น่าจะเรียกว่า กระแสมาแรงมาก สำหรับ Suzuki XL7 รถอเนกประสงค์ใหม่ จากค่ายซูซูกิ ออกมาเอาใจสาวกในเรื่องลุย ตอบโจทย์คนต้องการรถคันเดียวไปได้ทั้งครอบครัว
ว่าที่อเนกประสงค์คันนี้ จึงได้รับความสนใจอย่างมากจากลูกค้า และวันนี้เราจะไปดู มันมีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง
ข้อดี
1.ราคาคุ้ม
นาทีนี้ ถ้าจะมองรถอเนกประสงค์สักคันที่มาพร้อมจำนวน 7 ที่นั่งในการโดยสา รเราอาจจะต้องยอมรับว่า Suzuki XL7 เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด โดยเฉพาะในช่วงนี้ ทางซูซูกิเปิดราคาแนะนำ 779,000 บาท และยังยืนราคานี้ไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคน ต้องหันมามองรถคันนี้บ้างไม่มากก็น้อย กับราคาที่ถูกกว่าเก๋ง หรือ อเนกบางรุ่นเสียอีก
2.ได้ 7 ที่นั่ง
จุดขายหลัก ของ Suzuki XL 7 ที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้คือ การรองรับการโดยสาร สูงสุด 7 ที่นั่ง ซึ่งซูซูกิเอง มีความฉกาจฉกรรณ์ ในเรื่องของการออกแบบพื้นที่ภายในห้องโดยสารอยู่แล้ว เป็นที่กล่าวขาน มาตั้งแต่ Suzuki Ertiga การเปลี่ยนมาสู่ XL 7 ไม่ได้ยกโครงสร้างมาทั้งหมด แต่ขยายขนาดให้รถนั่งสบายมากขึ้นด้วย ซึ่ง แม้แต่คนตัวใหญ่ก็สามารถนั่งเบาะแถวที่ 3 ได้อย่างสบาย
ดังนั้น พื้นที่แถว 3 ของ รถรุ่นนี้ สามารถนั่งและใช้งานได้จริง ไม่ต้องจัดสรรปันส่วนว่าใครตัวใหญ่ ตัวเล็ก
3.ประหยัด
ซูซูกิ พยายามจะนำเสนอความประหยัด เป็นจุดขายสำคัญใน Suzuki XL7 แม้ว่าในภาพรวมรถรุ่นนี้จะใช้เครื่องและเกียร์เดียวกับ Suzuki Ertiga แต่ด้วยการเปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้าย ทำให้เวลาขับขี่ จะรู้สึกว่ารถตอบสนองดีกว่า Ertiga สักหน่อย
ด้วยการเปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้าย ทำให้ Suzuki XL7 มีอัตราประหยัดดีกว่า Ertiga โดยจากข้อมูลของ Eco Sticker มีอัตราประหยัด 6.1 ลิตร /100 กิโลเมตร หรือ 16.39 ก.ม./ลิตร แถมยังมีอัตราประหยัดในเมืองน้อยกว่า
ไม่เพียงเท่านี้ การปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์ยังน้อย เกว่าเพียง 143 กรัม ต่อกิโลเมตร เมื่อเทียบกับ Suzuki Ertiga ได้ 146 กรัม ต่อกิโลเมตร
4.ดูแลรักษาง่าย
ด้วยการใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิต รและ เกียร์ 4 สปีด บางคนอาจมองว่า โบราณล้าสมัย แต่ในอีกด้าน มันกลับดูแลรักษาง่าย เพราะ ช่างไทย ไม่ว่าจะในศูนย์- นอกศูนย์ คุ้นกับเครื่องแบบนี้ รวมถึงเกียร์ 4 สปีด เองก็ทนทาน และยังซ่อมบำรุงง่ายด้วย นี่รวมถึง ระบบกันสะเทือนและช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบีม ซึ่งไม่ต้องดูแลตัวรถอะไรมากมายนัก
5.ลุยได้จริง
ข้อดีของรถอเนกประสงค์คือ คุณสามารถใช้มันลุยขับเคลื่อนในเส้นทางสมบุกสมบันได้ XL7 ถูกปรับใต้ท้องรถให้มีความสูงจากพื้น 200 มม. มากพอสำหรับการผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างสบาย แม้ว่าจะมีรถในกลุมเดียวกัน มีความสูงจากพื้นมากกว่านี้ แต่ยิ่งมากไปก็ยิ่งทำให้เกิดแรงเหวี่ยงขณะเข้าโค้งมาก และราคาก็คงไม่ใช่ ในงบ 8 แสนบาท
แต่คำว่าลุยของเรา ก็ไม่ใช่หมายถึง ขับเข้าป่า ออฟโรดโหดๆ เพราะ มันคือ รถอเนกประสงค์ 2 ล้อ เท่านั้น
ข้อเสีย
1.เกียร์ 4 สปีด
การใช้ระบบเกียร์ 4 สปีด อาจซ่อมบำรุงง่าย กลับกัน มันก็ช่างจะล้าสมัยไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้รอบเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างสูง เมื่อขับขี่ใช้งานจริง โดยเฉพาะการเดินทางไกล อาจจะทำให้หลายคนมีความกังวลใจ เพราะเหมือนรถยุคเก่าในอดีต
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เลี่ยงต่อคำวิจารณ์ไม่ได้
2.มีรุ่นย่อยเดียว
ข่าวดี คือคุณไม่ต้องเลือกมาก ข่าวร้าย คือมันไม่มีทางเลือกให้คุณเลย เพราะ XL7 วางจำหน่ายเพียงรุ่นย่อยเดียวเท่านั้นในไทย คุณไม่มีโอกาส เลือกออพชั่นที่ต้องการ แม้ว่า บางอย่าง อาจคิดว่าจำเป็นต้องใช้ ก็ไม่มีทางเลือกให้ตัดสินใจ
3.ยังขาดบางออพชั่น
ในการทดลองขับ เมื่อต้นเดือน เราพบว่า มันเป็นรถที่น่าสนใจ แลขับดีรุ่นหนึ่ง แต่ก็ยังมีบางอย่างขาดตกไปในรถรุ่นนี้ ไม่ว่าจะ ระบบช่วยขับขี่อย่าง Cruise Control , หรือ ล้ออัลลอย 16 นิ้ว ที่ถือว่าโอเค แต่ตามจริง คุณอาจตามหายางขนาด 16 นิ้วไม่ง่ายนัก และราคามันแพงพอๆ กับล้อขนาด 17 นิ้ว
นี่เป็นเพียงบางสิ่งที่เราเรียนรู้จ่ากมัน แต่ในภาพรวมๆ ถือว่า ก็ยังเป็นรถที่มาครบออพชั่นรุ่นหนึ่งในตลาด