ทุกวันนี้รถยนต์สมัยใหม่มีวิวัฒนาการอันก้าวหน้า รถที่เราใช้จ่างมีสิ่งละอันพันน้อยเติมเต็มเข้ามาตอบโจทย์ในการขับขี่มากขึ้น ในระยะหลังเราพบว่ารถยนต์หลายรุ่น ไล่ตั้งแต่อีโค่คาร์ ไปยันรถอเนกประสงค์ต่างมาพร้อมปีก วางไว้บนฝากระโปรงหลังหรือประตูท้าย เราต่างรู้ว่า พวกมันถูกเรียกว่า “สปอร์ยเลอร์หลัง” (Rear Spoiler)  หากก็ไม่มีใครตั้งคำถามว่า มันมีไว้เพื่ออะไรกันแน่หาก หลายคนทึกทักว่ามันช่วยให้รถเกาถนนขึ้น แล้วมันจริงหรือเปล่า 

สปอรยเลอร์หลัง เป็นผลพวงอย่างหนึ่งของรถยนต์ยุคใหม่ที่ได้รับความใส่ใจในงานออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ หรือ  Aero Dynamic   มากขึ้น การทำอย่างไรก็ได้ให้รถผ่านอากาศได้ง่าย และลดแรงดึงของอากาศถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้ทีมนักออกแบบและวิศวกรใส่ใจในการสร้างรถในปัจจุบัน 

รถอเนกประสงค์หลายรุ่นปัจจุบัน มาพร้อมสปอร์ยเลอร์หลัง เพื่อลดลมหมุนที่เกิดขึ้นในระหว่างการขับขี่ 

สปอร์ยเลอร์เกิดขึ้น เริ่มแรกจากในวงการแข่งรถทางเรียบ มันถูกติดตั้งเข้ามาเพื่อตอบโจทย์ 2 ข้อ สำคัญ คือ 1.ลดแรงดึงของอากาศที่เกิดขึ้นที่ตอนท้ายในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว และ 2 เพิ่มแรงกดให้กับท้ายรถ โดยอาศัยความเร็วลมเป็นตัวช่วยในการเพิ่มแรงกด คล้ายกับปีกเครื่องบิน เพียงแต่ปีกเครื่องบินมีไว้เพื่อแรงยก หรือจะว่าง่ายๆ สปอยเลอร์หลัง ก็คือ การเอารูปแบบปีกเครื่องบินมากลับหัวนั่นเอง 

การมาสู่รถยนต์ทั่วๆไป เริ่มแรก ถูกแนะนำในรถสปอร์ตชั้นนำทั้งหลายในช่วง ยุค 90 สปอร์ยเลอร์หลัง ถือเป็นสิ่งที่ทำให้รถสปอร์ตชั้นนำแตกต่างจากรถบ้านทั่วไป อาทิ   Mitsubishi  Evolution ตัวแรงทรวดทรง 4 ประตู ที่เพียงถอดสปอร์ยเลอร์หลังขนาดใหญ่ออก ก็คงไม่มีใครคิดว่า นี่คือรถที่มีกำลัง 280 แรงม้า ใต้เรือนร่าง เป็นต้น รวมถึงในสปอร์ตตำนาน ทั้ง   Toyota Supra  และ  Nissan  Skyline และรถที่เกิดมาเพื่อการขับขี่ด้วยความเร็วและเร้าใจ ทั้งหมด ต่างมีสปอร์ยเลอร์หลัง เพื่อ เพิ่มแรงกดต่อตัวถังรถ เมื่อขับด้วยความเร็ว  

mitsubishi-lancer-evo-x-final-edition-16-630x352Mitsubishi  Evolution   ทุกรุ่น เป็นรถที่มีความโดดเด่นมากในเรื่องของสปอร์ยเลอร์หลัง 
จนเป็นสัญลักษณ์ประจำรุ่น

ในปัจจุบัน สปอร์ยเลอร์หลัง เริ่มถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์หลายรุ่นมากขึ้น เพื่อเสริมความสามารถในการขับขี่ และแถมมันยังดูสวยงามลงตัวด้วย เมื่อเทียบกับบรรดารถชั้นนำที่ไม่ได้ติดตั้งเจ้าปีกอัศจรรย์เหล่านี้ 

แต่แทนที่สปอร์ยเลอร์ในรถยนต์ทั่วไป จะเพิ่มแรงกดให้กับตัวรถเป็นหน้าที่หลัก แท้ที่จริง หน้าที่ของสปอร์ยเลอร์หลังในรถยนต์ยุคใหม่หลายรุ่น กลับพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยลดลมหมุนด้านท้าย คล้ายกับอุปกรณืที่เรียกว่า  Diffusser   หรือ ตัวกระจายลม ซึงรถแข่งนิยมตืดตั้งไว้ใต้กันชนหลัง

