หลังจากมีกระแสความพร้อมการวางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลังมานาน MG 4 EV ก็ พร้อมแล้วที่จะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรป ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ด้วยค่าตัว สุดทึ่ง เพียง 1 ล้านบาทไทยเท่านั้น

การประกาศ ล่าสุดของ MG ยุโรป เปิดเผย ความพร้อมในการวางจำหน่าย All New MG 4 EV ที่จะเริ่มขายในฤดูใบไม้ร่วงนี้เป็นต้นไป ส่วนประเทศไทย อาจจะต้องรอลุ้นจากทาง เอ็มจี อีกทีหนึ้ง แต่คาดว่า ไม่น่าจะพลาดขบวนนี้ อย่างแน่นอน

ตัวรถ MG 4 EV ถูกวางให้อยู่ในรถระดับ C Segment ที่พัฒนาออกมาตอบตลาดคนยุโรปที่มองหารถคันนี้ ตัวรถมีขนาดมิติตตัวถัง

  • ยาว 4,287 มม.​
  • กว้าง 1,836 มม
  • สูง 1,504 มม.
  • มาพร้อมฐานล้อ 2,705 มม.

PR Photography
PR Photography

มาพร้อมงานออกแบบดีไซน์สปอร์ ตั้งแต่ด้านหน้าจรดบั้นท้ายรถ ให้ไฟหน้า ศฎฏ มาเป้นมาตรฐสาน ทั้งตัวรถยังได้ หลักการอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง จนมีค่าสัมประสิทธิเสียดทานอากาศเพียง 0.27 Cd เท่านั้น

ช่องอากาศที่กันหน้าถูก ทำออกมา เพื่อให้นำอากาศ เข้าไประบายความร้อนของแบตเตอร์รี่ สามารถช่วยเพื่มระยะทางการขับขี่ได้ราวๆ 10% และยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรีดอาากศ ราวๆ 30% ในการขับขี่

ล้ออัลลอย ลาย โทมาฮอค ขนาด 17 จับคู่ยาง 215/55/R17 ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ และดูลงตัวในการใช้งาน

ภายในห้องดยสาร ให้ความดูดีมีความทันสมัย ในการใช้งาน เริ่มจากจอคนขับขนาด 7 นิ้ว ช่วยแสดงค่าต่างๆ ที่จำเป็นในการขับขี่ มาพร้อมจอกลางสำหรับใช้ในการเชื่อมต่อต่างๆ ขนาด 10.25 นิ้ว ทั้งยังใช้วัสดุคุณภาพสูง พหพวงมาลัย Double Spoke ช่วยในการขับขี่

ตลอดจน รถยังออกแบบเบาะนั่งให้พร้อมสำหรับการโดยสาร ไม่เว้น กระทั่งคนตัวใหญ่ไซส์ ยุโรป ก็สามารถนั่งโดยสารได้อย่างสบายตลอดการเดินทาง

การวิศวกรรมที่เหนือกว่า

ทางด้าน การวิศวกรรมในรถคันนี้ ถือเป็นไฮไลท์ เด็ดที่สำคัญ โครงสร้างใหม่ที่ถูก พัฒนา มาสำหรับการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า อย่างแท้จริง Modular Scalable Platform เป็นโครงสร้างที่เกิดมาพร้อมเผื่อการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว

ระบบขับเคลื่อน ที่วางจำหน่าย มี 2 รุ่นในตอนนี้ คือ

มอเตอร์เดี่ยว 170 PS ที่ 6,500 รอบต่อนาที และ มอเตอร์เดียว 201 PS ที่ 7,000 รอบต่อนาที ทั้งคู่ให้แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,000-3,500 รอบต่อนาที

สามารถเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลา ต่ำกว่า 8 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 ก.ม./ช.ม.

แบตเตอร์รี่ ถูกพัฒนาใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ One Pack ทำให้ แบตเตอร์รี่มีความสูงเพียง 110 มม. โดยภายในประกอบด้วย

  • 104 เซลล์ 6 โมดูล สำหรับรุ่นเริ่มต้น (Lithium iron phosphate battery) ขนาด 51 KW ให้ระยะทางต่อการชาร์จ 350 ก.ม. (WLTP)
  • 104 เซลล์ 6 โมดูล สำหรับ รุ่น อื่น (Nickel cobalt manganese battery) ขนาด 64 KW ให้ระยะทางต่อการชาร์จ 450 ก.ม. (WLTP)

โดยทีมวิศวกร ยังได้คำนวนการจัดวางแบตเตอร์รี่มาอย่างดี จน ให้สมดุลน้ำหนัก หน้า-หลัง 50/50 รวมถึง ยังวางมอเตอร์ขับเคลื่อน ไว้ที่ด้านหลัง เพื่อให้การตอบสนองดี และมั่นใจ ในการขับขี่ โดยเฉพาะ

พูดถึงการขับ ระคันนี้ มี 3 โหมด ได้แก่ Snow , Eco, Sport ทั้งยังสามารถเซท น้ำหนักพวงมาลัย ,​การหน่วงของคันเร่ง

และเป็นครั้งแรกที่แนะนำ ระบบเบรก Brake By Wire ขาแป้นเบรก จะไม่ติดกับชิ้นส่วนในรูปแบบกลไกอีกต่อไป

ส่วนช่วงล่างด้านหน้า เป็นแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และ ด้านหลังใช้ช่วงล่างแบบ Five Link ช่วยเพื่มความมั่นใจในการขับขี่

ด้านการชาร์จไฟฟ้า ทาง MG ได้ออกแบบให้รถคันนี้พร้อมสำหรับการใช้งานอย่างแท้จริง นำเสนอการชาร์จ AC สูงสุด 11 KW และ การชาร์จแบบ DC รองรับสูงสุด 135 KW ช่วยลดปัญหาการรอชาร์จ

ตามการเคลมของเอ็มจี รุ่น แบตเตอร์รี่ 61 KW สามารถชาร์จ 10-80% ของแบตเตอร์รี่ได้ ภายใน 35 นาที เท่านั้น

PR Photography

ถือว่าเร็วที่สุด ในบรรดารถยนต์ไฟฟ้าจากทางเอ็มจี

เรื่องการอำนวยความสะดวกปลอดภัย ก็ไม่ลืมที่จะให้มา ไม่ว่าจะ ระบบไฟหน้า LED ให้มาเป็นมาตรฐาน เช่นเดียวกับ Adaptive Cruise Control ได้มาเป็นมาตรฐานเช่นกัน ในส่วน ระบบเชื่อมต่อ i-smart ก็ยังมีมาให้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สามารถดุค่า สถานการชสาร์จ ความพร้อมของรถในการเดินทางได้ จากมือถือของคุณ

สำหรับ MG 4 EV เปิดราคาเริ่มต้นในรุ่น Standard ที่ 28,990 ยูโร หรือ คิดเป็นเงินไทย ราวๆ 1 ล้าน บาทถ้วน โดยประมาณ

ทางเอ็มจี ยังเปิดเผยว่า รถรุ่นนี้จะยังมีเวอร์ชั่น ที่แล่นไหล 500 ก.ม.​/การชาร์จ ในการทดสอบ WLTP ซึ่งจะมาพร้อมแบตเตอร์รี่ 77 กิโลวัตต์ โดยจะเปิดตัวอีกครั้งในอนาคต

ที่มา เอ็มจี ยุโรป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: