คนที่ตามข่าวรถยนต์มาต่อเนื่อง แล้วเห็นว่าที่สหรัฐฯ มีการเปิดตัว Toyota RAV4 โมเดลใหม่ ต้องมีหลายคนในไทยที่อยากซื้อ แต่ความคิดนั้นอาจไม่เกิดขึ้นจริง เพราะ…

ตลาดเอสยูวีในไทยดุเดือดขึ้นทุกปี ทั้งครอสโอเวอร์ไซส์เล็กราคาไม่เกิน 9 แสนบาท หลากหลายแบรนด์ ไปจนถึงระดับล้านต้นๆ ลามยันราคา 1.7 ล้านบาท เรียกว่ามีให้เลือกตามใจผู้ซื้อได้ครบถ้วน แต่ดูเหมือนว่าโตโยต้ายังไม่ร่วมวงแบ่งชิ้นเค้กคอมแพ็คเอสยูวี ที่มี Honda CR-V, Mazda CX-5 และ Subaru Forester ลุยตลาดอยู่ แล้วเหตุใดที่พี่โตฯ ถึงไม่นำ Toyota Rav4 โฉมใหม่มาขายแข่งล่ะ?

Toyota Rav4

Toyota Rav4 อดีตเคยด้อย ไม่ตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทย

ประวัติความเป็นมาของคอมแพ็คเอสยูวี Toyota Rav4 ดำเนินมาแล้วเป็นเวลากว่า 24 ปี โดยคนไทยได้มีโอกาสเป็นเจ้าของรถโมเดลนี้ในเจนฯ แรกที่มันออกจำหน่าย ช่วงนั้นมันเข้ามาเพื่อต่อกรกับ Honda CR-V ที่มีขนาดตัวใหญ่กว่า จนลูกค้าหันไปซื้อหารถฮอนด้าเป็นจำนวนมาก ทว่าปัญหาขายสู้คู่แข่งไม่ได้ ไม่ใช่เพียงปัญหาเดียวที่ทำให้โตโยต้าถอดใจเลิกขาย Rav4 ในไทย

ถ้าทุกคนยังจำกันได้สมัยปี ค.ศ. 1999 ตอนนั้นบรรดาผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น เหมือนนัดกันผลิตรถอเนกประสงค์บนพื้นฐานกระบะ หรือที่คนไทยติดปากว่า PPV ออกมาหลายรุ่น โดยโตโยต้าเองก็ไม่พลาดที่เข้าร่วมเก็บเกี่ยวเม็ดเงิน พวกเขาจึงส่ง Toyota Sport Rider ลงมาขายแข่ง ซึ่งผลออกมาถูกใจลูกค้าคนไทยอย่างมาก

ตอนนั้นคนไทยยังไม่มีกำลังเงินมากเท่าปัจจุบัน การซื้อรถยนต์สักคันจะต้องทำด้วยความรอบคอบ แถมด้วยความคุ้มค่าสูงสุดเมื่อใช้งานระยะยาว ซึ่งการที่ Toyota Sport Rider เป็นรถที่สร้างจากพื้นฐานของรถกระบะ แน่นอนความทนทายแข็งย่อมมีมากกว่า Toyota Rav4 เอสยูวีพื้นฐานรถยนต์นั่งอย่างชัดเจน

ทำให้เวลาลูกค้าตัดสินใจเลือกรถคันใหม่เข้ามาจอดในบ้าน เจ้า Rav4 จึงถูกปัดตกไป เพราะตัวถังที่ไม่ได้ใหญ่โตกว้างขวาง บวกกับเครื่องยนต์เบนซินที่คนไทยไม่นิยมเท่าเครื่องดีเซล และประการสำคัญคือความทนทานในระยะยาว กับค่าบำรุงรักษาที่ยังไงก็สูงกว่า Sport Rider ชัดเจนอยู่แล้ว

ทุกสิ่งที่กล่าวมาทำให้ชะตาของ Rav4 ต้องยุติบทบาทในไทยไปโดยปริยาย แล้วขายรถพีพีวีอย่าง Toyota Fortuner ตลอดเรื่อยมา แต่ทว่าเวลาที่ผ่านไปราว 20 ปี โลกได้เปลี่ยนแปลง คนก็มีความชื่นชอบรวมถึงไลฟสไตล์อันแยกย่อยลงไปเรื่อยๆ นี่จะทำให้โตโยต้าเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรือไม่?

