“ช้าแช่ขวา” ค่านิยมผิดคนไทย

การขับขี่บนท้องถนน นอกจากการขับรถยนต์ให้เป็นควบคุมได้ดั่งใจแล้ว การใช้ชีวิตในสังคมถนนในปัจจุบัน ยังสมควรต้องมีวินัยการจราจร และมารยาทในการขับขี่ด้วย บางสิ่งถูกระบุไว้เป็นครรลองครองธรรมในกฎหมายจราจรทางบก แต่ด้วยสถานการณ์บังคับและการปฏิบัติต่อๆ กันมา ทำให้บางสิ่งเริ่มกลายเป็นวัฒนธรรมค่านิยมผิดของคนใช้รถยนต์ยุคใหม่

ท่ามกลางช่วงหน้าเทศกาลวันหยุดยาว นอกจากการจราจรคับคั่งหนาแน่น ด้วยรถยนต์ปัจจุบันหสาซื้อง่ายขึ้น เป็นเจ้าของง่ายขึ้น กำเงินไม่กี่หมื่นบาทก็สามารถรับรถออกจากโชว์รูมไปขับกันได้สบายๆ ทำให้คนใช้รถใช้ถนนในปัจจุบัน ขอแค่ว่าขับรถได้ก็เพียงพอ ทำให้สังคมถนนวุ่นวาย และหนึ่งในนั้นคือเรื่องราวสุดคลาสสิค ที่ขาดการเหลียวแลจากผู้มีอำนาจ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง

“ช้าชิดขวา” เป็นพฤติกรรมที่ถูกกล่าวถึงกันมานานท่ามกลางวงสังคมคนใช้รถใช้ถนน พฤติกรรมของผู้ขับรถจำนวนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันมีมากขึ้นจนกลายเป็นวัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ ที่จะใช้ความเร็วตามปกติ หรือขับช้ากว่าการจราจรในเวลานั้นในช่องทางเดินรถทางขวา และไม่ตระหนักว่าตัวเองกำลังเป็นผู้สร้างความเดือดร้อนกีดขวางการจราจร ที่สมควรจะขับได้โดยสะดวกโยธินในยามเลือกใช้ช่องทางขวาในการเดินรถ

พฤติกรรม “ช้าชิดขวา” เกิดขึ้นเมื่อไรไม่มีใครทราบ แต่ทุกวันนี้มากมายเกินจะนับว่า บนถนนต่างจังหวัดเดินทางระหว่างเมือง มีรถช้าแช่ขวาเป็นจำนวนมาก และบางครั้งการแช่ขวาก็กลายเป็นการแช่ต่อๆ กัน จนทำให้การจราจรที่สมควรจะเคลื่อนตัวได้เร็วกว่าที่เป็นอยู่เกิดการสมสมชะลอตัว จนเป็นการจราจรหนาแน่น และติดขัดในท้ายที่สุด

ประเด็นหนึ่งที่ผู้ขับรถแช่ขวาเป็นนิจ ชอบนำมากล่าวอ้างตามโลกโซเชี่ยล รวมถึงกระดานสนทนาชื่อก้องอย่าง Pantip.com   หนีไม่พ้น การโทษสภาพถนนในเมืองไทยในช่องทางเดินรถด้านซ้าย ซึ่งมีสภาพชำรุด เนื่องจากการใช้งานโดยรถบรรทุกขนาดใหญ่ บ้างก็ว่าพวกเขาต้องเจอรถบรรทุกขนาดใหญ่ในช่องทางเดินรถด้านซ้าย จึงไม่สะดวกในการขับขี่ โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็กทั้งหลาย

แต่นอกจากที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ก็มีคนบางกลุ่มสมบท “คนหัวหมอ” โดยกล่าวอ้างว่า พวกเขามีสิทธิจะใช้ช่องทางขวาขับยาวๆ ได้ ในความเร็วที่พวกเขาเห็นว่าเหมาะสม เนื่องจากใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด และไม่ได้ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับใดๆ และโบ้ยให้คนที่ขับรถเร็วกว่าทางด้านหลังเป็นผู้ไม่เคารพกฎหมาย เนื่องจากใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด เอาบทบาทคนดีมากล่าวอ้าง

 อาทิ เขาขับรถช่องทางทางด้านขวาด้วยความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. ทั้งที่รถทางด้านหลัง อาจจะมาด้วยความเร็วมากกว่า ด้วยความเข้าใจว่า บนถนนนั้น มีการกำหนดความเร็วสูงสุดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น หากใช้ความเร็วได้ตามกฎหมายระบุ เมื่อนั้นก็มีสิทธิที่จะขับเลนขวากันยาวๆ ไปจนถึงที่หมาย แบบนี้ไม่ถูกต้องครับ

