ถ้าคุณจะซื้อรถเก๋งสักคันที่มีขนาดพอเหมาะพอดีต่อการใช้ คอมแพ็คคาร์ ดูจะเป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากอดีตสู่ปัจจุบัน และท่ามกลางวัฒนธรรมการใช้รถของคนไทย รถเหล่านี้ก็มักจะถูกซื้อหาในขนาดเครื่องยนต์ 1800 ซีซี
เครื่องยนต์ 1800 ซีซี นับว่าเป็นทางเลือกยอดนิยมของผู้บริโภคในรถยนต์เหล่านี้ แม้ว่าจะมีเครื่องยนต์ทั้งขนาด 2.0 ลิตร หรือ 2000 ซีซี ที่ใหญ่กว่า และดั้งเดิมมีขนาด 1600 ซีซี ซึ่งเริ่มจากหายไปเหลือเพียงรถเก๋งจากแบรนด์นิสสันเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นมาตลอดในช่วงหลายปีและนั่นทำให้วันนี้รถยนต์คอมแพ็ค เครื่อง 1800 ซีซีได้รับความนิยมจากผู้บริโภค
เก๋ง 1800 ซีซี เกิดขึ้นมาในช่วงต้นยุค 2000 เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคใหม่ๆ มองว่าเครื่องยนต์ขนาด 1600 ซีซีเดิมเริ่มไม่ตอบสนองต่อโจทย์การใช้งาน แถมช่วงเวลาเดียวกัน รถยนต์นั่งขนาดเล็ก Sub Compact Car เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น รถเหล่านี้มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ตอบการขับขี่
เครื่องยนต์ขนาด
1.6 ลิตร เดิมทีครองใจผู้บริโภคเนื่องจากทำราคาถูกและได้ฟังชั่นการใช้งานขนาดใหญ่พอสมควร
จนพอจะสามารถเรียกว่าเป็นออพชั่นที่คุ้มค่าที่สุดในหมู่ผู้ใช้รถในยุคก่อนๆ
การมาของรถเล็กเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ที่มีราคาห่างกันเพียงหลักหมื่น ทำให้ความต้องการรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ลดลง แถมบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อนให้ความสำคัญมากนัก แต่กลับพัฒนาเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร อย่างต่อเนื่อง จนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ยุคใหม่ บางตัวมีกำลังเทียบ 1 .6 ลิตรดั้งเดิม
นอกจากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร จะมีสมรรถนะในการขับขี่มากขึ้นแล้ว ฟังชั่นรถเล็กทรง 5 ประตู ยังถูกใจคนจำนวนไม่น้อย ในขณะคอมแพ็คคาร์ดั้งเดิมมีแต่รถ 4 ประตู แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ ก็ไม่ได้มีฟังชั่นการใช้งานมากนัก ทำให้รถยนต์ 5 ประตูขนาดเล็กตอบโจทย์มากกว่า
ระยะหลังรถคอมแพ็คคาร์มีการปรับขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นด้วย ทำให้เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เดิม เริ่มไม่ตอบโจทย์ลูกค้า เนื่องจากขนาดรถใหญ่ขึ้นตามมาด้วยน้ำหนักมากขึ้น เครื่องยนต์ 1600 ซีซี จึงเริ่มอืดสำหรับการใช้งานทั่วไป ขณะเครื่องยนต์ 1800 ซีซีมีการพัฒนาต่อเนื่อง และบางบริษัท เพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เข้ามาตอบโจทย์มากขึ้น แล้วเริ่มบีบให้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เป็นรุ่นพื้นฐานเริ่มต้น
การเปลี่ยนให้รถ้ครื่อง 1.8 ลิตร เป็นพื้นฐานนี่เอง เป็นจุดเริ่มต้น ทำให้รถยนต์คอมแพ็คคาร์เครื่อง1800 ซีซีนิยม ฮอนด้า เป็นผู้ผลิตรายแรกที่หันมาทำเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เป็นพื้นฐาน เริ่มมาตั้งแต่รถยนต์ Honda Civic รุ่นก่อนปัจจุบัน โดยมีให้เลือกเพียงขนาดเครื่องยนต์ 1.8 และ 2.0 ลิตร