Toyota Rav4

Toyota Rav4 รถเอสยูวีดีที่…ทับไลน์เพื่อนร่วมค่าย?

เวลามีใครสักคนตั้งคำถามขึ้นว่า “ทำไมโตโยต้าไทยจึงไม่นำ Toyota Rav4 เข้ามาขายครับ” คำตอบร้อยละ 90 จะมาแนวทางเดียวกัน คือ Toyota Fortuner ขายอยู่ในกลุ่มนี้อยู่แล้ว เรื่องอะไรพี่โตฯ จะเอารถเอสยูวีมาขายทับไลน์ผลิตภัณฑ์ตัวเองเพื่ออะไร ว่าแต่มันมีเหตุผลเพียงแค่นี้จริงหรือ…

จริงอยู่นะ ที่อดีตคนไทยจะชื่นชอบรถพีพีวีมากกว่าเอสยูวีพื้นฐานเก๋ง เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการนำรถไปใช้งานสมบุกสมบัน พร้อมต้องการความทนทานของเครื่อง ซ่อมแซมอะไหล่ต่างๆ ได้ง่าย และต้องใช้เครื่องดีเซล ทว่าปัจจุบันก็มีคนจำนวนมากที่อยากได้รถเอสยูวี ที่ไม่ต้องใหญ่โต ไม่ต้องนั่งได้ 7 ที่นั่ง และไม่ชอบเครื่องดีเซล

Toyota Rav4

ถ้าเป็นอย่างนั้น โตโยต้าก็ได้เสียลูกค้ากลุ่มหนึ่งไปให้แก่ Honda CR-V กับ Mazda CX-5 ในปริมาณมากอยู่ สังเกตุได้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้ชื่นชอบรถเอสยูวีตามสมัยนิยม แต่ตนเองใช้รถในเมืองเป็นหลัก ไอ้การจะเอารถออกไปลุยป่าทางโหดก็ไม่จำเป็น

อีกทั้งขนาดรถก็ไม่ควรจะใหญ่เท่ารถพีพีวี เพราะหลายคนที่ซื้อใช้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ และเรื่องขุมพลังที่บางคนก็ชอบเครื่องเบนซิน เนื่องด้วยความเงียบ และประหยัดน้ำมันที่อยู่ราวๆ 13-15 กม./ลิตร เมื่อใช้งานจริง

Toyota Rav4

ทำไมหลายคนจึงอยากให้ Toyota Rav4 เข้ามา?

เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดคำถามว่า “Toyota Rav4 โฉมใหม่จะเข้ามาขายไทยหรือไม่?” มาจากการที่พวกเขาได้ไปลองรถโตโยต้ายุคใหม่ ที่สร้างบนพื้นฐานโครงสร้าง TNGA อันมีรถครอสโอเวอร์สุดแนว Toyota C-HR เป็นผู้ถ่ายทอดอารมณ์ใหม่ของพี่โตฯ ให้คนทั่วไปได้รับรู้ ต่อด้วย Toyota Camry ซีดานกลางที่หลายคนพอได้ขับต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เห้ย!! มันขับดีว่ะ

สิ่งที่ทำให้ผู้คนเปลี่ยนแปลงความคิดไม่ได้เกิดจากคำโฆษณาสวยหรู หากแต่เกิดจากสิ่งที่รถยนต์คันนั้นมอบให้แก่ผู้ขับขี่ ด้วยการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของรถโตโยต้าที่อยู่บนพื้นฐาน TNGA ทำให้ลูกค้าทราบแล้วว่า Toyota Rav4 จะต้องมีการขับขี่ที่น่าประทับใจ รวมถึงความทนทาน และคุ้มค่าเมื่อใช้งานตามแนวทางของโตโยต้า

บางทีสถานการณ์เมื่อกว่า 20 ปี อาจใช้ไม่ได้กับยุคปัจจุบัน ทุกคนบนโลกได้รับทราบข่าวสารได้รวดเร็ว เวลาที่คนเห็นรถรุ่นใหม่เปิดตัวที่เมืองนอก ความรู้สึกของพวกเขาก็จะยิ่งถูกขัดเกลาให้ชัดเจน ว่ารถที่ต้องการนั้นมันคือคันไหน ไม่ใช่รถที่ผู้ผลิตคิดเอาเองว่า คันนี้ แบบนี้แหละที่ลูกค้าทุกคนจะชื่นชอบ

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่