ท่ามกลางกระแสความนิยมรถหรู ในมุมหนึ่งเชื่อว่าเราเห็นรถยนต์หรูหลายรุ่น เริ่มมาเอาดีทางด้านระบบไฮบริดเสียบปลั้ก หนึ่งในนั้นที่เหมือนจะทำตลาดมายาวนาน ไม่พ้นค่ายสปอร์ตคาร์เยอรมัน Porsche พวกเขาเพิ่งกลับมาพร้อมผลงานล่าสุด Porsche Cayenne E Hybrid เจ้าชายกบสายรถอเนกประสงค์ที่กลับมาตอบลูกค้าอีกคราว
การเปิดตัวที่มีเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา Porsche Cayenne
E Hybrid เป็นอเนกประสงค์ใหม่ที่เข้ามาทำตลาดก่อนหน้ารุ่นอื่นๆ
จะเข้ามาทำตลาด ด้วยการวางตัวเองเป็นรถยนต์ไฮบริดเสียบปลั้ก
รู้จักดีในนามประหยัดและรักษ์โลก แต่เมื่อเป็นปอร์เช่ ผมก็ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา
ก่อนจะขับขอเริ่มจากการมองเส้นสายการออกแบบภายนอกเจ้าชายกับกันก่อน วันเปิดตัวดึงผ้าคลุมในไทยอย่างเป็นทางการไม่ได้ไปชมหน้าตา เมื่อมาเห็น ณ สนามทดสอบครั้งแรกก็ยังชวนให้นึกถึงรุ่นก่อนหน้าอยู่บ้าง ด้วยเสน้สายของความสปอร์ตทันสมัยครบเครื่องตั้งแต่ด้านหน้าจรดบั้นท้าย ติดตั้งล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้ว ด้านหน้ามาพร้อมยางขนาด 255/55R19 ด้านหลังใช้ขนาด 275/50/R19 ตอบการเดินทางด้วยไฟหน้า LED ช่วยในการส่องสว่างยามคำคืน
ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร เราต้องนั่งดูทางกันก่อนจะลงไปขับ รถราคาระดับนี้นั่งข้างหลังเป็นบุญตูดคงจะแปลกก็เลยก้าวขึ้นไปลองความเป็นผู้บริหารที่อาจจะมีคนขับรถให้นั่งในวันหน้า
พื้นที่โดยสารตอนหลัง Porsche Cayenne E Hybrid คงต้องบอกว่าเหลือเฟือ ที่นั่งตอนหลังสามารถจุคนได้ 5 ที่นั่ง มีช่องระบบปรัยอากาศ และที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำมาให้ใช้กัน
หันไปมองทางด้านหน้าปุ่มต่างๆ ที่เคยมากมาย บัดนี้กลายเป็นระบบสัมผัสทัชผ่านสวิทช์ที่ทำเป็นการออกแบบสีดำเงาเปียโนแบล็คหมดแล้ว จนผมรู้สึกว่า มันทันสมัยมากมาย ตรงหน้าคนขับกลายเป็นชุดจอแทนเรือนบ์แบบเดิมๆ แต่ยังคงเอกลักษณ์ จอรอบเครื่องตรงกลาง พร้อมหน้าปัดที่ปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานทางด้านขวา จะเอาแผนที่มาโชว์ จะดูข้อมูลอื่นทำได้ง่ายสบายมาก เพียงกดเลื่อนเปลี่ยนเอาตามใจฉัน ส่วนการปรับท่านั่งเปลี่ยนได้ถึง 14 ทิศทางละเอียดยิบ พร้อมเมมโดม่รี่เก็บบันทึกไว้
