กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์เตรียมออกเดินทางใต้ร่าง   Toyota Yaris Ativ   ยังคงใช้เครื่องยนต์ดั้งเดิมจาก  Toyota Yaris  ตัวก่อนปรับโฉม ขุมพลัง 3NR-FE 

บล็อกเครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียงขนาด 1.2 ลิตร ตัวนี้ให้กำลัง 86 แรงม้า  สูงสุดที่ 6,000 รอบต่อนาที ทำแรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตรที่  4,000 รอบต่อนาที  เช่นเคยส่งลงระบบเกียร์  Super CVT I  พร้อม shift  Lock ให้อัตราทดระหว่าง  2.386-0.426 ปั่นลงเฟืองท้ายอัตราทด 5.833

Review-Toyota-Yaris-ATIV

ถ้าดูรายละเอียดทางเทคนิคเผินๆ เชื่อว่า เราก็คงคิดว่า มันก็แค่อีกเครื่องยนต์ประหยัดสำหรับรถอีโค่คาร์ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เน้นขับประหยัดแรงได้บ้างพอหอมปากหอมคอ แต่เมื่อมาดูลงลึกจริงๆ เครื่องยนต์ 3  NR  ก็ไม่ธรรมดา มันตอบสนองการขับขี่ด้วยกำลังอัดเครื่องยนต์สูงถึง 11.5:1  แถมช่วงชักและกระบอกสูบยังมีมิติแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส  หรือทางวิศวกรรมเรียกว่า ห้องเผาไหม้แบบสมมาตร ด้วยระยะชักและความกว้างกระบอกสูบยาว 72.5 มม. เท่ากัน 

เทียบกับรถอีโค่คาร์เครื่องยนต์สี่สูบที่ทำตลาดในปัจจุบัน เครื่องยนต์ของ   Toyota Yaris Ativ   เป็นต้นกำลังที่มีกำลังอัดรองเป็นอันดับที่ 2 จาก   Mazda 2 (Mazda 2 เครื่อง 1.3 ลิตร ทำกำลัง 12.0:1) และมีลูกสูบโตเป็นอันดับที่ 3 รองจาก   Suzuki  และ  Honda  ส่วนช่วงชักรั้งอันดับ 3 รองจาก   Mazda  และ   Suzuki  

พูดแบบนี้ใครที่มองรถอยากเอามาขับให้มันเร้าใจคงกระเหี้ยนกระหือรือ เฮ้ย!! ของดีมีอยู่ข้างใน แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย แถม  Toyota  เหมือนเป็นบริษัทเดียวที่ไม่จับเอาอัตราประหยัดมาจูงจมูกคนซื้อให้หันมาสนใจ เราหลายคนเลยมองว่ามันไม่น่ามีอะไรเด็ดๆ ในรถคันนี้

การขับขี่และทดสอบสมรรถนะ

ฝนตก สถานการณ์ที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ในช่วงนี้ทำเอาผมต้องไปรับ   Toyota Yaris ATiv  ในช่วงบ่ายของวัน แล้วก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะผจญภัยมหาโหดฝ่ารถติดเมืองกรุงในช่วงเย็น

ด้วยความยาวเรือนร่าง 4,425 มม. กว้าง 1,730 มม. และ สูง 1,425 มม. ตอบโจทย์ใช้งานด้วยระยะฐานล้อ ระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลัง 2,550 มม. ขนาดของ   Toyota Yaris  ATiv  เท่าๆ กับ   Toyota  Vios   ช่วยให้รถมีความคล่องตัวสูงมากในยามขับขี่ในเมือง

ผมชอบการตอบโจทย์บังคับเลี้ยว ด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า เซทออกมาไม่มีระยะฟรีน้ำหนักกำลังพอดีมือไม่หนักหรือตึงมือเกินไป บังคับทิศทางได้อย่างแม่นยำ เวลาจะต้องมุดแทนกท่ามกลางจราจร ทว่าด้วยการตอบสนองของเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ที่ไม่ได้ออกตัวหวือหวาในช่วงต้น อาจทำให้บางครั้งมีเสียจังหวะไปบ้างในบางอารมณ์ และเมื่อคุณเหยียบคันเร่งลงไปหวังจะออกตัวอย่างรวดเร็ว ผมพบว่าจะมีการหน่วงจากชุดคันเร่งจังหวะหนึ่ง มันไม่ออกตัวทันที เหมือนรถรุ่นอื่น มันเป็นรายละเอียดเล็กน้อย หากก็สำคัญในมุมมองผู้ใช้

