ตั้งแต่ ซูบารุ เผยรุ่นน้องเล็ก อย่าง Subaru XV ออกมา ก็ทำให้ค่ายนี้เป็นที่สนใจอย่างมากในฐานะรถครอบครัว ที่พรั่งพร้อมเรื่องความสามารถในการลุย ในปีนี้ ทางซูบารุ ถือโอกาสเดินเกมไว ส่ง Subaru Crosstrek 2023 ออกมาทันควัน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทางซูบารุ ขอเริ่มจากการดรอป ชื่อ Subaru XV ที่เคยใช้ในทางฝั่งเอเซีย รวมถึงในญี่ปุ่น เปลี่ยนเป็น Subaru Crosstrek เหมือนทางฝั่งอเมริกา ภายใต้นิยมว่า CrossoverXTreking เพื่อแสดงถึงการเป็นรถครอบครัว และพร้อมสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภทที่คุณนึกออก
ตัวรถรุ่นใหม่ ปรับปรุงงานออกแบบ เริ่มจาก ภายนอก ที่มีความสปอร์ตมากขึ้นกว่ารุ่นโฉม Subaru XV 2018 เริ่มจากการออกแบบให้ฝากระโปรงหน้ามีความสูงมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม เพื่อรู้สึกความทรงพลังของตัวรถ รวมถึงการออกแบบกระจังหน้าใหม่ที่เชื่อมต่อระหว่างไฟหน้า LED ที่มีการออกแบบให้มีความเล็กลงเล็กน้อย ให้รู้สึกถึงความปราดเปรียวมากขึ้น
ทางด้านข้างปรับเส้นสายงานออกแบบ ให้มีความสปอร์ตพร้อมลุย ดูคล้ายกับ Subaru WRX บ้างบางส่วน โดยเฉพาะ ชุด Over Fender ที่มีช่องระบายอากาศ เป็นหนึ่งในจุดเด่นสำคัญ รวมถึง เส้นสายมัดกล้ามและช่วงตัวรถ ที่ดูหนาขึ้นในงานออกแบบ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว รุ่นใหม่ ที่เสริมภาพความสปอร์ตพร้อมลุย มากขึ้น
ด้านหลัง ให้ความสปอร์ตตอบโจทย์ลูกค้า ด้วย งานออกแบบใหม่ที่มีความสปอร์ตเต็มพิกัดทุกมุมมอง เด่นด้วยไฟท้ายที่มีงานออกแบบ ให้เป็น 3 มิติในทุกมุมมอง รวมถึงชายล่างที่ทำให้เป็นดิฟเซอร์ ที่สามารถใช้งานได้จริงด้วย และขาดไม่ได้กับราวหลัง ที่พร้อมสำหรับการใช้งาน กิจกรรมกลางแจ้ง ที่ถูกออกแบบใหม่ให้ สะดวกมากขึ้น
ภายในห้องโดยสาร Subaru Crosstrek 2023 แนะนำการออกแบบใหม่ ที่เป็นแบบ Multi Layer Structure จุดเปลี่ยนสำคัญในรุ่นนี้อยู่ที่ การให้จอภาพขนาด 11.6 นิ้ว มาด้วย ซึ่งมันคือชุดจอเดียวกับ Subaru Outback ,Subaru WRX ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวออกมา
ช่วงคอนโซลกลาง ทางทีมออกแบบ ได้จัดการปรับปรุง ให้ตอบสนองในการใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะช่องเก็บของตรงกลาง
งานออกแบบ รุ่นใหม่ ต้องการให้ ห้องโดยสาร รู้สึกมีความกว้างขวางมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม ผู้ขับขี่ อยู่ในท่าที่สบายตลอดการเดินทาง เช่นเดียวกับผู้โดยสารเช่นกัน
จุดขายสำคัญอยู่ที่เบาะนั่ง ออกแบบใหม่ ให้มีซัพพอร์ทช่วงสะโพกมากขึ้น เพื่อลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ ทางไกล รวมถึงยังปรับการยึดขาเก้าอี้เข้ากับรถ เพื่อความสบายสูงสุด ในการขับขี่ และการโดยสาร
และเช่นเคย ทางซูบารุ ยังใส่ใจเรื่องการให้ตัวรถ ตอบสนองกิจกรรมต่างๆ ได้ เริ่มจากเบาะนั่งปรับพับได้ในอัตรา 60/40 รวมถึงการทำให้ ช่วงท้ายนั้นมีที่กันกระแทกมาเลย เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ที่สมบุกสมบัน
การพัฒนาที่ก้าวไปอีกขั้น
ทางด้านการพัฒนาตัวรถ ทางซูบารุ นำเสนอ การพัฒนาที่ล้ำไปอีกขั้น เริ่มจากโครงสร้างตัวถังรถ Subaru Global Platform ถูกปรับปรุงไปสู่เวอร์ชั่นใหม่ ด้วยการติดตั้ง Inner frame เพื่อซับแรงกระแทกในกรณีเกิดการชน โครงสร้างนี้เป็นโครงสร้างเดียวกับ Subaru WRX และ Subaru WRX Sport Wagon ทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของตัวรถให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมด้วย
การขับขี่ ยังเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์ Boxer 4 สูบ เหมือนเดิม มีขนาด 2.0 ลิตร และมีรายงานว่า จะขายเครื่องยนต์ e-Boxer ในหลายประเทศ มาพร้อมระบบเกียร์ Lineartronic CVT เหมือนเคย
แต่ส่วน ที่ปรับปรุงจริงๆ มี อีก 2 อย่าง
อย่างแรก ทางซุบารุ ปรับปั้มเบรก มาเป็นชุดปั้มเบรกไฟฟ้า ทำให้ตอบสนองได้ดีในยามที่ต้องการแรงเบรกอย่างทันท่วงที และทำงานได้ดีขึ้นกับระบบความปลอดภัย
ประการต่อมา แนะนำระบบ Dual pinion Electric Power Sterring ลดความไม่เป็นธรรมชาติ ในการขับขี่รถ โดยแยกแกนสั่งการ ทำให้ การตอบสนองจากพวงมาลัย เป็นธรรมชาติ โดยยังคงใช้อัตราทดพวงมาลัยเดิม ทำให้ การตอบสนองของพวงมาลัย ค่อนข้างจะทำได้ แม่นยำ รวมถึงยังให้ความมั่นคงในการขับขี่ด้วย
ความปลอดภัยอัพเกรด
ทางด้าน ความปลอดภัย Subaru จัดการอัพเกรด Subaru Crosstrek 2023 อีกครั้ง ด้วยกล้องหน้าคู่ ในระบบ Subaru Eyesight ที่มีความกว้างขึ้น กว่ารุ่นเดิม ช่วยเพิ่มมุมมองในการขับขี่ดีขึ้น
และใหม่!! กับกล้องจดจำต่างๆเป็น ตา ที่ 3 โดยเป็นกล้องมุมกว้าง สำหรับ การในยามความเร็วต่ำ สามารถ จดจำ รถมอเตอร์ไซค์ – คนเดินเท้า ช่วยเพิ่มความสามารถในปกป้องความปลอดภัย และความสามารถของ การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ซูบารุ ยังแนะนำกับครั้งแรกของ Cornering Light LED เสริมความสว่างให้ ในระหว่างที่คุณกำลังขับเข้าโค้ง
รวมถึง กล้อวง 360 องศา ใหม่ที่ทำงานผ่านกล้อง 4 ตัว และรวมภาพแบบไร้รอยต่อ
สำหรับ Subaru Crosstrek 2023 จะเริ่มวางจำหน่าย อย่างเป็นทางการในปี 2023 ที่ประเทศ ญี่ปุ่น ส่วนบ้านเรา อาจจะรอหน่อย แต่มาแน่นอน ครับ …. และ แว่วว่า รุ่นนี้ อาจจะประกอบไทยด้วย
