ตามปกติแล้วรถแฮทช์แบ็คจะมีประตูเพียง 5 (คู่หน้า 2 หลัง 2 และประตูท้าย) แต่กับรถยนต์สัญชาติเกาหลีอย่าง Hyundai Veloster 2019 สามประตูซิ่งหรือเรียกว่ารถ 4 ประตูก็ไม่ผิด โดยประตูบานหลังจะอยู่ฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า อย่างไรก็ตามข้อดีของมันไม่ได้มีเพียงเรื่องดีไซน์แปลกไม่ซ้ำใครเท่านั้น หากแต่โมเดลใหม่นี้ได้รับการออกแบบให้โฉบเฉี่ยวจนเท่กว่าเดิม แต่มันจะสามารถต่อสู้กับคู่แข่งในตลาดรถแฮทช์แบ็คได้หรือไม่นั้นต้องรอชม

 

 

ในที่สุด Hyundai Veloster ก็ออกรุ่น 2 มาต่อจากตัวแรกเสียที หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทางผู้ผลิตไม่มั่นใจว่ารถโมเดลนี้จะสามารถทำต่อสู่กับคู่แข่งได้ โดยรุ่นใหม่มีรูปลักษณ์กับมิติใกล้เคียงกับรุ่นเก่า แต่ถ้าให้วัดมันก็ใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย อย่างไรก็ตามประเด็นที่ผู้ผลิตกลับมาให้ความสนใจก็คือพื้นที่เหนือศีรษะด้านหลัง เพราะในรุ่นก่อนหน้ามีลูกค้าหลายคนไม่ซื้อ Veloster เนื่องจากนั่งแล้วศีรษะชนเพดานหลังคา

จากคำบอกเล่าของทีมออกแบบ Veloster พวกเขาได้กล่าวไว้ว่ารถคันนี้จะเป็นแรลลี่คาร์ที่วิ่งในเมือง ซึ่งมีการย้ายเสาหลังคาคู่หน้ามาด้านหลังเล็กน้อยเพื่อให้กระโปรงหน้ามีความยาวและเห็นเส้นสายได้ชัดเจน นอกจากนี้บริเวณกันชนหน้าก็มีการเจาะช่องดักอากาศไว้เพิ่มแรงกดขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็ว

 

 

ประตูหลังที่มีเพียง 1 บานยังคงเป็นจุดเด่นที่รถคันนี้ยังมีอยู่เหมือนเดิม รวมถึงท่อไอเสียคู่ที่ออกตรงกลางคันอันได้รับแรงบันดาลใจมาจากท่อไอเสียของบิ๊กไบค์ ซึ่งทางทีมพัฒนาระบุว่าท่อคู่นี้ไม่ใช่แค่มีไว้ตกแต่งให้สวยงาม หากแต่สุ้มเสียงกับสมรรถนะที่ได้ยังมีความดุดันและใช้งานได้จริง

เพื่อทำให้ Veloster ขับได้สนุกหนึบแน่นกว่าเก่า ค่ายรถแดนกิมจิจึงปรับปรุงช่วงล่างด้านหลังใหม่ เปลี่ยนจากแบบทอร์ชั่นบาร์มาเป็นมัลติลิ้งเหมือนกับที่มีอยู่ใน Hyundai Elantra GT ขณะเดียวกันพวงมาลัยได้รับการปรับแต่งใหม่จนมีความไวแถมมีน้ำหนักเหมาะสม และมอบความสนุกสนานแก่ผู้ขับขี่ได้แบบถึงใจกว่าเก่า

 

 

ประเด็นของเครื่องยนต์ที่ใช้ไม่ได้ต่างอะไรกับรถรุ่นก่อนเลย คือเริ่มต้นด้วยเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร 147 แรงม้า แรงบิด 178 นิวตัน-เมตร แล้วจึงส่งต่อกำลังสู่ล้อด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือจะเลือกเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดก็ได้ตามใจชอบ ซึ่งทางผู้ผลิตแย้มว่าได้มีการปรับปรุงสมองเกียร์ใหม่ให้ตอบสนองได้ฉับไวและนุ่มนวลกว่าเดิม สำหรับเวอร์ชั่นแรงอย่าง Veloster Turbo ยังคบหากับเครื่องเบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 201 ตัว แรงบิด 264 นิวตัน-เมตร แต่มาไวกว่าจากเดิมที่ 1,750 รอบ/นาทีมาเป็น 1,500 รอบ/นาที

เครื่องยนต์อาจไม่เปลี่ยนอะไรมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นเก่า แต่ที่เราคิดว่ามันดีงามจริงๆ ก็คือการที่ Veloster 2019 เพิ่มระบบ “Active Sound Design” ที่สามารถเปลี่ยนเสียงของท่อไอเสียให้ต่างกันได้ถึง 3 โหมด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับว่าผู้ขับขี่เลือกโหมดขับแบบไหน แน่นอนว่าเสียงที่ออกมาจะเร้าใจไม่แพ้รถสปอร์ตเครื่องแรงระดับ 300 แรงม้าขึ้นไป

 

 

เรื่องสุดท้ายอย่างห้องโดยสารนั้น เจ้าสามประตูซิ่งมีการออกแบบภายในใหม่จนดูเรียบง่ายเหมือนกับรถร่วมค่าย เช่น Hyundai i30 บรรดาวัสดุต่างๆ มีสัมผัสนุ่มคุณภาพดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามพื้นที่นั่งด้านหลังยังคงคับแคบเหมือนเช่นเคย แต่ก็ยังดีกว่าโมเดลก่อนที่นั่งแล้วรู้สึกอึดอัดจนแทบขยับตัวไปมาไม่ได้เลย ทั้งนี้เรื่องความปลอดภัยก็จัดเต็มทั้งระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า ระบบควบความเร็วแบบแปรผัน ระบบแจ้งเตือนรถในมุมอับ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งข้าวของพวกนี้จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถทุกระดับ

 

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

 

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่