เวลาเติมน้ำมัน คุณเลือกเติมน้ำมันอะไร ผมเชื่อว่า เปิดประเด็นมาขนาดนี้หลายคนคงจะ มีความคิดต่างๆมากมาย หลายหลากในการเลือกเติมน้ำมันของคุณ

แต่ถ้าวันนี้คิดว่าน้ำมันไหนที่คุ้มค่าที่สุด ในบรรดาน้ำมันหลากหลายประเภทที่มีให้เลือกใช้ในปั้มน้ำมันบ้านเราเห็นทีจะเป็นน้ำมัน แก๊สโซฮอล   E20  ทั้งหาเติมง่าย มีประสิทธิภาพ และหลายคนมองข้ามมันไป ด้วยภาพลักษณ์ถูกประหยัด เงินทั้งที่มีอาจเปี่ยมคุณภาพไม่แพ้แก๊สโซฮอล 95 เลยด้วยซ้ำไป

E20 … คืออะไร

ตอนที่เริ่มใช้น้ำมันแสโซฮอลลในไทย เพื่อให้จดจำและเข้าใจง่ายได้มีการบัญญัติสัดส่วนการผสมเอทานอล (Ethanol)  ในเนื้อน้ำมันที่เติมเข้าสู่รถยนต์ที่เราใช้กัน

ตัว “E” แทนมาจากคำว่า เอทานอล ใช้ระบุสัดส่วนการผสม ซึ่งแก๊สโซฮอล 95 ปกติที่เราใช้กันทั่วไป จะมีสัดส่วนการผสมร้อยละ 10 หรืออาจกล่าวว่าจะเรียกให้ถูกต้อง สมควรพูดว่า   E10 แต่เนื่องจากตั้งแต่แรกเริ่มเราใช้กันมายาวนาน คนเข้าใจ “แก๊สโซฮอล” ที่ย่อมาจากคำว่า แก๊สโซลีนผสานคำว่าแอลกอฮอล จึงไม่มีการเปลี่ยนการบัญญัติดังกล่าวเป็นอัตราร้อยละ

แต่เมื่อน้ำมันมีการผสมเอทานอลร้อยละ 20 เราจึงเรียกให้แตกต่างและเข้าใจง่ายว่า  E20 อันหมายถึงน้ำมันเบนซิน (ออกเทน 87)ที่มีสัดส่วนของน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ ที่มีเอทานอล ผสมร้อยละ 20 ของเนื้อน้ำมัน และเป็นระดับที่รถยนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่ผลิตตั้งแต่ปี 2000 ขึ้นสามารถเติมและใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา และไม่ต้องปรับแต่งใดๆ เพิ่มเติมเพื่อรับกับความสามารถในการใช้พลังงานทางเลือก

ราคาถูกกว่า…

หลายคนมักเริ่มต้นการมองน้ำมันทางเลือกอื่นๆ เมื่อพบว่า ราคาถูกกว่า

ในปัจจุบัน (ณ วันที่เขียน) น้ำมันแก๊สโซฮอลล 95 มีราคาอยู่ที่ลิตรละ 31.45 บาท ขณะที่ น้ำมันแก๊สโซฮอล E20   มีราคาจำหน่ายถูกกว่า อยู่ที่ลิตรละ 28.44 บาท 

หรือหากจะพูดแล้ว น้ำมัน 
แก๊สโซฮอล อี20  ถูกกว่า แก๊สโซฮอลล 95 อยู่ถึง 3.01 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาขายปลีกที่ถูกกว่าในระดับหนึ่งจนน่าหันมาลองใช้กันทีเดียวเชียวล่ะ

ประสิทธิภาพมากกว่า  แก๊สโซฮอล์ 95 เรื่องจริงที่หลายคนอาจไม่รู้

หลายปีแล้วที่ผมหันมาเติมน้ำมันพลังงานทางเลือก ตั้งแต่ แก๊สโซฮอล 95 ออกมาวางจำหน่าย ทดลองท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนจำนวนมากที่คิดว่าท้ายที่สุด เอทานอลจะไม่ตอบโจทย์ จนมาถึงยุค E20   เข้ามาทำตลาดสมัยน้ำมันราคาแพงจนเลือดตาแทบกระเด็นทุกครั้งที่ใช้รถ