ส่วนบนพวงมาลัยก็จะมีปุ่มควบคุมการทำงานของรถบางส่วน แต่หลักๆ จะเป็นระบบเครื่องเสียง งวดนี้ได้ระบบเสียชั้นเลิศจาก Bose Sound System มาขับกล่อม และรองรับการเชื่อมต่อ หลังพวงมาลัยมี Paddle Shift ให้ใช้งาน เผื่อต้องการบริหารนิ้วระหว่างทำความเร็ว
คุยไปคุยเผลอ
แวบเดียวเรามาถึงเรื่องน่ารู้ด้านสมรรถนะ พูดถึงปอร์เช่ .. คงต้องพูดถึงความแรงใช่ไหม
… เห็นร่างใหญ่แถมเป็นไฮบริดเสียบปลั้กแบบนี้ อย่าคิดว่าไม่เท่าไร
เพราะใต้ร่างอเนกประสงค์คันนี้จุ เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลัง 340 แรงม้า พ่วงดข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 136 แรงม้า จนเมื่อทำกำลังรวมสามารถปั่นฝีเท้าได้ถึง 462 แรงม้า และทำแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,340 รอบต่อนาทีไปจนถึง 5,300 รอบต่อนาที ส่งลงชุดเกียร์ Triptronic S 8 สปีด เพื่อนร่วมก๊วนปั่นฝีเท้า
462 แรงม้า มันแรงแค่ไหน … หลายคนอาจไม่รู้ ปอร์เช่บอก 0-100 ก.ม./ช.ม. Porsche Cayenne E Hybrid ทำได้ใน 5 วินาที ใช่ ถ้าคุณหยุดนิ่ง มีด่านจับความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. อยู่ข้างหน้า เพียงกระดิกเท้าจนมิดคันเร่ง อาจได้รูปถ่ายส่งถึงบ้านเป็นที่ระลึกก็ไม่น่าแปลกใจนัก
ผมฟังสรรพคุณ
นี่รถสปอร์ตในคราบรถอเนกประสงค์ชัดๆ แต่แรงบิด 700 นิวตันเมตรเป็นอย่างไร
หลายคนคงอาจสงสัย ผมฟังสาธยายอีกไม่นาน เรามาตั้งลำ สุดปลายแทรค
ราวกับเครื่องบินกำลังออกตัว ในเวลาที่กัปตัน คงจะบอกว่า “ Cabin Crew
Prepare for Takeo off”
ทุกคนเอามือถือควักมาถ่ายเพราะอยากรู้ว่ามันจะเร็วแค่ไหน ว่าแล้ว ครูฝึกกดให้เราชมเต็มคันเร่งเป็นขวัญ เจ้าชายกบเราพุ่งอย่างรวดเร็ว ในระยะอึดใจเดียวเราถึงปลายเส้นต้องเบรกแล้วหักเลี้ยวหลบกรวยก็ไม่อาการเซตูดปัดคุมยาก … ผมกล้าพูดว่านี่ไม่ใช่รถธรรมดาทั่วไปที่คุณจะหาซื้อได้แน่นอน
ได้เวลาลองขับ … ทุกคนหนีผมไปหมดแล้ว เวลานี้มีเพียงผม และครูฝีกนั่งในรถ เพื่อลองกันจริงจัง ครูฝึกหันมาบอกรอบแรกเอาสบายๆ ก่อน เขาปรับให้ผมขับในโหมด Hybrid Auto จะว่าไปเป็นค่าเริ่มต้นประจำรถ ถ้าคุณเดินคันเร่งเบาๆ เช่น พ่อตาแม่ยายมานั่งด้วยรถก็จะออกตัวนิ่งๆ เหมือนวิ่นเร็วๆ แต่อย่าเผลอได้กดคันเร่งลงไปทีเดียวเชียว บอกเลยว่า อาจมีโกรธเพราะเจ้านี่เร่งแบบหลังติดเบาะหัวติดหมอนเหมือนกัน