ตลอดจน ยังมีรถบางจำพวกเช่น รถตู้โดยสาร และ รถบัสขนาดใหญ่ ชอบใช้ช่องทางเลนด้านขวาขับยาวๆ เป็นประจำ โดยอ้างเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ จนกลายเป็นนิสัย สลับกับความเป็นจริงของการจราจรไทยว่า รถสัญจรช้ากว่าควรขับ ชิดซ้าย และปล่อยให้รถที่เร็วกว่าแซงทางขวาอย่างปลอดภัย

การช้าชิดขวา ฟังดูก็ไม่น่าจะอันตรายอะไรนัก เมื่อเทียบกับคนขับรถเร็วกว่ากฎหมายกำหนด ที่มักถูกนำมากล่าวอ้างทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ จนใครที่ขับรถเร็วถูกมองเป็นตัวปัญหาสังคม ทั้งที่คนขับรถช้าชิดขวา ก็เป็นตัวปัญหาเช่นกัน และทำให้การจราจรไม่ไหลลื่นอย่างที่สมควรจะเป็น

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังแช่ขวา คุณทราบไหมว่า ตามกฎหมายการจราจรทางบกแล้ว มีข้อระบุที่สำคัญเอาไว้ ในมาตรา 38 ว่า “ผู้ที่ขับรถช้ากว่าหรือมีความเร็วต่ำกว่ารถคันอื่นที่ขับอยู่ในทิศทางเดียวกันจะต้องขับชิดทางด้านขอบทางทางด้านซ้าย  หรือกล่าวง่ายๆ ว่า ถ้าคุณจะแซงรถคันหน้าต้องแซงทางขวาเท่านั้น”  แต่เมื่อรถทางขวาไม่หลบ จึงต้องแซงทางซ้าย 

อย่างไรก็ดีบางกรณีผู้ขับขี่ที่ต้องการแซงรถยนต์คันหน้า ก็สามารถตัดสินใจแซงทางซ้ายได้เช่นกันในบางกรณี ตามมาตร 45 ในหมวด 2 ระบุว่า ผู้ขับขี่สามารถแซงทางด้านซ้ายได้ ใน 2 กรณี คือ 1. รถคันหน้าจะเลี้ยวขวา และ 2. ถนนมีช่องทางเดินรถในทิศทางเดียวกันมากกว่า 2 เลน ขึ้นไป

หากมองตามกฎหมายดังกล่าว ก็หมายความว่า ในกรณีถนนมีเส้นช่องจราจรมากกว่า 2 เลน ในทิศทางเดียวกัน เช่นถนนมีทางเดินรถฝั่งละ 3 เลน ผู้ขับขี่รถที่มีความเร็วมากกว่า อนุญาตให้แซงรถได้ทางซ้าย …แต่ก็ไม่ได้หมายความ คุณๆ ที่ช้ากว่า จะมีสิทธิใช้เลนขวาแช่ยาวๆ จนถึงปลายทางอยู่ดี

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะยังคิดว่าตัวเองทำถูก แต่มีหลายสาเหตุที่คุณควรเลิกแช่ขวา ปรับปรุงตัวเองใหม่ตั้งแต่วันนี้ครับ

1.เพิ่มความปลอดภัยกับตัวเอง ถามจริงๆ “คนแช่ขวา” ขับรถไม่เสียวสันหลังกันบ้างหรือครับ บางทีมองกระจกหลังกระจกข้าง รถวิ่งเข้ามาหาอย่างเร็ว บางคันแทบไม่มีทีท่าว่าจะเบรก เมื่อเข้าใกล้คุณด้วยซ้ำ ผมเชื่อว่า หลายคนก็คงรู้สึกว่าวิ่งเลนขวาไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก

กลับกันไม่เพียงคุณเองไม่ปลอดภัย แต่กับรถคันหลังที่มาด้วยความเร็วเองก็ไม่ปลอดภัย เมื่อเขาต้องมาชะลอความเร็ว หรือเบรกที่คุณ ดีไม่ดีเผลอๆ ท้ายรถคุณอาจจะเป็นที่เบรกเขาก็ได้แบบนี้ ลองเปลี่ยนมาขับเลนกลางหรือวิ่งเลนซ้าย ตบไฟเข้าซ้ายเมื่อเห็นรถหลัง มาด้วยความเร็ว น่าจะดีกว่าครับ

