ใครที่เป็นคนบ้ารถจะทราบว่า รถที่ขายในญี่ปุ่น หรือ JDM มีเรือนไมล์โชว์ความเร็วสูงสุดเพียง 180 กม./ชม. แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วมันมีเหตุอะไรจึงเป็นเช่นนั้น…
หากใครซื้อรถนำเข้าจากญี่ปุ่นผ่านเกรย์มาร์เก็ต ท่านจะพบว่าเรือนไมล์มีตัวเลขแสดงความเร็วสูงสุดเพียง 180 กม./ชม. เท่านั้น ซึ่งบางคนก็เข้าใจว่าที่ญี่ปุ่นเขาห้ามขับรถเร็วบนถนนทั่วไป แต่ความเป็นจริงแล้วเลข 180 นี่มันมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ล่ะ?
หากเป็นรถสมรรถนะสูงที่นำเข้าจากประเทศสู่ญี่ปุ่น เรือนไมล์ของรถพวกนั้นมันมีเลขสูงสุดที่ 250 กม./ชม. เพื่อบ่งบอกความสามารถในการทำอัตราเร่งสูงๆ ในทางกลับกันรถที่ผลิตและขายในญี่ปุ่นเอง เรือนไมล์จะโชว์ถึง 180 กม./ชม. พร้อมล็อคความเร็วสูงสุดที่รถวิ่งได้ไว้แค่เท่านั้น สิ่งนี้เกิดขึ้นจากการที่บรรดาผู้ผลิตในประเทศเริ่มต้นใช้กันเอง จนเป็นดั่งค่านิยมให้บริษัทรถยนต์รายอื่นๆ ต้องทำตาม
เหตุผลต่อมาคือในยุคหนึ่งที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเจริญเติบโตต่อเนื่อง ผู้คนจึงมีเงินมากพอในการซื้อรถไปใช้จำนวนมาก และแน่นอนส่งผลถึงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยตรง ผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นจึงเริ่มใช้แถบสีเหลือง ที่เป็นเหมือนเครื่องบอกให้คนขับแล่นรถไม่เกิน 100 กม./ชม. บนทางด่วน โดยหากขับเร็วเกินไปราว 10% เรือนไมล์ก็จะเริ่มส่งเสียงเตือนให้ลดความเร็วลง
เมื่อโลกยานยนต์ถูกพัฒนามาอีกขั้น รถยนต์มีสมรรถนะในการทำความเร็วสูงเกิน 180 กม./ชม. แต่ทางผู้ผลิตก็ยังเดินหน้าจำกัดรถของพวกเขาให้วิ่งได้แค่ที่โชว์บนเรือนไมล์ ซึ่งการกระทำนี้เห็นพ้องต้องกันโดยเหล่าบริษัทรถยนต์ โดยที่ไม่ต้องไปประชุมหรือทำข้อตกลงใดๆ หรือจะเรียกว่า Gentleman’s agreement หรือ กฏของลูกผู้ชาย ก็ได้
ฟังดูอาจไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่ว่าผู้ผลิตจะมีแนวคิดเหมือนกันในเรื่องนี้ แต่ก็มีรถบางคันที่ให้เรือนไมล์โชว์เลข 240 กม./ชม. นั่นก็คือ Nissan Skyline รถสปอร์ตคูเป้ที่รุ่นตำนานอันออกมาขายช่วงปี 1970 ซึ่งคุณปู่ขาซิ่งสามารถเร่งความเร็วได้เกิน 200 กม./ชม. จึงไม่แปลกที่เลขไมล์จะทะลุเกิน 180 กม./ชม.
ส่วนรถอีกคันอย่าง Nissan GTR R35 ก๊อดซิล่าบ้าพลังที่เวอร์ชั่นขายในญี่ปุ่นเอง เรือนไมล์ก็โชว์เลขสูงสุดที่ 340 กม./ชม. ด้วยความตั้งใจของนิสสันที่อยากจะโชว์ว่านี่คือรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ให้แฟนๆ รวมถึงคนทั้งโลกได้รับรู้
อย่างไรก็ตาม แม้กฏของลูกผู้ชายที่คุมความเร็ว 180 กม./ชม. จะไม่ได้ใช้ในปัจจุบันแล้ว ทว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวขายในญี่ปุ่น ก็ยังไม่ได้ปรับเพิ่มเลขความเร็วบนเรือนไมล์ให้สูงกว่าเดิม…
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
