ดูเหมือนว่าการมาของ Ford Mustang เจเนอเรชันที่ 7 จะเป็นการอยากรู้อยากลองอะไรใหม่ๆของทางค่ายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการทำตัวแรงรหัส Dark Horse ต่อด้วยการทำตัวแข่ง GT3 และล่าสุดกับตัวกลั่นเข้าขั้นซุปเปอร์คาร์อย่าง “2025 Ford Mustang GTD”

2025 Ford Mustang GTD คือม้าป่าเวอร์ชันใหม่ที่ทาง Ford เผยโฉมออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยมันไม่ได้มีเพียงแค่หน้าตาที่ดูดุดันเกินกว่าจะเป็นรถยนต์จากโรงงานทั่วๆไปไว้ขู่ชาวบ้านเล่นๆเท่านั้น แต่ด้วยเป้าหมายที่ทางค่ายอยากให้มันกลายเป็นรถ Mustang คันแรก ที่สามารถกดเวลาในสนามแข่ง Nurburgring Nordschleife ได้ภายในเวลาต่ำกว่า 7 นาที

มันจึงมาพร้อมกับไส้ในและการปรับแต่งด้วยเทคโนโลยีจากตัวแข่ง GT3 อย่างเต็มสูบมากมาย เริ่มจาก ชุดโป่งตัวถังแลบอดี้พาร์ทต่างๆรอบคันที่ล้วนสร้างขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา และเน้นเสริมแรงกดอากาศตามหลักพลศาสตร์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ชุดกันชนหน้าใหม่ ใหญ่โตกว่าเดิม พร้อมสปอยเลอร์หน้าชิ้นเขื่อง และคาร์นาร์ดตัดอากาศ แถมด้านในยังมีแฟล็บหรือปีกตัดอากาศไฮดรอลิกที่สามารถแปรผันองศาเผื่อสร้างแรงกดได้ตามความเร็ว, โป่งข้างและฝากระโปรงพร้อมช่องรีดอากาศจากห้องเครื่องกับซุ้มล้อขนาดใหญ่

ใต้ท้องรถมีช่องดักลมสำหรับนำไปเป่าระบบเบรกคาร์บอนเซรามิค จาก Brembo ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ชิ้นสเกิร์ตข้างแบบกว้างพิเศษ เพื่อลดอากาศหมุนวนเข้าใต้ท้องรถ, กันชนท้ายพร้อมแถบดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่เพื่อรีดอากาศจากใต้ท้องรถออกไปให้เร็วที่สุด, สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่พร้อมการติดตั้งแบบ Swan Neck หรือคอหงส์ ที่สามารถแปรผันองศาได้ตามความเร็วเช่นกันกับแฟล็บใต้กันชนหน้า, และชุดล้อแม็กนีเซียมฟอร์จ ขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ขนาด 325/40 R20 ทางด้านหน้า และ 345/35 R20 ทางด้านหลัง

ด้านการปรับปรุงโครงสร้างภายใน ทาง Ford ยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลถึงตรงนี้มากนัก ว่าพวกเขาได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างตัวรถไปมากน้อยแค่ไหน แต่หากมองจากส่วนควบอื่นๆที่เปลี่ยนไป จึงเชื่อว่ามันต้องแตกต่างจาก Mustang 2024 เดิมๆไปพอสมควร

เพราะสำหรับตัวรถ GTD จะมาพร้อมกับการติดตั้งชุดเกียร์และระบบส่งกำลังไปยังชุดล้อ ไว้ที่ตำแหน่งกึ่งกลางระหว่างเบาะนั่ง กับเพลาขับ (ซึ่งหมายความว่าเบาะนั่งคู่หลังของมันได้ถูกถอดออกไป) คล้ายๆกันกับ Nissan GT-R R35 และอาศัยการถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์ทางด้านหน้า ผ่านชุดเพลากลางคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อให้ตัวรถมีอัตราการถ่ายน้ำหนักระหว่างหน้ากับหลังที่สมดุลแบบ 50:50

นอกจากนี้ตัวระบบกันสะเทือนด้านหลังเอง ยังถูกเปลี่ยนจากแบบมัลติลิงค์ธรรมดาๆ เป็นแบบวิชโบนพร้อม Rocker Arm หรือก้านกระทุ้ง แล้วให้โช้กวางนอนไขว้กันเหนือชุดระบบส่งกำลังอีกทีด้วย ซึ่งแน่นอนว่าด้วยความเป็นรถที่ได้ DNA ตัวแข่งมาเต็มๆ ดังนั้นชุดโช้กของมัน จึงมาพร้อมกับฟังก์ชันความสามารถในการปรับเซ็ทได้ทุกค่า และยังสามารถแปรผันความหนืดได้แบบ Semi-Active

สุดท้ายคือเรื่องของขุมกำลัง ซึ่งทาง Ford ระบุแค่เพียงมันจะได้หัวใจที่มาพร้อมกับกำลังขับเคลื่อนสูงสุดไม่น้อยกว่า 800 แรงม้า ดังนั้น แม้พวกเขาจะยังไม่ได้ระบุชื่อ แต่เครื่องยนต์ของเจ้า GTD คันนี้ จะต้องเป็นเครื่องยนต์ “Hunter” V8 Supercharged ขนาด 5.2 ลิตร ที่เคยใช้ในทั้ง Ford Mustang Shelby GT500 และ Ford F-150 Raptor R แน่นอน

แต่ลักษณะการปรับปรุง และปรับแต่ง จะเป็นอย่างไรบ้าง นอกไปเสียจากการระบุว่า มันสามารถรีดรอบเครื่องยนต์ได้สูงสุดราวๆ 7,500 รอบ/นาที และยังใช้อ่างน้ำมันเครื่องแบบ Dri-Sump เป็นครั้งแรกสำหรับรถ Mustang ที่เอาไว้วิ่งถนน(ได้พอหอมปากหอมคอ) เราอาจจะต้องรอเวลากันจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างช้า เมื่อถึงเวลาที่ทางค่ายเปิดรับจองมันนั่นเอง

ส่วนชาวไทยคนไหนที่รอ ขอแสดงความเสียใจไว้ก่อนเลย เนื่องจากตัวรถรุ่นนี้ถูกระบุว่าจะมีเฉพาะเวอร์ชันขับด้วยพวงมาลัยซ้ายเท่านั้น ไม่มีร่างพวงมาลัยขวา นั่นจึงหมายความว่าโอกาสที่ Ford ประเทศไทย จะนำมันเข้ามาวางขายในบ้านเรานั้นมีน้อยมากๆ

เว้นเสียแต่ว่าคุณจะอยากสั่งนำมันเข้ามาด้วยตนเอง ผ่าน Grey Market ซึ่งทั้งนี้ก็อย่าลืมเผื่อค่าใช้จ่ายกันไว้ด้วย เพราะราคาสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศบ้านเกิดที่หลายสื่อเก็งกันไว้ ก็คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านเข้าไปแล้ว ดังนั้นหากจะเอาเข้าไทยกันเองจริงๆ พร้อมเตรียมเอาไว้วิ่งบนถนนหลวงอย่างถูกกฏหมาย คุณอาจจะต้องเตรียมเงินไว้ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท กันเลยทีเดียว เมื่อรวมภาษีและค่าขนส่งนำเข้ามา

ข้อมูลจาก Ford America

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่