อาจขาย มายาวนานหลายปี หาก Mazda CX-3 ก็ยังเป็น หนึ่งในรถเรือธง ยอดขายของมาสด้า วางจำหน่ายมายาวนาน ในฐานะอเนกประสงค์ซับคอมแพ็ค ของทางค่ายมาสด้า

Mazda CX-3 Sport Luxe

การปรับตำแหน่งสินค้า มาสู่รถซื้อง่ายๆ จากมาสด้า ได้สมรรถนะเร้าใจ ก็ทำให้หลายคนสนใจ จนรถรุ่นนี้สร้างยอดขายได้ไม่น้อย ให้กับมาสด้า ที่จริง มันขายดีพอๆ กับมาสด้า 2 คู่แฝดฝั่งเก่ง ด้วยซ้ำไป

Mazda CX-3 ใหม่ ตอบโจทย์ด้วยการนำหน้าตา มาสด้า 3 เดิม มาตัดรวมกับ โครงสร้างรถอเนกประสงค์ เน้นกลุ่มเป้าหมายหลัก คนเมือง ที่มองหา รถยนต์อเนกประสงค์ใช้งานในการเดินทา งและสามารถเดินทางนอกเมืองได้ด้วย

ในปีนี้ ทางมาสด้า กลับไปหาจุดเดิม ที่ต้องการให้รถตอบโจทย์ เรื่องงานออกแบบ ดูภูมิฐาน ด้วยการเพิ่มรุ่นใหม่ Sport Luxe เข้าทำตลาด เป็นรุ่นย่อยใหม่ ที่น่าสนใจ ด้วยภาพลักษณ์ ความสปอร์ต ดูหรู จุดหลักๆ อยู่ที่การออกแบบ ภายนอก ให้มีความน่าใช้งานมากขึ้น

Mazda CX-3 Sport Luxe

ด้วยการนำเสนอ หลังคาดำ ตัดกับสีตัวถัง และมีการเล่น ในส่วนของรายละเอียดงานออกแบบตัวถัง ชายล่าง เป็นสีดำเงาด้วย มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ให้ขนาด 215/50/ R18 ใช้ยางดี จากค่าย Toyo Tire ตอบโจทย์ลูกค้า ให้มั่นใจได้ในการขับขี่ทุกเส้นทาง

ในส่วนของภายใน มีการปรับ มาใช้เบาะหนังผสมผ้า Grand Luxe Suede เบาะคนขับปรับไฟฟ้าพร้อมบันทึกท่านั่ง 2 ตำแหน่ง รุ่นนี้มีการปรับ งานตบแต่ง ช่องแอร์ให้สีคอปเปอร์ แถมให้เครื่องเสียง จาก Bose ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ด้วย

ด้านการโดยสารเหมือนเดิม ด้วยความสบายในการโดยสารตอนหน้า ตามสไตล์รถคนโสด ขับคนเดียวหรือ 2 คนเท่านั้น ในวันนี้เรามากัน 3 คน โดยผมนั่งหลังบ้างบางจังหวะ ก็บอกตามตรงสำหรับ ใครที่ผู้โดยสารตอนหลังบ่อยๆ เพิ่มเงินอีกนิด เอา Mazda CX-30 น่าจะใช้งานสะดวกกว่า

การขับขี่

ใต้เรือนร่าง ของ Mazda CX-3 ตอบการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ นำเสอน พลังขับ 156 แรงม้า ถ้วน สูงสุดที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด สูงสุด 204 นิวตันเมตร อาจไม่เบอะมาก แต่มาเร็วเพียงแค่ 2,800 รอบต่อนาที ก็พร้อมใช้งานแล้ว

เช่นเคย ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ยังเป็นคู่บุญในงวดนี้ มาพร้อมกับ Sport Pedal Shift ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้สะดวกมากขึ้น เวลาต้องการ การตอบสนองจากเครื่องยนต์

