ไม่รู้ว่าเคยเป็นไหม บางทีจะไปทำธุระอะไรปรากฎนึกได้ว่า เอ้อเราลืมของไว้ที่เบาะหลังพลันเสียเวลาเสียอารมณ์ นึกแล้วก็หงุดหงิดตัวเอง ต้องย้อนกลับไปเอาของดังกล่าวอีก (จะด่าใครก็ไม่ได้ 55)
เรื่องแบบนี้ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยเป็น ผมเองเคยมีประสบการ๊์คล้ายๆ กัน และในอนาคตปัญหานี้จะหมดไปด้วยระบบเตือนกันลืมของเบาะหลัง ทำให้คุณไม่ต้องหงุดหงิดเสียอารมณ์กับตัวเองอีกต่อไป
ระบบนี้เรียกว่า Rear Seat Reminder อาจจะยังมาไม่ถึงไทย หาในต่างประเทศมีติดตั้งเข้ามาแล้ว และมันเพิ่งถูกบรรจุเป็นวาระสำคัญในการพัฒนารถยนต์ใมห่ๆ ต้องมีติดตั้งระบบเดียวกันนี้เป็นมาตรฐาานตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป
สาเหตุหนึงที่ทำให้หน่วยงานภาครัฐบาลของสหรัฐอเมริกา เข้ามาควบคุมจริงจังในเรื่องนี้ เนื่องจากข้อมูลทางด้านอุบัติภัยชี้ว่า มีคนจำนวนมากชอบลืมลูกไว้ที่เบาะหลัง และข้อมูลตั้งแต่ปี 2018 เผยเรื่องน่าตกใจ เมื่อมีเด็กว่า 90 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในเรื่องดังกล่าว ทั้งที่เพียงแค่เกิดจากความหลงลืมเท่านั้นเอง
ข้อตกลงใหม่นี้ถูกบังคับใช้กับบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ 3 รายในสหรัฐ ตลอด 3 ยักษ์ใหญ่บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น อย่าง Nissan , Honda และ Toyota
ระบบเตือนกันลืมของ-ผู้โดยสารเบาะหลัง จะทำงาน โดยตรวจสอบการเปิด-ปิดประตูหลัง เป้นสำคัญ ในกรณีผู้ใช้ เคยเปิดประตูหลังตอนก่อนหรือหลังสตาร์ทรถ เมื่อผู้ขับขี่ดับเครื่องลงจากรถ ระบบจะเตือนโดยการบีบแตร หรือส่งสัญญาณ ว่าอาจมีของหรือเด็กในเบาะหลัง ในกรณีประตูหลังไม่ได้ถูกเปิด เมื่อล็อครถ
ปัญหาการลืมเด็กไว้ในรถ เป็นประเด็นสำคัญ ที่ทำให้ภาครัฐบาลสหรัฐต้องเข้ามายกระดับระบบดังกล่าวเป็นมาตรฐาน ด้านผู้เชี่ยวชาญทางด้านความปลอดภัยในรถยนต์ของ Consumer Report , เอมิลี่ โทมัส กล่าวว่า การทำข้อตกลงนี้จะเป็นการช่วยชีวิตคนจำนวนมากในคราวเดียว
ปัญหาคือ สังคมในวันนี้มีความกดดันมากขึ้นในการใช้ชีวิตแก่คนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่เป็นพ่อ-แม่ ระบบนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างมากในการใช้งาน แก่กลุ่มครอบครัว หรือคนขี้ลืมทั้งหลาย
ปัจจุบัน ระบบ Rear Seat Reminder มีแนะนำเพียงในรถยนต์บางรุ่น แต่เราเชื่อว่าในอนาคต จะได้เห้นมันมากขึ้น รวมถึงในไทยด้วย