2.มีโอกาสมากกว่าในสถานการณ์ฉุกเฉิน สิ่งที่คนแช่ขวาหลายคนไม่ค่อนตระหนัก คือ หากคุณขับชิดซ้าย หรือวิ่งในเลนกลาง มีโอกาสมากกว่าที่จะควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉินง่ายกว่า เช่น ยางระเบิดกะทันหันระหว่างขับขี่ คุณก็สามารถเบ้ซ้ายไปจอดไหล่ทางได้ทันที ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์มากๆ ทีเดียวครับ แต่โรงเรียนสอนขับรถไม่ได้บอกคุณใช่ไหมครับ

3.เป็นจุดสังเกตมากกว่า ในหลายๆ โอกาส ตามต่างจังหวัด จุดกลับรถในพื้นที่ห่างไกล มักจะมีพุ่มไม้หรือต้นไม้อยู่ที่เกาะกลาง สร้างความลำบากต่อการดูรถที่กำลังขับขี่ ทั้งกับผู้ที่ขับมาในทาง หรือ ผู้ที่รอจะกลับรถ ส่วนใหญ่แล้วเวลาเรามองบนถนน ยามรอกลับรถ เรามักจะมองที่ตรงกลางของถนนก่อนเสมอ และ เราจะสังเกตทางขวาก่อน ตามความถนัดของเราเอง

นั่นหมายความว่า คนขับรถเลนซ้าย และเลนกลาง จะเป็นจุดสังเกตมากกว่า ในการสำรวจครั้งแรก ทำให้เราไม่ถูกกลับรถตัดหน้า เนื่องจากการกลับรถโดยธรรมเนียมแล้ว ผู้ขับขี่จะต้องกลับแล้วเข้าซ้ายก่อนเสมอ

4.ช่วยให้การจราจรไหลลื่น  คนที่แช่ขวาครับ รู้ไหมว่า คนขับรถแช่ขวานั้นคือตัวปัญหาสังคมสำคัญของการจราจร ที่ทำให้คนอื่นๆ ถึงที่หมายช้า เพราะต้องมารอคุณอยู่คนเดียว

ทุกครั้งที่แช่ขวา คุณกำลังทำให้เกิดคลื่นจราจร ชะลอความเร็วต่อเนื่องกัน ทำให้รถคันหลังที่ขับตามคุณจะต้องใช้ความเร็วลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากคุณใช้ความเร็วต่ำกว่าการจราจรที่ควรจะเป็น ซึ่งเมื่อมีการขับช้าต่อๆ กันแล้ว ก็ยิ่งทำให้การจราจรหนาแน่น ไม่คล่องตัว แทนที่จะเดินได้ด้วยตามเวลาและความเร็วปกติที่สมควรจะทำได้ ก็ใช้เวลามากขึ้น เนื่องจากทำความเร็วโดยเฉลี่ยในการเดินทางได้น้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น

5.ผู้สร้างอารมณ์โกรธ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า พวกช้าแช่ขวานี่ทำให้คนขับรถรายอื่นโมโหโกรธามากกว่า การเจอรถขับเร็วกว่าวิ่งผ่านไป เสียอีก

หลายครั้งที่คนใช้ความเร็วในช่องทางขวา อาจจะมีธุระเร่งด่วน หรือ กิจสำคัญที่ทำให้เขาต้องขับรถเร็ว บางที่อาจจะเร้วกว่ากฎหมายกำหนด เพื่อไปให้ทันตามต้องการ และเมื่อมาเจอ “รถช้าแช่เลนขวา” พฤติกรรมที่น่ารำคาญของคนบนถนนแล้วก็ยิ่งทำให้น่าหงุดหงิดมากขึ้น บางครั้งความหงุดหงิดก็เปลี่ยนแปลงเป็นความโกรธ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ลองสังเกตสิครับ ถ้าเขาผ่านคุณไป แล้ว โยกปาดซ้ายปาดขวาผมว่าคุณนั่นแหละครับ เป็นผู้ริเริ่มการทำให้คนอื่นอันตรายบนถนน เรียกว่า เป็นผู้ก่อการตัวจริงเลยล่ะ

การขับ “ช้าชิดขวา” ไม่เคยก่อประโยชน์ใดๆ เลย ไม่ว่าจะทั้งตัวคุณเอง หรือกับเพื่อนร่วมทาง ดังนั้นถึงเวลาแล้วครับ เปลี่ยนตัวเองให้แซงขวาแล้วเข้าซ้ายทุกครั้ง แล้วเราจะไปถึงที่หมายอย่างมีความสุขด้วยกัน  

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com