การลดลมหมุนด้านท้ายรถ โดยเฉพาะในรถยนต์อเนกประสงค์ และรถยนต์ยุคใหม่ในรูปแบบ 5 ประตู สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี เนื่องจากลมหมุนท้ายรถที่เกิดขึ้น ในกรณีไม่ติดสปอร์ยเลอร์ จะสร้างความปั่นป่วนอากาศและทำให้เกิดแรงตึงอากาศทางด้านท้ายรถ ซึ่งเรียกว่า Bernoulli Effect   ทำให้รถถูกแรงดึงอากาศฉุดรั้งเอาไว้ 

ถ้าถอดสปอร์ยเลอร์หลังออกแล้วขับรถคันเดียว ในถนนเดียวกันที่ความเร็วเดียวกัน เมื่อปล่อยคันเร่ง รถที่ไม่มีสปอร์ยเลอร์หลัง จะลดความเร็วมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกัน เนื่องจากแรงลมหมุนที่เกิดทางด้านท้าย  

นอกจากนี้สปอร์ยเลอร์หลังแม้จะมีขนาดเล็กจนดูเหมือนไร้ประโยชน์นี้ก็ยังสามารถสร้างแรงกดต่อตัวรถเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะไม่มากมายเท่าปีกขนาดใหญ่ ที่ใช้ในสนามแข่งรถ แต่มันช่วยให้ท้ายรถไม่ดิ้นเวลขับด้วยความเร็ว โดยเฉพาะรถซีดาน ซึ่งมีช่วยท้ายยาวกว่ารถ 5 ประตู สปอร์ยเลอร์จะช่วยกดเอาไว้ในระดับหนึ่ง แต่จะกดมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับขนาดและพื้นที่รับลมบนสปอร์ยเลอร์ ยิ่งกว้างและสูง ยิ่งรับลมสร้างแรงกดมากขึ้น 

แต่รูปแบบสปอร์ยเลอร์ เล็กใหญ่ และมุมหรือพื้นที่รับลม มากน้อยต่างกัน ก็มีผลเช่นกันกับลักษณะในการขับขี่ เช่น ถ้าคุณขับด้วยความเร็วสูงมาก อาทิ 200 ก.ม./ช.ม. ขึ้น ไป สปอร์ยเลอร์ขนาดเล็กอาจไม่สามารถเพิ่มแรงกด เท่ากับขนาดใหญ่ที่มีความสูงกว่าและรับลมมากกว่าได้ 

อย่างไรก็ดี สปอร์ยเลอร์หลังไม่ได้มีประโยชน์มาก ถ้าเราขับรถด้วยความเร็วต่ำเสมอ เช่นขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 60 ก.ม./ช.ม. สปอร์ยเลอร์ อาจะกลายเป็นตัวถ่วงมากกว่าเป็นประโยชน์ยามขับขี่ 

Review-Porsche-Panamera-4S-009

Porsche   เก๋งทุกรุ่น ปัจจุบัน ติดตั้งระบบ   Active Spoiler   มาให้ สามารถปรับเองอัตโนมัติตามความเร็ว

นี่ทำให้บริษัทรถยนต์ชั้นนำบางรายคิดระบบที่เรียกว่า Active Spoiler  ระบบนี้จะติดตั้งสปอร์ยเลอร์เองอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด เช่นใน   Porsche   หลายรุ่น  อาทิ    Porsche  Panamera   จะเริ่มติดตั้งสปอร์ยเลอร์ เมื่อใช้ความเร็วเกิน 90 ก.ม./ช.ม. และจะมีการปรับสปอร์ยเลอร์ ให้สูงขึ้นเมื่อความเร็วถึง 205 ก.ม./ช.ม.  และจะปรับระยะลดลงเมื่อขับด้วยความเร็วไม่เกิน 180 ก.ม./ช.ม. ท้ายสุด จะปิดเก็บสปอร์ยเลอร์ เมื่อใช้ความเร็วตำกว่า  80 ก.ม./ช.ม. 

สปอร์ยเลอร์หลัง ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพียงเพื่อสวยงาม ด้วยการสื่อสารความคิดจากมอเตอร์สปอร์ตมากสู่รถบ้าน พวกมันมีประโยชน์ และใช้งานได้จริง ในภาวะที่ถูกต้องและเหมาะสม เพียงแต่รูปแบบตัวสปอร์ยเลอร์ก็มีส่วนสำคัญในการใช้งาน พวกมันต้องเหมาะสมกับภาวะการขับขี่ของเรา ไม่สูงไป จนดูเหมือนราวตากผ้า ทั้งที่ขับอย่างเต่าคลาน และไม่เตี้ยหรือเล็กไป จนไม่ก่อประสิทธิภาพยามขับขี่ … 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์   Ridebuster.com  ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง  Facebook 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่