แม้ว่า ต้องยอมรับว่า Mazda CX-3 แทบจะเป็นรถเพียงรุ่นเดียว ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเพียว ในขณะที่ค่ายอื่น หนีไปตระกูลไฮบริดกันหมดแล้ว แต่ความเป็นสันดาป นี่แหละที่ทำให้รถคันนี้ถูกใจลูกค้าหลายคน เปรียบเหมือนเพื่อเก่าที่คุ้นเคย ใช้งานง่าย ไม่ต้องคิดศึกษาอะไรให้ยากวุ่นวายใจ

การให้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และ มีตัวเลขกำลังสูงถึง 156 แรงม้า ต้องพูดว่า มันมีพลังขับมากที่สุด ในกลุ่ม Sub Compact Crossover แค่เหยียบคันเร่งลงไป รถก็มอบความเร้าใจ ตั้งแต่ออกตัวในทันที

เสียงเครื่อง Mazda CX-3 ให้ความเร้าใจ ด้วยการเป็นเครื่องกำลังอัดสูง 14.0 /1 ให้ความรู้สึกใกล้เคียงรถสปอร์ต แม้ว่าการตอบสนอง อาจจะไม่ทันท่วงที แบบ รถไฮบริดที่ได้พลังขับจากมอเตอร์มาเพิ่มพลังบิด แต่เทียบกับ รถยนต์สันดาป ก็ถือว่า ทันใจไม่น้อย

Mazda CX-3 Sport Luxe

การมี Paddle Shift ทำให้ รถ สามารถตอบสนองดีขึ้น อยากเร่งเร้าใจ หน่อย ก็กระดิกนิ้ว ได้ทันทีตามต้องการ จะเห็นผล ก้ยามขับทางโค้งต่อเนื่อง เราบริหารนิ้ว แล้วเกียร์ตอบทันใจ จะแช่เกียร์ ในระหว่าง ที่เราขับม้วนไปตามทาง หรือ ใช้ได้ดี เวลาลงเขา ทางชัน ไม่เสียเวลามาดึงคันเกียร์

หากเทียบกับ เครื่องไฮบริด ส่วนตัวผมรู้สึกว่า เครื่องสันดาป ดีตรงมันมอบพลังขับต่อเนื่อง ตลอดเวลา ไม่มีเหนือยอ่อย เวลาแบตต่ำ จนอาจคุรอาจรู้สึกได้ทันที ว่ารถตอบสนองไม่ดี เท่าเวลาไฟหมดแบตต่ำ ซุ้งเป็นอาการปกติ ของรถไฮบริดยุคนี้

ถ้าจะถามว่า แล้วมันมีดีอะไร นอกจากเครื่องยนต์ที่เร่งแรงแซงทันใจ

ผมกล้าพูดว่า ระบบกันสะเทือน ,​อันที่จริง ช่วงล่าง Mazda CX-3 ไม่ต่างจากซิตี้คาร์ อีกหลายคัน ที่เรารู้จักกันดี มันมาพร้อมช่วงล่าง แม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้า และ ด้านหลัง เป็นแบบ ทอร์ชั่นบีม ตามสไตล์รถคนเมือง

มาสด้า เซทช่วงล่าง รถรุ่นนี้ออกมาค่อนข้างติดแข็ง ยิ่งรุ่นนี้ ให้ล้อ 18 ยางแก้ม 50 ค่อนข้าง ติดแข็ง สปอร์ตพอสมควร จังหวะขับทางไกลออกเดินทาง จะรู้สึกว่า มันค่อนข้างจะกระเทือนสักหน่อย ยิ่งเป็นผู้ใหญ่นั่งโดยสารตอนหลัง อาจรู้สึกได้เลยว่า ค่อนข้างกระเทือนเอาเรื่อง ด้วยความเป้นมาสด้า บวกนต้องการให้รถมีความรู้สึกสปอร์ต

ดังนั้นใคร กะว่า ซื้อรุ่นนี ขับไปรับญาติผู้ใหญ่ไปเที่ยว อยากบอกว่า เพิ่มอีกนิด CX-30 นุ่มนวลกว่ามาก

