันนั่นเอง

ภายในห้องโดยสารยังคงมีงานตกแต่งที่คล้ายเดิมเกือบทุกจุด ยกเว้นชุดจอโค้งแบบ จออินโฟเทนเมนท์เชื่อมต่อกับจอข้อมูลตัวรถด้านหน้าเป็นแผงเดียวกัน ที่มีการปรับกรอบใหม่ให้ดูเหลี่ยมสันมากขึ้น ไม่ใช่กรอบทรงคางหมูอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีการปรับรูปทรงพวงมาลัยใหม่ ให้ดูดีขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ที่ล้ำสมัยกว่าก็คือมันจะมีช่องสำหรับสแกนนิ้วมือ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ

เสริมกันอีกนิดในส่วนตัวจอระบบอินโฟเทนเมนท์ นอกจากการปรับกรอบใหม่ มันยังมีลูกเล่นการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านระบบ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายทั้งคู่ได้แล้ว ส่วนการอัพเดทระบบซอฟท์แวร์เอง ก็สามารถอัพเดทแบบ OTA ในส่วนของซอฟท์แวร์ควบคุมตัวรถได้แล้ว จากเดิมที่สามารถอัพเดทได้เฉพาะตัวระบบนำทางติดรถเท่านั้น

และลูกเล่นกลุ่มท้ายสุดที่ถูกปรับปรุง ก็คือระบบกระจกมองหลังดิจิตอล และชุดหน้าจอ Head Up Display ที่ได้รับการปรับรายละเอียดการแสดงผลใหม่ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น, ระบบกล้องหน้าตัวรถที่มีการปรับกราฟฟิกแสดงผลใหม่ และระบบนำทางที่ยกมาจาก Genesis แบรนด์ลูกระดับพรีเมียมในเครือ ซึ่งสามารถทำงานได้รวดเร็ว และไหลลื่น

ด้านแบตเตอรี่ติดรถ คราวนี้ก็ได้มีการปรับไปใช้แบตเตอรี่ขนาด 84 kWh แทนที่ของเดิมซึ่งเป็นขนาด 77.4 kWh ซึ่งช่วยให้มันสามารถวิ่งได้ไกลสุด 494 กิโลเมตร/ชาร์จ จากเดิม 475 กิโลเมตร/ชาร์จ พร้อมรองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 350 kW ซึ่งช่วยให้รถสามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายในเวลาเพียง 18 นาที แต่ทั้งนี้ นี่ยังเป็นข้อมูลสำหรับตัวรถที่ขายในเกาหลีเท่านั้น ส่วนประเทศอื่นๆอาจจะมีการปรับเปลี่ยนสเป็คได้ตามความเหมาะสม

ส่วนขุมกำลังตัวรถ ยังคงมีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์เดี่ยวขับหลัง กำลังสูงสุด 225 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร กับรุ่นมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 605 นิวตันเมตร

นอกนั้นตัวรถก็ได้รับการปรับปรุงช่วงล่างใหม่อีกเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลในการโดยสาร ปรับปรุงมอเตอร์ไฟฟ้าให้ทำงานได้เงียบเชียบยิ้งขึ้น และเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังเพื่อความปลอดภัยที่มากกว่าเดิม

โดยเบื้องต้น KIA EV6 จะวางจำหน่ายในประเทศเกาหลีด้วยราคาเริ่มต้นที่ 55,400,000 วอน หรือราวๆ 1,486,000 บาท ในรุ่น AIR และสูงสุดที่ 63,150,000 วอน หรือราวๆ 1,695,000 บาท ในรุ่น GT-Line ส่วนการวางจำหน่ายในประเทศไทย ยังต้องรอติดตามการอัพเดทข้อมูลกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: