‘เสียงรถไฟฟ้า’ ที่เงียบเชียบคือปัจจัยสำคัญที่คอรถสปอร์ตเบือนหน้าหนีรถใส่ถ่าน เพราะมันไม่เร้าใจ ไม่มอบความสุนทรีย์ยามกดคันเร่งจมมิด ต่างจากรถเครื่องสันดาป…

เสียง อาจเป็นได้ทั้งความสุนทรีย์ หรือการรบกวนหากเกิดขึ้นผิดที่ผิดเวลา แต่สำหรับนักขับขาซิ่งแล้วปัจจัยเรื่องเสียงสำคัญไม่แพ้สมรรถนะของรถ เพราะไม่ว่าจะเพิ่มพูนความแรงระดับ 300 แรงม้าขึ้นไป หรือรถสวยงามแต่งเติมไปด้วยชุดแต่งนำเข้าจากสำนักต่างประเทศชื่อดัง แต่หากรถคันนั้นไร้เสียงคำรามจากเครื่องยนต์ และเสียงท่อไอเสียแล้ว รถคันดังกล่าวเรียกว่าไร้เสน่ห์ตามแบบฉบับรถสมรรถนะสูง

โดยเฉพาะช่วงสองสามปีมานี้ข่าวคราวของรถสี่ล้อขุมพลังไฟฟ้ามีให้ได้ยินมากมาย แต่ละคันออกแบบได้ล้ำยุคล้ำสมัย บ้างก็มีภายในห้องโดยสารน่าใช้งานอัดแน่นฟีเจอร์เต็มที่ แล้วจุดสำคัญสุดก็คือขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงม้าแรงบิดทะลักทลาย สามารถคันเร่งจนรถพุ่งแซงรถเครื่องสันดาปได้แบบไม่มีควัน และที่สำคัญคือชูเรื่องระยะทางที่วิ่งได้ รวมถึงการชาร์จไฟที่นับวันยิ่งใช้เวลาน้อยลง

หัวข้อสำคัญอันเป็นจุดขายหลักที่รถไฟฟ้าส่วนใหญ่มักชูให้ผู้บริโภคได้สนใจ นับว่าเป็นข้อดีที่รถเครื่องสันดาปเผาน้ำมันด้อยกว่าบ้างในบางประเด็น ซึ่งรถไฟฟ้าเองตอบโจทย์คนที่ใช้งานกลุ่มใหญ่ในตลาด ทว่ายังมีกลุ่มลูกค้าที่หลงใหลในอารมณ์สุนทรีย์เมื่อได้ขับรถเครื่องสันดาป นั่นก็คือเหล่าคนที่ชื่นชอบรถสปอร์ตนั่นเอง…

เสียง…คือเหตุผลที่คนชอบรถสปอร์ตส่ายหน้าให้กับรถไฟฟ้า?

อย่างที่เราทราบกันดีว่ารถไฟฟ้าโดดเด่นเรื่องความประหยัด ไร้มลพิษจากการใช้งาน หรือแม้แต่รูปลักษณ์อันทันสมัยตั้งแต่ข้างนอกถึงห้องโดยสาร แต่นั่นก็ยังมิสามารถเปิดประตูเหล่าคนชอบรถสปอร์ตทั้งรถเก่าหรือรถโฉมใหม่ แม้ว่ารถไฟฟ้าจะมีข้อดีที่คนกลุ่มนี้ชอบ ได้แก่ ตัวเลขแรงม้ากับแรงบิดสูงมหาศาล แถมไม่ต้องรอรอบเหมือนกับรถเครื่องสันดาป

พูดได้เลยว่าคนชอบรถสปอร์ตไม่ได้แคร์ความประหยัดพลังงาน หรือการปล่อยมลพิษอันเป็นศูนย์ของรถไฟฟ้า แม้ว่าเรื่องตัวเลขด้านความแรงและสมรรถนะข้ออื่นๆ จะตรงใจ แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้คนเหล่านี้ไม่ยอมรับรถไฟฟ้า คือการที่มันเงียบเชียบไร้ชีวิตชีวา โดยหากคุณเคยได้ยินคำว่า “ดังแต่ท่อล้อไม่หมุน” แต่สำหรับรถไฟฟ้าเราขอนิยามคำใหม่ให้แก่มัน “แรงเงียบไร้เสน่ห์”

เสียงรถไฟฟ้า

ถามว่าทำไมเรื่องเสียงถึงเป็นสิ่งที่แฟนๆ คนชอบรถสปอร์ตถึงได้ใส่ใจนัก ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงนั้นมีรูปแบบเครื่องยนต์ต่างกันไป ทั้งเครื่องเบนซินเทอร์โบ 4 สูบเรียง เครื่องเบนซิน V6 หรือเครื่องเบนซิน V8 พ่วงเทอร์โบคู่ ไปจนถึงเครื่อง V12 หรือบล็อกโตเบนซิน W16 ขุมกำลังเหล่านี้ล้วนต้องการระบบระบายไอเสียที่มีประสิทธิภาพดีเทียบเท่ากับการกำเนิดพลัง นั่นเป็นเหตุว่าทำไมรถสปอร์จึงมาพร้อมกับระบบท่อไอเสียที่สร้างเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ต่างจากรถเครื่องสันดาปกติ