แม้เดิมทีจะมีรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่มีสมรรถนะในการขับขี่มากกว่าทำกำลังตั้งแต่ 150 แรงม้า ไปสูงสุด ราวๆ 180 แรงม้า ซึ่งน่าจะตอบการใช้งานมากกว่าก็กลับไม่ได้รับความนิยมมากนัก
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องยนต์
2.0 ลิตรไม่ได้รับความนิยมเนื่องจากสภาวะการณ์ใช้งานของผู้บริโภคในประเทศไทย นิยมใช้รถยนต์คันเดียวขับไปทุกที่เท่าที่ต้องการ
ข้อดีของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร คือ พวกมันพอจะประหยัดได้ดีเท่าๆ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เมื่อเดินทางยาว และใช้ความเร็วได้มากกว่าในอัตราประหยัดที่เท่ากัน กลับกันเมื่อใช้งานเดินทางในเขตเมืองเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร กินน้ำมันมากกว่าพอสมควร เนื่องจากกระบอกสูบมีขนาดใหญ่กว่าต้องจ่ายน้ำมันมากกว่าเพื่อจุดระเบิด อัตราประหยัดในเมืองอาจเลวร้ายได้ถึง 7-8 กิโลเมตรต่อลิตร ในสภาวะติดหนัก แถมท้ายด้วยการวางหมากให้เป็นรุ่นท๊อปออพชั่นทำให้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรไม่ได้รับควมนิยมเท่าไรนัก
ยกเว้นรถจากแบรนด์มาสด้า (มาสด้า 3) มีเพียงรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเท่านั้น รวมถึงรถยนต์อเมริกันอย่างฟอร์ด โฟกัส ก็ได้รับความนิยมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อาจด้วยราคาไม่ห่างจาก 1.8 ลิตร จากค่ายญี่ปุ่นมาก ทว่าปัจจุบันรถยนต์แบรนดืชั้นนำอย่าง Toyota และ Honda ก็ไม่มีเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรให้เลือกเสียแล้ว และในตลาดรถคอมแพ็คราร์ปัจจุบันเหลือเพียงมาสด้าเท่านั้นที่ใช้เครื่อง 2.0 ลิตร ตอบลูกค้า
ด้วยการหายไปของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แทนที่ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิต รเทอร์โบ จากบางแบรนด์ เมื่อประกอบกับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ถูกถอดออกไปตามการเสื่อมความนิยม ส่งผลให้ปัจจุบันเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เป็นเครื่องยนต์มีขนาดใหญ่ที่สุด
เมื่อประกอบกับ คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เชื่อมั่นในเครื่องเทอร์โบ ควบด้วยลักษณะในการใช้งานหลายคนยังคงเป็นภาพรวมๆ ขับในเมืองและนอกเมือง รวมถึงราคาไม่ได้แพงมาก เมื่อเทียบกับเครื่องเทอร์โบ 1.5 ลิตร และแพงกว่ากลุ่มเครื่อง 1.6 เล็กน้อย รวมถึงเมื่อมองลึกไปถึงการบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายระยะยาวเช่น ค่าซ่อมบำรุง ค่าภาษี – ค่าประกันภัย รถเครื่อง 1.8 ลิตร ถูกกว่าและประหยัดเงินกว่าชัดเจน
คอมแพ็คคาร์เครื่อง 1800 พิสูจน์แล้วตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาว่า พวกมันคุ้มค่าน่าคบหา มีสมรรถนะดีและตอบการใช้งานรอบด้านอย่างลงตัว จึงไม่น่าแปลกใจ ว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงนิยมพวกมันอย่างต่อเนื่องทั้งในวันนี้และในอนาคต
