ทุกหน้าเทศกาลทีไรเราจะได้เห็นกระทู้บนเว็บบอร์ดอันดับหนึ่งของประเทศไทย  ที่ออกมาเถียงกันอุตลุต ต่อกรณีคนขับช้าแช่ขวา ที่เล่นพาลติดกันไปทั้งถนนหนทาง อีกฝั่งเป็นกลุ่มคนที่อ้างว่าตัวเองมีสิทธิแช่ขวาได้ เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ขับรถไม่เร็วตามที่กำหนด

จนไปๆ มาๆ กลายเป็นการเถียงกันด้วยคารมณ์ ว่าใครผิดใครถูก … จนลากไปถึงประเด็นต่างๆ มากมาย นำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกันบนโลกออนไลน์

ที่ผ่านมาทางเว็บไซต์   Ridebuster.com  ได้พูดถึงเรื่องการขับช้าแช่ขวาไปหลายครั้งมาก ทั้งเขียนด้วยบทความ วาดภาพให้เข้าใจ แต่ดูเหมือนปัญหานี้ดูไม่มีท่าว่าจะทุเลา เนื่องจากคนที่แช่ขวาก็จะมีเหตุผลของตัวเอง ยิ่งประกอบกับการกวดขันเรื่องอุบัติเหตุจากภาครัฐ กวดขันในเรื่องการใช้ความเร็วในการเดินทาง จนถึงขนาดบางพื้นที่ปักป้าย จาก 90 ก.ม./ช.ม. ที่เชื่องช้าพอจะหลับคาพวงมาลัยมาเป็น 60 ก.ม./ช.ม. ด้วยเห็นว่าสภาพเส้นทางไม่เอื้อจะได้ปลอดภัยมากขึ้น

ทำให้ประเด็นช้าแช่ขวา ยิ่งกลายเป็นสิ่งที่สังคมประณาม เมื่อมีกระทู้ ช้าแช่ขวาปรากฏ ก็ยิ่งทำให้ คนลุกฮือต่อต้าน คนที่ออกมาพูดเรื่องช้าแช่วา จนล่าสุดเป็นประเด็นคำถามน่าคิดว่า ระหว่างช้าแช่ขวา กับ ขับรถเร็ว ใคร…. อันตรายกว่ากัน

 

ขับแช่ขวา อันตรายแฝงแม้ขับช้า

ทุกครั้งที่มีการพูดถึงการขับช้าแช่ขวา สังคมส่วนใหญ่โดยเฉพาะในเว็บไซต์สังคมชื่อดัง   Pantip.com   จะบอกว่า รถช้าแช่ขวา คือ จำเลยของสังคม

หลายคนที่มีพฤติกรรมขับช้าแช่ขวา อาจยังไม่เข้าใจดี ว่า ขับช้าแช่ขวามากนัก  มันหมายถึงอะไรกันแน่

thai-speeding-law (2)

พฤติกรรมช้าแช่ขวา เป็นพฤติกรรมที่ผู้ขับขี่รถยนต์ใช้ช่องทางขวาของการเดินรถในการเดินทางด้วยความเร็วต่ำ ซึ่งช่องทางขวาของการเดินรถกำหนดให้เป็นเลนสำหรับไว้ใช้ในการแซงรถ หรือ เดินรถเมื่อใช้ความเร็วมากกว่ารถคันทางซ้าย ดังนั้นช่องทางเดินรถทางขวาจึงออกแบบให้รถที่ขับด้วยความเร็วขับในช่องทางดังกล่าว เว้นแต่ กรณีที่คุณจะเลี้ยวขวา หรือกลับรถ สามารถใช้ช่องทางขวาได้ จนถึงจุดเลี้ยวหรือทางแยก

เรื่องช้าชิดขวาไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมคนใช้รถใช้ถนน ด้วยก่อนหน้านี้มีการพูดถึงกันมายาวนาน หากไม่ได้รับความสนใจจากภาครัฐเท่าที่ควร เนื่องจากการขับช้าสำหรับภาครัฐหมายถึงการขับปลอดภัย ทำให้ก่ออุบัติเหตุน้อย ทั้งที่การขับรถให้ถูกต้องตามกฎระเบียบและวินัยการจราจรต่างหาก ที่ทำให้เกิดอุบติเหตุน้อยลง

ช้าแช่ขวา

ช่องจราจรทางขวาควรใช้เมื่อเร่งแซงหรือขับขี่ด้วยความเร็วกว่าการจราจรช่องซ้ายเท่านั้น

เมื่อคุณชิดขวาด้วยความเร็วต่อ เช่น คุณขับที่ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. บนถนนต่างจังหวัดที่มีขนาดทางฝั่ง 3 เลน อาทิถนนสายเอเชีย 

สิ่งที่เกิดขึ้น คือคุณกำลังเป็นผู้กีดขวางการจราจร โดยยึดตัวเองเป็นที่ตั้งแล้วอ้างว่าคุณได้ทำตามกฎหมายกำหนด ทำให้ไม่สามารถขับเร็วกว่านี้ได้

อันที่จริง ตามข้อมูลในกฎหมายพรบ.การจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ไม่ได้ระบุว่า คนที่ขับรถเร็วตามช่องทางการเดินรถทางขวา ต้องขับตามความเร็วที่พรบ. กำหนดเท่านั้น หากแต่ระบุให้การแซงรถคันหน้าต้องเกิดขึ้นทางขวาเสมอ ยกเว้นกรณีถนนหลายเลน หากเห็นว่าปลอดภัยผู้ขับขี่อาจจะสามารถแซงทางซ้ายได้

แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ประกอบกับความเคยชินของผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ จึงมักแซงทางขวามากกว่า เมื่อเขาแซงขวามาแล้ว เจอรถที่ขับด้านหน้าช้ากว่า และไม่มีทีท่าว่าจะหลบซ้าย หรือเพิ่มความเร็วจนสามารถแซงไปทางซ้ายต่อได้ ก็จะก่อให้เกิดการสะสมตัวของการจราจร

เมื่อคนที่หนึ่งไปไม่ได้ คนัที่สอง ก็ไปไม่ได้ เลนซ้ายก็ไปไม่ได้ เลนกลางก็ไปไม่ได้ สรุป กลายเป็นการจราจรชะลอตัว เกิดการติดขัด ไม่คล่องตัว ทำให้การเดินทางในถนนเส้นนั้นๆ ใช้ความเร็วได้น้อยลง และส่งผลต่อการจราจรในภาพรวม ซึ่งคุณจะพอเห็นได้ในช่วงหน้าเทศกาล หากช่วงไหนการจราจรชะลอตัว ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่สัญญาณไฟแดง หรือด่านตำรวจกวดขัน ก็จะมี ช้าชิดขวาที่ต่อกันเป็นแพ ยาวเป็นพรืดนี่แหละ ที่เป็นอีกสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้การจราจรชะลอตัว จนกลายเป็นการติดขัดในที่สุด
หรือในกรณีร้ายกว่านั้น รถที่ไม่สามารถไปทางขวาได้สะดวกได้ เมื่อเห้นว่าข้างหน้าช้า จะต้องเกิดการแซงซ้าย หรือไหล่ทางเกิดขึ้น ทำให้รถที่แซงด้วยความเร็วอาจสร้างอันตรายหรือความตื่นไตใจ เนื่องจากต้องแทรกตามการจราจร ที่ดูเป็นอันตรายและอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพียงเพราะมีรถช้าแช่ขวา

ถึงแม้ว่าจะมีคนช้าชิดขวาจำนวนมากบอกว่า ก็กฎหมายเขาไม่ได้บอกว่าผิด แต่ในมาตรา 34 ระบุชัดถึงหลักการในการใช้ช่องทางขวาในการเดินรถในการจราจร ได้แก่ 1.ช่องทางเดินรถทางซ้ายถูกปิดกัน , 2.การเดินรถทางเดียว (one way)  3.จำเป็นต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้อง เมื่อใช้ทางร่วมทางแยก ,4. เมื่อจะแซงหน้ารถคันอื่น และ 5 เมื่อใช้ความเร็วมากกว่ารถคันอื่น

หากคุณคิดการช้าแช่ขวาไม่มีบทลงโทษแล้วล่ะก็ คุณผิดถนัด เพราะในพรบ,การจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ระบุว่า ในมาตร157 ว่า ผู้ที่ฝาฝินมาตรา 34 ว่าด้วยเรื่องการใช้ช่องทางขวาในการเดินรถ หากทำผิดเจ้าหน้าที่สามารถจับปรับได้ ตั้งแต่ 400-1,000 บาท (แต่ปัจจุบันดูเหมือนตำรวจจะไม่ค่อยกวดขันกฎหมายข้อนี้นัก)