ด้วยความที่ระบบระบายไอเสียที่ประกอบด้วย เฮดเดอร์ ท่อพัก แคทตาไลติค และปลายท่อไอเสีย พวกนี้มีผลโดยตรงต่อเสียงที่ดังออกมาจากปลายท่อ ซึ่งคนรักสปอร์ตส่วนใหญ่ใส่ใจเรื่องเสียงท่อมาก คุณจะพบว่าเมื่อใดที่เจ้าของรถโมดิฟายเครื่องมาเต็มพิกัดแล้ว พวกเขามักจบกระบวนการเสริมสมรรถนะด้วยการเปลี่ยนชุดท่อไอเสียให้เหมาะสมกับรถ จากนั้นถึงค่อยจะไปปรับจูนกล่องอีซียูบนไดโนต่อไป

Ford Mustang

Lamborghini Huracan EVO 2019

โดยเจ้าเสียงท่อไอเสียนี่แหละคือหนึ่งในมนต์เสนห์ที่บรรดาขาซิ่งหลงใหล ไม่แพ้ความเร็วแรง ช่วงล่างหนึบๆ หรือล้อสวยไซส์โต โดยเฉพาะกับบรรดารถสปอร์ตค่ายยุโรปตัวแพงทั้งหลาย อาทิ Mercedes-Benz AMG, BMW M, Porsche, Ferrari, Lamborghini และค่ายรถอเมริกันที่มีรถตัวแรง เหล่านี้ล้วนมาพร้อมกับเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ไว้คำรามให้คนขับฟังช่วยปลุกความหึกเหิมยามกดคันเร่งจมเท้า

อย่างไรก็ตาม เจ้าเสียงที่เกิดจากความหลากหลายของชนิดเครื่องยนต์และระบบระบายไอเสีย แต่เมื่อใดที่เป็นรถไฟฟ้าแล้วสิ่งนี้จะไม่มีให้ผู้ขับขี่ได้ยินอีกต่อไป คำตอบจึงไขข้อข้องใจว่าทำไมคนรักรถสปอร์ตจึงไม่ได้สนใจรถสปอร์ตใส่ถ่านรุ่นใหม่ นอกเหนือจากราคาที่แสนจะแพงหูฉี่ กับตัวเลือกที่ปัจจุบันยังมีเพียงไม่กี่ค่ายเท่านั้น คันที่ใกล้ความเป็นจริงที่สุดก็คือ Porsche Taycan และอื่นๆ ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา

เสียงรถไฟฟ้า

อนาคตจะได้พบกับรถสปอร์ตไฟฟ้ามีเสียงหรือไม่?

หากคุณมีคำถามนั้นผุดขึ้นมาในสมอง เราก็ตอบได้เลยว่ามีแน่นอน ไม่ได้มีเสียงเฉพาะรถสปอร์ตหัวใจไฟฟ้า แต่ยังรวมถึงรถไฟฟ้ารุ่นใหม่จะเปิดตัวต่อจากนี้ เนื่องจากสหภาพยุโรปเพิ่งออกกฏว่ารถใส่ถ่านทุกคันที่เปิดตัวหลังวันที่ 1 กรกฏาคมปี 2019 จะต้องติดตั้งระบบ Acoustic Vehicle Alert System (AVAS) ที่ทำงานด้วยการส่งเสียงรอบตัวรถระหว่างวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 19 กม./ชม. เพื่อเตือนคนเดินถนนและคนปั่นจักรยาน

เสียงรถไฟฟ้า

 

อย่างไรก็ตาม ระบบที่กล่าวมาข้างต้นจะสร้างเสียงแค่ตอนรถไฟฟ้าวิ่งด้วยความเร็วต่ำภายในเมืองเท่านั้น แต่ก็ยังมีข่าวดีว่าทางบีเอ็มดับเบิลยูได้ให้ Hans Zimmer ผู้ผลิตเสียงซาวน์ประกอบชื่อดังในฮอลลีวู้ด ให้ออกแบบเสียงของรถไฟฟ้ายุคใหม่ในเครือใบพัดฟ้าขาว เพื่อความเป็นเอกลักษณ์เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด นอกจากจะช่วยในเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อนักขับที่ชื่นชอบรถสปอร์ต ที่มักหลงใหลเสียงท่อไอเสียอันดังเร้าใจไม่เงียบเชียบเหมือนรถบ้านใช้งานทั่วไป

เสียงรถไฟฟ้า

ต่อจากนี้ไปเราอยากให้ผู้อ่านคอยติดตามข่าวสารจาก Ridebuster ให้ดีๆ เพราะอนาคตไม่นานนี้เราจะได้พบกับรถสปอร์ตหัวใจไฟฟ้า ที่เข้าใจหัวอกของสาวกรถสปอร์ต ว่าความแรง ความสวย และสมรรถนะการขับขี่ไม่ใช่สิ่งเดียวที่พวกเขาเพรียกหา หากยังรวมถึงเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ที่ดังก้องคำรามเมื่อรถคันนั้นโลดแล่นบนท้องถนน แม้มันจะถูกสังเคราะห์ขึ้นก็ตามที

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่