ลดความเร็วลงมาเราขับผ่านสานนี่ต่างๆ
ในทางโค้ง ตัวรถเกาะถนนมาก คุณคงบอกก็มันคือปอร์เช่ นี่
แต่ถ้าเทียบกับรถอเนกประสงค์พิกัด 400 ม้า ใกล้กันที่เคยขับ
ผมว่าปอร์เช่นิ่งกว่าเยอะ โดยเฉพาะในกรณีจำเป้นที่ต้องหักหลบถ้ามาด้วยความเร็ว ผมรู้สึกว่าการโคลงตัวรถน้อยกว่าพอสมควร
เป็นรถสไตล์ขับสบาย รับส่งผู้ใหญ่ได้เช่นกัน ถ้าคุณไม่หุนหันพันแล่นกระแทกคันเร่งลงไป
วนมารอบ 2 คราวนี้ใช้ Sport โหมด … โหมดแห่งความรีบ … ในโหมดนี้จะมีการปรับพวงมาลัยการตอบสนองของช่วงล่างแน่นอนมันต้องเร้าใจว่า เมื่อกดคันเร่งเต็มที่ เจ้ากบ ออกตัวแบบหน้ายกเล็กน้อยดันตัวผมติดเบาะราวกับ Porsche 911 มาเข้าทรงอย่างไงอย่างงั้น 700 นิวตันเมตรดึงได้แสบสัน จนหลายคนอาจจะรู้สึกมวลท้องเหมือนกันถ้ากินข้าวเที่ยวมาอิ่มๆ
งวดนี้ผมลองใช้ความเร็วในโค้งมากขึ้นเป็นความเร็วเดียวกับที่เราเข้าด้วยรถสปอร์ต
เจ้าชายกบขับได้เข้าท่าเข้าทีไม่มีทีท่าว่า 2 ตันและร่างขนาดใหญ่จะทำอะไรมันได้ นาทีนี้ผมเชื่อแล้วว่ารถขับสบายกลายเป็นสปอร์ตมาจำแลงแปลงกายขับได้สนุกสนาน จนเหมือซื้อหนึ่งได้ถึง 2 ความรู้สึกในคันเดียว คุณเข้าโค้งเต็มที่ก็ไม่มีอาการเหมือนจะโยนให้น่ากลัวหวั่นใจ
กลายเป็นรถสปอร์ตดีๆในช่วงเวลาที่คุณอาจจะจำเป็นต้องรีบไปรับแฟน เข้าประชุม
หรือเจรจาธุรกิจพันล้าน ถ้ามีรถคันนี้ที่บ้านไปได้สบายมาก
แม้จะแรงสุดขั้ว Porsche Cayenne E Hybrid ยังมาพร้อมความประหยัดที่มั่นใจ Porsche เคลมอัตราประหยัดสูงถึง 29.4 ก.ม./ลิตร ส่วนระบบชาร์จไฟฟ้ามาพร้อมความสามารถชาร์จเร็ว 7.2 กิโลวัตต์/ชั่วโมง เมื่อชาร์จเต็มจะสามารถวิ่งได้ด้วยไฟฟ้า 40 กิโลเมตร แถมรับประกันแบตเตอร์รี่ไฮบริดนาน 8 ปี
ผมลงมาจาก Porsche Cayenne E Hybrid ที่มีค่าตัวราคา 6.3 ล้านบาทเริ่มต้น มองกลับไปที่รถพร้อมบอกกับตัวเองว่าเป็นรถที่น่าสนใจ น่าซื้อน่าใช้ ถ้าวันหนึ่งเป็นอภิมหาเศรษฐี ราคาขนาดนี้ไม่ได้แพง สำหรับรถที่แรงและประหยัดแถมใช้งานได้ครอบคลุมทุกอนูของชีวิต …. ถ้ามีเงินบอกเลยว่า จัดไปครับ แรงคุ้มประหยัดครบขนาดนี้… ไม่มีคันไหนเกินแล้ว ….
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg src=”galleries” ids=”741″ display=”basic_thumbnail”]