รถติดแบบนี้จะทดสอบอะไรก็คงไม่ได้มาก นอกจากความประหยัด และฟังชั่นการใช้งานตัวรถ ถนนสุขุมวิท ที่วันนี้กลายรเป็นที่จอดรถชั่วคราวคนกรุง ทำให้ผมต้องเอื้อมมือไปเปิดระบบความบันเทิงฟังอะไรแก้ขัดระหว่างการเดินทาง

ไหนๆ จะติดนานขนาดนี้ ผมเข้าเกียร์ P เพื่อให้ระบบอนุญาตใช้งานฟังชั่นต่างๆ  ซึ่งไม่อนุญาตให้ใช้งานในระหว่างการขับขี่  มันเป็นฟังชั่นความปลอดภัยที่ดี ผมชอบนะ

ระบบความบันเทิงชุดจอ  DVD 7   นิ้วของ   Toyota Yaris  Ativ  ถือว่าใช้งานค่อนข้างง่ายมากๆ ผมเข้าใจเบื้องต้นว่า ระบบความบันเทิงใหม่ล่าสุดของ   Toyota  เป็นระบบใหม่ประเภท  Android Base   เนื่องจากหน้าตาฟังชั่นใช้งานการเลือกองค์ประกอบ และส่วนติดต่อผู้ใช้คล้ายกับ   Tablet Android  ไม่มีผิดเพี้ยน

การค้นหาฟังชั่นค่อนข้างง่ายพอสมควร ผมเห็นเหมือนจะมีแอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า  I Auto Store  คาดว่าน่าจะเป็นโปรแกรมสำหรับดาวโหลดแอพฯ อื่นๆ มาใช้ได้ในอนาคต 

หลังเชื่อมต่อเสร็จ ผมเปิดเพลงที่ชอบ ส่วนใหญ่ในชีวิตจริง ผมชอบฟังพวกเพลงร๊อคหรือฮิปฮอปตามภาษาคนโตกับยุคพี่ตูน บอดี้แสลม ซิลลี่ฟูล หรือ บิ๊กแอส …

Toyota Yaris Ativ   สร้างความประหลาดใจอย่างมาก .. ลำโพงในห้องโดยสาร 6 จุด สร้างความกระหึ่มได้ถึงขนาด ผมสบถออกปากว่า เฮ้ย!!! พลันก็ไม่เชื่อโสตประสาทตัวเองที่กำลังได้ยินเสียงเพลงจากลำโพงในรถยนต์อีโค่คาร์ที่มีดีกรีเทียบชั้นเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม มันไม่ใช่ระบบเครื่องเสียงก๊องแก๊ง!! มีเสียงกลาง เสียงแหลม ขาดเสียงเบส แบบที่ผมชอบวิจารณ์บรรดารถอีโค่คาร์ 

ระบบเครื่องเสียง Toyota Yaris Ativ

ผมลองเร่งเสียงฟังเพลง “เล่นของสูง” อันคุ้นเคยสมัยเป็นวัยรุ่นยุคเฮฟวี่ เครื่องเสียงของ   Toyota Yaris  Ativ   เก็บรายละเอียดเสียงได้ดีในระดับหนึ่งจนน่าพอใจ เสียงกีตาร์เบส เสียงกลองชุด เรียกว่ามาแบบจัดเต็ม!! ไม่มีขาดสุนทรียภาพทางด้านการฟัง จะมีเพียงเสียพวกเบสบวม ๆ จากเพลงฮิปฮอปที่อาจจะยังทำได้ไม่เข้าขั้น  เนื่องจากมันไม่ได้มีซับวูฟเฟอร์

ไฟเขียว ณ แยก อโศกผมออกเดินทางต่อพร้อมการฟังเพลงใน   Toyota Yaris  Ativ  ไปเรื่อย ขับไปท่ามกลางเมืองกรุง จนมาถึงปั้มประจำสำหรับการทดสอบอัตราประหยัดยามค่ำคืน ความเพลิดเพลินในการใช้งาน ขับไปๆ มาๆ ล่อเสีย 97.6 ก.ม. ยังสงสัยว่า เราขับรถไกลกันขนาดนี้ ผมจัดแจงแจ้งเด็กปั้มเต็มถังเลยน้อง  ผมเติมน้ำมันไปทั้งสิ้น 7.093 ลิตร เสียค่าใช้จ่ายไป 195 บาท หารเป็นตัวเลขอัตราประหยัดออกมาได้ 13.7 ก.ม./ลิตร หรือถ้าคิดค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร ก็ตกประมาณกิโลละ 1.99 บาท

อ่านหน้าต่อไป >>>

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่