หลังเผยโฉมที่เมืองจีนตั้งแต่ปีกลายที่เมืองกวางโจวถึงแม้เป็นการโชว์ตัวครั้งแรกของโลกแต่เป็นการเผยในร่างม็อคอัพจำลองคล้ายคันจริง

แต่ครั้งนี้ที่งาน Super Taikyu Fuji 24 Hours race ที่สนาม Fuji Speedway ประเทศจีน Toyota ตัดสินใจโขว์ตัว Toyota Crown ในร่าง Fastback Sedan ที่เป็นคันจริงคันแรกของโลกรถคันนี้สร้างจากพื้นฐาน TNGA-L พื้นฐานเดียวกันกับ Lexus LS กับ Toyota Mirai ตั้งแต่ความยาว 5,030 มม. ความกว้าง 1,890 มม. ความสูง 1,470 มม. ฐานล้อ 3,000 มม.

หรูหราด้วยติดตรามงกุฎบนฝากระโปรงหน้ารถสำหรับสเปกญี่ปุ่นส่วนทั่วโลกใช้โลโก้สามห่วงไฟหน้าเป็นแบบ LED 4 ดวง และ Bi-Beam LED ดวงเดียว กระจังหน้าขอบสีโครเมียมดำ พร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต ติดตั้งไฟท้าย LED เส้นเดียวแนวยาวที่มีทั้ง ไฟเบรก ไฟท้ายหลัก ไฟเลี้ยว และไฟถอยในโคมเดียวกัน รวมถึงการตกแต่งสีดำเข้มตั้งแต่ฝากระโปรงหน้ากับหลัง กันชนหลัง กระจกมองข้าง มือจับประตู หลังคามีทั้งแบบ Panoramic Moonroof ในสเปกอเมริกาและมูนรูฟบานเดียวล้ออัลลอยที่มีให้เลือกทั้งขนาด 19 นิ้วและ 20 นิ้วให้เลือก

ภายในหรูหราตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านตกแต่งโลโก้ตรามงกุฎสำหรับสเปกญี่ปุ่นและโลโก้สามห่วงสำหรับทั่วโลก พร้อมจอทัชสกรีนคู่ 12.3 นิ้ว ที่มีทั้งมาตรวัดดิจิตอลและจอสัมผัสควบคุมระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อในชุดจอเดียวกัน เชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlayไร้สาย Android Auto พร้อมลำโพง 6,10 และมากถึง 11  จุด จาก JBL เครื่องปรับอากาศแยกส่วน 3 จุดทั้งด้านหน้าซ้ายขวา และด้านหลังหนึ่งจุด

ขุมพลังมีให้เลือกทั้ง Dynamic Force Hybrid เบนซิน 2.5 ลิตร 186 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตรในภาคเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังแบบ 3NM และ 5NM และแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal โดยมอเตอร์ด้านหน้าให้กำลังถึง 88 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตร และมอเตอร์หลัง 40 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร ให้พลังร่วมกันถึง 249 แรงม้า คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT เลือกได้สี่โหมดสำหรับการขับขี่ EV, Normal, Eco และ Sport ขับเคลื่อนล้อหลัง

ครั้งแรกกับขุมพลัง ECEV จาก Toyota Mirai ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าเติมไฮโดรเจนให้กำลังมากถึง 182 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium-ion ขนาดเล็กลงเพียง 1.2 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor รุ่น 4JM คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ขับเคลื่อนล้อหลัง  ผนวกกับถังไฮโดรเจน 3 ถังใต้ท้องรถที่มีความจุถังทั้งหมด 141 ลิตร ความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม. แถมวิ่งไกลสุดต่อการเติมหนึ่งครั้งเพียง 750-850 กม. โดยเติมหนึ่งครั้งเพียง 3-5 นาที โดยจะเปิดตัวที่ญี่ปุ่น กันยายนนี้ และส่งขายอีก 40 ประเทศ รวมถึงเมืองจีน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่