นอกจากนี้คุณกำลังสร้างความเสี่ยงให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมาทางที่ใช้ความเร็วในการเดินทางมากกว่าคุณ เพราะแม้การชนท้ายจะถูกตัดสินใว่าผิด แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่า มีรถช้าแช่ขวาข้างหน้าและทำผิดกฎหมาย ศาลจราจรอาจตัดสินว่า เป็นการประมาทร่วมก็ได้ครับ

 

ขับรถเร็ว..อันตรายต่างวาระ

ในประเด็นที่พวกช้าแช่ขวามักยกตัวอย่างขึ้นมา ส่วนใหญ่จะอ้างว่าการขับรถเร็วเกิดกฎหมายกำหนดนั้น มีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุมากว่าพวกตนที่ขับตามกฎหมายกำหนด

เรื่องขับรถเร็วมักถูกผูกโยงเข้ามาเป็นต้นตอของอุบัติเหตุ จนเหมือนกลายเป็นจำเลยทุกครั้ง คล้ายเวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้แล้วหาสาเหตุไม่ได้ ก็จะโทษว่าไฟฟ้าลัดวงจรเอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อต้องเปิดเผยข้อมูลกับสื่อ

thai-speeding-law (3)

การขับรถเร็วเป็นเหมือนคนละเรื่องเดียวกัน ทุกคนในวันหนึ่งต่างจะมี 108 เหตุผล ไม่ว่าจะด้วยความเร่งรีบ ความหงุดหงิดการจราจร แต่โดยมากการขับรถเร็วจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ มักจะเกิดจากสาเหตุสำคัญ คือการคึกคะนอง และความไม่คุ้นชินเส้นทาง

การขับรถเร็ว เป็นพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากการใช้ความเร็วจนเกินการควบคุม อาจจะทำให้รถผู้ขับขี่เกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงการขับด้วยความเร็วจนเกินไป ทำให้สุ่มเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะผู้ขับขี่ที่ไม่มีประสบการณ

หรือทักษะในการขับขี่มากพอ อาจจะก่อให้เกิดอันตรายแต่ตัวเองและเพื่อนร่วมทาง จนนำมาซึ่งความเสียหายต่อทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น

 

ใครหนักกว่า … ขับเร็วหรือ ช้าแช่ขวา

จากประเด้นที่เราพูดมาทั้ง 2 เรื่องในการทำผิดกฎหมายจราจร หากมองอย่างเป็นกลางจะเห็นว่า ต่างก้มีคุณลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่แล้ว คนจะมองว่าการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดนั้น มีความผิดมากกว่า เนื่องจากการกวดขันการจราจรของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน รวมถึงการโทษฑัณฑ์เวลาเกิดอุบัติเหตุและ ความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ความเร็วมักถูกถ่ายทอดว่าสร้างความเสียหายอย่างมาก เมื่อใช้ความเร็วสูงจากกฎหมาย มากกว่ากรณีขับช้าแช่ขวาที่รัฐบาลต่างละเลย ทั้งที่เป็นต้นตอปัญหาการจราจรที่ใหญ่หลวงของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหน้าเทศกาล

ข้อเท็จจริงที่สำคัญข้อหนึ่ง คือ ไม่เคยมีภาครัฐใช้กฎหมายจราจรดักจับผู้ขับช้าแช่ขวาอย่าชัดเจน เหมือนการขับรถเร็ว ซึ่งสามารถสร้างพยานหลักฐานในการขับกุมได้ง่ายกว่าจากกล้องจับความเร็วที่อยู่เกลื่อนถนนทางหลวง 

ช้าแช่ขวา

หลักการขับรถใช้ทางที่ถูกต้อง คือใช้ช่องทางกลางหรือซ้ายเท่านั้น
และใช้ช่องทางขวาเมื่อต้องการแซง หรือใช้ความเร็ว

การดักจับรถช้าแช่ขวาแทบเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าไม่มีการกวดขันจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งสมควรจะใช้รถตำรวจวิ่งไล่จับมากกว่าการตั้งด่านจับสร้างจุดสกัด ซึ่งไม่สามารถพิสุจน์ทราบอะไรได้ และเมื่อไม่มีการกวดขันจากทางเจ้าหน้าที ประชาชนที่มีพฤติกรรมนี้ จึงมั่นใจว่าพวกเขาได้ทำถูกต้องตามครรลองกฎหมาย ทั้งที่ไม่เคยถูกจับปรับ เนื่องจากภาครัฐไม่เคยลงมาใส่ใจในเรื่องนี้ จนทำให้คนจำนวนมากมีพฤติกรรมช้าแช่ขวา เช่นการขับของรถทัวร์โดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง โดยมาจะขับชิดขวา , รถตู้สาธารณะ เป็นต้น