ตอนเริ่มเติม แก๊สโซฮอล อี20  ครั้งแรก จุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมตัดสินใจลองมาใช้พลังงานทางเลือกตัวนี้กับเขาบ้างก็มาจากความสนใจในตัวเนื้อน้ำมัน ซึ่งในเวลานั้น สถานีบริการน้ำมันบางจาก ใช้คำว่าออกเทนมาสร้างความสนใจ ด้วยการเผยค่าออกเทน   E20   ว่าสูงถึงออกเทน 98  กันเลยทีเดียว (ตามคำโฆษณาของผู้ผลิตบางเจ้า)

เคล็ดลับขับประหยัด

จุดเริ่มต้นจากความเป็นคนชอบลองก็เลยเริ่มจากการเติมน้ำมัน
แก๊สโซฮอล อี20   ตรงนั้น ลองใช้เพื่อทดสอบดูว่ารถจะมีปัญหาหรือไม่ ยิ่งใช้ยิ่งถูกตังค์นานวันก็ไม่เห็นมีปัญหา แถมหลายครั้งพบว่า เรื่องประหยัดก็ไม่ได้ย่อหย่อนกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 มากนัก ทั้งที่ขับด้วยความเร็วเท่ากันถนนเดียวกัน อาจต่างบ้างตามสภาพการจราจร

ถ้าศึกษาให้ลึกถึงแก่นแท้ น้ำมันเชื้อเพลิง ก็ต้องพูดถึงเรื่อง “ความหนาแน่นของพลังงาน”  พูดให้เข้าใจง่ายก็คืออัตราการให้ค่าความร้อน เมื่อจ่ายน้ำมันลงไปผสมกับอากาศและทำการจุดระเบิดให้พลังงานจลย์กับลูกสูบ

ถ้าเรามาลองเปรียบเทียบกันระหว่างแก๊สโซฮอล 95 กับ  E20   ที่ผสมด้วยน้ำมันเบนซิน 80 ส่วน ต่อเอทานอล 20 ส่วน จะพบว่า

น้ำมันแก๊สโซฮอล 95  ที่มีการผสมน้ำมันเบนซิน 95 90 ส่วน กับเอทานอล 10 ส่วน จะมีความหนาแน่นพลังงานเพียง 34.2*0.90 = 30.78 เมกะจูล (น้ำมันเบนซิน 1 ลิตร มีพลังงาน 34.2 เมกะจูล) เมื่อรวมกับเอทานอลที่มีค่าพลังงาน 24 เมกะจูลต่อลิตร ในสัดส่วน 10%  จะได้ค่าพลังงาน 24*0.10 =  2.4 เมกะจูล  เท่ากับมีความหนาแน่นพลังงาน 33.18 เมกะจูล

ขณะที่น้ำมันแก๊สโซฮอล  e20   เมื่อมาผ่าน สูตรเดียวกัน จะได้ 34.2*0.80 =  27.36  เมกะจูล รวมกับพลังงานจากเอทานอล 24*0.20 = 4.8 เมกะจูล  รวมแล้ว  E20  มีค่าความหนาแน่นพลังงานรวม 32.16 เมกะจูล หรือมีค่าพลังงานต่างกันเพียงร้อยละ 10.67 เท่านั้น แต่ถูกกว่ากันลิตรละเกือบ 3 บาท

คุ้มกว่าแค่ไหน

ถ้าเราเอาความหนาแน่นพลังงานที่ได้ มาหาค่าสัมพันธ์ระหว่าง พลังงานกับเงินที่ต้องจ่าย จะพบว่า สัดส่วนพลังงานที่ได้กับค่าใช้จ่ายพลังงานมีความแตกต่างกันชัดเจน

เราเอาความหนาแน่นพลังงานตั้ง แล้วหารออกมาเป็นสัดส่วนด้วยราคาที่ต้องเติมต่อลิตรพบว่า แก๊สโซฮอลล์ 95 มีสัดส่วนอยู่ที่ 1.05 เมกะจูล/บาท แต่ถ้าเติมแก๊สโซฮอล  E20   คุณจะได้ถึง 1.13 เมกะจูลต่อบาท

e8503

ถ้าเราเอามาคิดที่การเติมน้ำมันลงถังในรถยนต์ 200 บาท มันยิ่งน่าสนใจมากขึ้น 

ปัจจุบันเงิน 200 บาท เติมน้ำมันได้ 6.35 ลิตร ( ราคาน้ำมัน ลิตรละ 31.45 บาท) ถ้าเอามาคูณกับพลังงานที่ได้ต่อลิตร (33.18 เมกะจูล ต่อลิตร)  จะได้พลังงานจากน้ำมันทั้งหมด 210.69 เมกะจูล เท่านั้น

