ท่ามกลางกระแสอีโค่คาร์พันเทอร์โบ ต้องยอมรับว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยสนใจรถเหล่านี้อย่างมาก และล่าสุด Honda City ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ วันนี้ เราจะมาพาคุณชำแหละ ว่ารุ่นไหน คุ้มค่า ที่สุด

*บทความนี้มี 2 หน้า ท่านสามารถอ่านบทสรุปได้ที่หน้า 2 ของบทความ

Honda City 2020

การกลับมาของฮอนด้า ซี้ใหม่ เจนเนอร์เรชั่นที่ 5 ตั้งแต่ผลิตวางจำหน่ายมาในประเทศไทยครั้งนี้ ทางฮอนด้าได้เข้าร่วมตามโครงการรถยนต์รักษาสิ่งแวดล้อมระยะที่ 2 หรือ อีโค่คาร์เฟส 2 มันมาพร้อมเครื่องยนต์สามสูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ทำแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที  มีให้เลือกเพียงระบบเกียร์   CVT  เท่านั้น

Honda City 2020 เครื่องยนต์

ตัวรถแนะนำในขนาดยาว 4,553 มม. กว้าง 1,748 มม. และ สูง 1,467 มม. มีระยะฐานล้อ 2,589 มม. ตอบสนองการโดยสารสูงสุด 5 ที่นั่ง

Honda  City 1.0 S

ในรุ่นเริ่มต้น ทางฮอนด้า แนะนำ   Honda  City  1.0   S  เติมเต็มความต้องการของลูกค้า รุ่นเริ่มต้น มาพร้อมโคมไฟหน้า โปรเจคเตอร์ ส่องสว่างด้วยไฟฮาโลเจน มีไฟ   Day Time Running Light   ติดตั้งมาให้ได้ใช้ ลงตัวกับกระจังหน้าโครเมี่ยม  ให้ความสวยงามตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเป็นเอกลักษณ์ด้วยไฟท้าย  LED

แต่ยังให้ความธรรมดาในการใช้งานบางประการ อาทิ กระจกมองข้างปรับด้วยมือ  ล้อกระทะพร้อมฝาครอบขนาด 15 นิ้ว เป็นต้น

 

ทางด้านในห้องดายให้การตบแต่งเข้าเค้าความสปอร์ต ให้กุญแจ   Immobilizer   พร้อม  Wave Key   เป็นมาตรฐาน อานิสงค์ดังกล่าว คุณจึงได้ระบบปุ่มสตาร์ทมาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น

เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า แนะนำมาให้ใช้งาน เบาะคนขับสามารถปรับสูงต่ำได้ตั้งแต่ตัวนี้  รวมถึงยังได้พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง เรือนไมล์เป็นแบบเข็มไม่ได้เน้นความทันสมัย มีหน้าจอ   MID   มาให้ใช้งานแต่ไม่ได้เรืองแสง

Honda City 2020
ไฟท้าย Honda City 2020

ระบบปรับอากาศเป็นแบบปกติทั่วไป ตรงกลางสถิตด้วยวิทยุปกติรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth   ขับผ่านลำโพง 4 ตัวในห้องโดยสารตอบความสุนทรีย์ในยามขับขี่

ทางด้านความปลอดภัย  Honda   ให้ ระบบถุงลมนิรภัย คู่หน้า 2 ใบ และยังมีถุงลมนินภัยทางด้านข้างคู่หน้าอีก2 ใบ รวมเริ่มต้นมีถุงลมนิรภัย ให้ 4 ใบ

นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยมาให้ พร้อมฟังชั่นช่วยการขับขี่มากมาย ทั้งระบบควบคุมการทรงตัวในระหว่างการเข้าโค้ง, ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค พร้อมกระจายแรงเบรก และสัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกระทันหัน


*รูปแทนจากรุ่น  V

สรุปออพชั่นพื้นฐาน

  • เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบ 122 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ควบคุมด้วยระบบเกียร์   CVT   รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20

ภายนอก

  • โคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์
  • ไฟหน้าฮาโลเจน
  • ไฟ Day Time Running Light
  • ไฟท้าย  LED
  • ล้อกระทะฝาครอบ 15 นิ้ว
  • กระจังหน้าโครเมี่ยม

ภายใน

  • เบาะนั่งหุ้มผ้า
  • ฝั่งคนขับปรับสูงต่ำได้
  • พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
  • ระบบปรับอากาศปกติ
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
  • ระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราว
  • จอ  MID
  • เครื่องเสียงวิทยุ + ลำโพง 4 จุด
  • ความปลอดภัย
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • ถุงลมนิรภัยทางด้านข้าง
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิภัยผู้โดยสารตอนหน้า
  • ระบบป้องกันเบรกล้อล็อคและระบบกระจายแรงเบรก
  • ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง
  • ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน
  • สัญญาณไฟเบรกฉุกเฉิน เมื่อเบรกกระทันหัน

ราคาจำหน่าย 579,500 บาท

 

Honda City  1.0 V

ในรุ่นถัดมารุ่น   V   ทางฮอนด้า จัดการเพิ่มเติมออพชั่นมาให้น่าใช้มากขึ้น โดยภายนอกปรับมาเป็นล้ออัลลอยสีเทาขนาด 15 นิ้ว ให้กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า เพิ่มเติมเข้ามา

ในห้องโดยสาร ให้การตบแต่งคล้ายรุ่นเริ่มต้น เพียงเปลี่ยนมือจับเปิดประตูเป็นโครเมี่ยม เพิ่ม ระบบปรับอากาศอัตโนมัติเข้ามา มีระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ Honda smart Key   หน้าจอเรือนไมล์เป็นเรืองแสงสีขาวและมีที่เท้าแขนด้านหน้า  ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เหมือนกับรุ่นล่าง

 

สรุป ออพชั่นเพิ่มเติมจากรุ่น   S

  • ล้อแม็กขอบ 15 นิ้ว
  • กระจกมองข้าง ปรับพับไฟฟ้า
  • Honda Smart  Key
  • หน้าจอเรือนไมล์เรืองแสง
  • ที่เท้าแขนทางด้านหน้า
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ

ราคาจำหน่าย  609,000 บาท (+29500 บาท)

อ่านบทความในหน้า 2 >>

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่