ถึงความนุ่มจะเป็นรอง อาจฟังดุไม่ใช่ SUV ที่น่าคบ เพราะคนซื้อรถอเนกประสงค์ จะมีจริต อยากได้ความนุ่ในวลอยู่บ้าง แต่เอาเข้าจริง ความสปอรืตนี่แหละที่ทำให้ คุณจะหลงใหล CX-3 พอขับด้วยความเร็วเดินทาง แล้วจังหวะต้องโยกเปลี่ยนเลน ซ้าย-ขวา สัมผัสได้ทันที ถึงความคมกระชับของพวงมาลัย ตอบสนองว่องไว

เมื่อบวกกับช่วงล่างที่ติดสปอร์ตๆ สักหน่อย เจ้าอเนกประสงค์คันนี้ ก็ตอบสนองการขับขี่ไปตามใจได้ดั่งใจสั่ง โดยเฉพาะ การโยกเปลี่ยนเลนในความเร็วทำได้ดีมาก รถมีอาการโคลงตัวน้อยมาก รู้สึกได้ถึงความั่นใจชัดเจน

ด้วยความเป็นรถสันดาป ทำให้ มันไม่มีแบตเตอร์รี่เป็นน้ำหนักถ่วงท้าย ทำให้เข้าโค้งดีมาก รู้สึกได้ถึงแรงเหวี่ยงเป็นไปตามธรรมชาติ

ผมยังจำได้ตอนเปิดตัวใหม่ๆ มาสด้า พาไปขับที่ ดอยอินทนน์ ผมขับด้วยความเร็วลงดอย อย่างมั่นใจ เพราะรถควบคุม ง่าย แม้จะผ่านไปหลายปี ก็ยังประทับใจ ไม่ลืม

Mazda CX-3 ขับดีมั่นใจ สำคัญ มองหาอะไรจากมัน

หากมองแบบรวมๆ Mazda CX-3 อาจเป็นรถอเนกประสงค์ตัวเก๋า ที่อยู่ในตลาดมานาน จนเรียกว่า น่าจะเริ่มนานเกินไปแล้วด้วยซ้ำ

Mazda CX-3 Sport Luxe

หากจุดขายรถรุ่นนี้ไม่ใช่ขนาดตัวรถ หรือการโดยสาร มันคือ การขับขี่ ที่ทำให้คุณขับอย่างมั่นใจ ไปได้ทุกทางที่ต้องการ ไม่เน้นลุยสมบุกสมบันมาก เน้นผ่าน ทางลูกรัง น้ำท่วมขัง รอการระบาย นี่ก็พอไหวอยู่

เทียบกับคู่แข่ง มันอาจสู้ไม่ได้ ในเรื่องห้องโดยสารที่ติดแคบไปนิด โดยเฉพาะคนมองหารถที่ต้อวมีคนนั่งหลังบ่อยๆ อาจจะต้องมองผ่านไป กลับกันถ้าคุณใช้ชีวิตแบบคนโสด เจ้านี่ก็จัดว่าพอใช้งาน รุ่นเริ่มต้น ราคา 7 แสนบาท นิด ไม่ได้เลวร้ายอะไร กับความเป็นรถสันดาปเครื่อง 2.0

แต่นั่นแหละครับ ยุคนี้พูดคำว่ารถสันดาป กับราคาน้ำมันลิตละ เฉียด 40 บาท หลายคนตือไม่ตก ยิ่งอัตราประหยัดเดิมทาง 14 ก.ม./ลิตร โดยประมาณ รถไซส์เล็ก กินพอกับ PPV อาจะทำให้หลายคน อุทาน เอามือแนบอกเบาๆ

สำหรับผม สิ่งที่รถอเนกประสงค์ไฮบริด ไม่มีทางแทน คันนี้ได้เลย คือ ความสามาถาในการขับขี่ ซึ่งอย่างไรเสีย เจ้านี่ยังขับมันส์ สุดในคลาส

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่