ส่วนกรณีรถส่วนบุคคลรถช้าแช่ขวามีหลายประเภท แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ขับขี่ที่พึ่งหัดขับรถ หรือมือใหม่ ซึ่งอาจถูกฝึกสอนหรือแนะนำโดยโรงเรียนสอนขับรถบางแห่งให้ใช้ช่องทางขวาเป็นหลักเพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในการขับขี และอีกทั้งยังขับง่ายกว่า เมื่อขับเป็นระยะทางไกล มากกว่าการเปลี่ยนเลนไปมา ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ผิดถนัด

ทางด้านการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ปัจจุบันเชื่อว่าเหลือไม่มากแล้วในสังคม เนื่องจากมีกล้องตรวจจับความเร็วถูกติดตั้งมากมายในหลายเส้นทางเพื่อตรวจจับผู้ขับขี่ รวมถึงยังมีการกวดขันจากเจ้าหน้าที่ด้วย

แต่ข้อเท็จจริงของการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดนั้น ส่วนใหญ่ต้องยอมรับกันตามจริงว่า คนที่ขับรถด้วยความเร็ว มักจะเป็นผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์สูง อาจขับรถมาหลายปี หรือใช้เส้นทางดังกล่าวจนชิน  แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำให้ใครก้ตามสามารถอยู่เหนือกฎหมายได้ แม้แต่ผู้เขียนเอง ก็เคยโดนใบสั่งขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดมาแล้ว

หากในอีกมุมมองก็ต้องยอมรับว่า การขับรถเร็วเกินกำหนด อาจเกิดได้จากปัจจัยทั้งผู้ขับขี่เอง และ อีกประการคือความไม่เหมาะสมในเชิงกฎหมายในแง่การตั้งความเร็วที่เหมาะสมในการเดินทาง

ถึงความจริงของการเกิดอุบัติเหตุคือ เมื่อขับรถด้วยความเร็วหากเกิดอุบัติเหตุจะมีความเสียหายสูงมาก เนื่องจากเกิดแรงปะทะสูงกว่า การชนที่ความเร็วต่ำกว่า หากแต่รถสมัยนี้ไม่ได้เหมือนรถสมัยเมื่อปี พ.ศ. 2522 แม้แต่รถอีโค่คาร์ที่เราใช้กันในวันนี้ยังมีเทคโนโลยีและความสามารถดีกว่ารถที่ขายในปีที่กฎหมายตราออกมาไม่รู้ต่อกี่เท่า มีความปลอดภัยพื้นที่พร้อมจะปกป้อง รวมถึงความสามารถของรถที่สามารถขับขี่ยังขับดีกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน

แต่ถ้าคุณจะวัดว่าใครสร้างความเดือดร้อนมากกว่ากัน หรือผิดมากกว่ากัน ให้ดูตามบทกฎหมายในแง่การลงโทษ สำหรับการจราจรเราคิดความผิดเป็นเชิงลหุโทษจ่ายเป็นค่าปรับ

การขับรถแช่ขวา นั้น มีกฎหมายปรับระวางโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท 

การขับรถเร็วตามกฎหมายกำหนดมีระวางโทษปรับไม่เกิน  1,000 บาท

หากนำเรื่องนี้ยกขึ้นมาตอกกันว่า ใครผิด ก็คงต้องว่าผิดพอ ๆ กัน แต่ทุกวันนี้ที่ การขับช้าแช่ขวาเหมือนถูกสังคมประนามมากว่า เนื่องจากไม่มีการกวดขันจากภาครัฐ หรือสัญญาณใดๆที่บ่งว่าทางรัฐบาลจริงจังเรื่องนี้ ว่าสมควรจัดระเบียบการใช้รถใช้ถนนคนไทย ให้เลนขวาขับด้วยความเร็วแซงมั่นใจปลอดภัย เราเชื่อว่าการจราจรก็น่าจะคล่องตัวกว่านี้ อย่างไม่ต้องสงสัย

พฤติกรรมการขับช้าแช่ขวา หรือขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายทั้งคู่ และเราทุกคนไม่ควรปฏิบัติหรือนำมาเป็นเยี่ยงอย่าง ถนนที่เราใช้เป็นของทุกคน เราสมควรจะใช้ถนนอย่างมีสามัญสำนักและคำนึงถึงเพื่อนร่วมทางให้มากที่สุด

 

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่