กลับกันแก๊สโซฮอล E20 เงิน 200 บาท สามารถเติมได้ถึง 7.03 ลิตร (ราคาลิตรละ 28.44 บาท) และให้พลังงานที่ได้จากน้ำมัน (32.16 เมกะจูลต่อลิตร) ทั้งหมด 226.08 เมกะจูล ซึ่งมากกว่าแก๊สโซฮอล 95 ในราคาเท่ากัน

ทดลองจริง ประหยัด-คุ้มกว่าหรือไม่

เช่นเดิม ผมไม่ปล่อยให้คุณๆ เชื่อในสิ่งที่ผมมาบอกเท่านั้น งานนี้มันต้องมีการทดลองสักหน่อย ปกติแล้วทุกวันจันทร์ เดือนจะวิ่งรถไปลพบุรี เพื่อทำงานที่นั่น แล้วกลับมาในเย็นหรือบ่ายวันศุกร์ ซึ่งระยะทางจะประมาณ 150 กิโลเมตร ถือว่าอยู่ในระยะที่ดีในการทดสอบ

ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าส้มขับเสน้ทางนี้เป็นประจำ มีการบันทึกสถิติเอาไว้ว่า ทำได้ดีที่สุด คือ 6.8 ลิตร/100 กิโลเมตร (14.7ก.ม./ลิตร)  โดยใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลของปตท. เป็นหลัก จากการขับด้วยความเร็วเดินทาง 110-130 ก.ม./ช.ม.

สัปดาห์นี้ เดือนทดลองเติม  แก๊สโซฮอล อี20  จากปั้มเชลล์ ซึ่งอาจจมีคุณสมบัติบางประการต่างออกบ้างแต่หัวใจหลัก คือการเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ที่มีเอทานอลร้อยละ 20  เหมือนกัน

เช่นเดิมเดือนขับด้วยความเร็ว 110-130  ก.ม./ช.ม. ท่ามกลางสภาพอากาศเช้าวันจันทร์ และบังคับว่าต้องถึงลพบุรีก่อนการทำงานเวลา 08.00 น.

ด้วยการวัดผลจากความประหยัดที่หน้าจอ ผลปรากฏว่าวันนี้น้ำมัน  E20   กลับประหยัดกว่าด้วยอัตราประหยัดกว่าด้วยตัวเลข 6.6 ลิตร/100 ก.ม. ( 15.15 ก.ม./ลิตร)

ถ้าเรานำมาเปรียบเทียบกันจะพบว่า แก๊สโซฮอล 95 ที่ประหยัด 14.7 ก.ม./ลิตร กลับประหยัดน้อยกว่า E20 ที่มีอัตราประหยัดสูงถึง 15.15 ก.ม./ลิตร หรือ มันประหยัดกว่า 0.45 ก.ม/ลิตร  จะว่าไปในความเป็นจริงอาจไม่ได้มากมายนัก แต่ถ้าเทียบว่าคุณประหยัดกว่าได้ 3 บาท จากน้ำมันที่มีคุณสมบัติไม่ต่างกันมาก ก็ถือว่าน่าสนใจ

อย่างไรก็ดี การทดลองง่ายๆ ครั้งนี้ เป็นการวัดค่าเมื่อวิ่งใช้งานนอกเมือง ด้วยผู้ขับขี่เพียงคนเดียว ซึ่งในคราวที่แล้วที่เคยเขียนบทความเกี่ยวกับการเลือกเติมน้ำมันให้ถูก (อ่านได้ที่นี่) จะเห็นได้ว่า เราแนะนำให้เติมแก๊สโซฮอล 95 แต่จะเห็นได้ว่าเมื่อลักษณะการใช้งานเปลี่ยนไป เช่น ปัจจัยและผู้โดยสารน้อยลง (คราวที่แล้วนั่ง 4 พร้อมสัมภาระ) คุณก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องใช้พลังงานทางเลือกแบบเดิมที่มีราคาแพงกว่า

คุณสามารถเลือกเติมแก๊สโซฮอลอี20   เพื่อเซฟงบประมาณ และใช้แก๊สโซฮอล 95 ยามที่จำเป็นต้องใช้ เช่นขนคนเต็มคันพร้อมสัมภาระ หรือต้องเดินทางขึ้นเขาสมบุกสมบัน ก็ได้

การเลือกเติมน้ำมันที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับการใช้งานเป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน สำหรับคนที่มองหาเดินทางที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าเงินที่จ่าย การประเมินความจำเป็นในการเติมน้ำมันเป็นเรื่องจำเป็นมาก เพื่อใช้น้ำมันให้ถูกต้องตามที่ควรจะเป็นมากที่สุด

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่