เราอยากให้ทุกท่านได้รับประสบการณ์ที่ได้ไปสัมผัสกับ Daihatsu Tanto รถ K-Car คันเล็กที่มีขายเฉพาะญี่ปุ่น เพื่อเข้าใจว่าเหตุใดคนที่นั่นถึงตั้งตารอการมาถึงของมัน

K-Car รถเล็กสุดน่ารักที่มีขายเฉพาะญี่ปุ่น ดินแดนที่ทุกสรรพสิ่งต้องย่อขนาดลงเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของชาวแดนปลาดิบ โดยเฉพาะ Daihatsu Tanto เจนฯ ล่าสุด ซึ่งถูกสร้างบนโครงสร้างพื้นฐาน DNGA ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจาก Toyota แพล็ตฟอร์ม TNGA

จุดเด่นแรกคือความน่ารักน่าชังที่ผู้หญิงเห็นแล้วต้องอยากได้ ด้วยขนาดตัวถังยาว ยาว 3,395 มิลลิเมตร กว้าง 1,475 มิลลิเมตร สูง 1,755 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,460 มิลลิเมตร ทำให้ผู้ขับขี่ Tanto สามารถขับไปตามสถานที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังช่วยเจ้าของรถหาที่จอดรถส่วนตัวได้แบบไม่ต้องทำร้ายกระเป๋า เพราะที่ญี่ปุ่นการมีรถซักคนต้องให้ทางรัฐเข้ามาตรวจว่าที่ช่องจอดจริงหรือไม่ และด้วยไซส์กะทัดรัดการหาช่องจอดประจำจึงไม่ใช่เรื่องโหดร้ายเท่ากับรถคันอื่นๆ

Tanto ที่จำหน่าย ณ ดินแดนอาทิตย์อุทัย มีให้เลือกด้วยกันทั้งสิ้น 2 รูปแบบตัวถัง โดยแบบแรกใช้ชื่อว่า Tanto ปกติไม่มีนามอะไรต่อท้าย ออกแบบมาในสไตล์น่ารักน่าชังเอาใจลูกค้าคุณผู้หญิงทุกช่วงวัย แน่นอนว่าหน้าตาเปลือกนอกของรถเน้นความโค้งมน ไฟหน้าทรงเหลี่ยมขอบมน ล้อลวดลายธรรมดาไม่หวือหวาแสดงถึงความเรียบง่าย

ส่วนอีกรุ่นก็คือ Tanto Custom ซึ่งอาจพูดได้ว่าออกไปทางพรีเมียมสปอร์ตเอาใจลูกค้าคุณผู้ชาย สังเกตุจากไฟหน้าแอลอีดีทรงโฉบเฉี่ยว สอดรับกันดีกับกระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ ล้ออัลลอย รวมถึงทริมตกแต่งต่างๆ รอบคันที่ช่วยเสริมลุคให้ดูมีระดับ

เรื่องสีสันก็เป็นเรื่องที่ลูกค้าชาวญี่ปุ่นใส่ใจ เจ้าธารโต (Tanto) จึงมีสีให้เลือกถึง 9 สี มีสีทูโทน 3 แบบ โดยสีหลายๆ เฉดออกไปทางแนวสีพาสเทล เขียวอ่อน เหลืองอ่อน เอาใจกลุ่มเป้าหมายเต็มที่ ส่วนสีโทนเกรย์สเกลเข้มๆ ดำ ขาว แดง เน้นอารมณ์หรูสปอร์ตมีให้เลือกเช่นกัน

ด้วยความที่ผู้ออกแบบต้องการให้ Tanto มอบความสะดวกสบายสูงสุด เจ้านี่จึงเป็นรถที่มาพร้อมประตูสไลด์แบบ Miracle Open Door ที่เสาประตู B-pillar ทั้ง 2 ฝั่ง เป็นส่วนหนึ่งของประตูบานหน้าและประตูสไลด์บานหลัง การเข้าออกจึงทำได้อย่างง่ายดาย และเดินผ่านได้จริง โดยไม่มีเสาประตูมาขวาง ส่วนประตูสไลด์สามารถเลื่อนเปิดได้ 1,490 มิลลิเมตร จากการทดสอบลุกเข้าออกต้องบอกว่า เป็นไปตามที่ผู้ผลิตบอกไว้จริงๆ

เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสารความประทับใจต่อมาก็เริ่มปรากฏ ด้วยความที่ผู้เขียนเป็นผู้ชายส่วนสูง 170 เซนติเมตรตามมาตรฐานชายไทย ตอนนั่งตำแหน่งเบาะนั่งคนขับเมื่อปรับเบาะเข้าที่เลื่อนหน้าหลังได้ถึง 540 มิลลิเมตร กับระดับพวงมาลัยสิ้นเสร็จ ที่ว่างเหนือศีรษะมีเหลือชนิดที่ว่าสามารถชูมือขึ้นเหยียดจนถึงเพดานหลังคาได้สบายๆ จังหวะที่ลองทำท่าทางดังกล่าวคนของทางไดฮัทซุที่ญี่ปุ่นก็หัวเราะกับสิ่งที่ผู้เขียนทำในรถ

ด้วยหลังคาที่สูงโปร่งกอปรกับกระจกหน้า ข้าง และหลังบานโต ทำให้ทัศนวิสัยการขับขี่มองเห็นได้ชัดเจนเหนือกว่ารถชนิดอื่นๆ ที่เราเคยขับมา ขณะเดียวกัน ก็ยังเสริมอารมณ์โปร่งโล่งสบายยามเดินทางไกลได้อีกต่างหาก ครั้นกระโดดไปนั่งเบาะหลังที่สามารถปรับเลื่อนหน้าหลังได้มาก พี่ทีมงานที่มีส่วนสูงเกิน 180 เซนติเมตร ตอนนั่งไม่มีการบ่นว่าขาชนเบาะหน้า กลับกลายเป็นว่านั่งสบายเหลือเฟือผิดกับขนาดของรถที่สุดแสนจะเล็กจิ๋ว

ในประเด็นขุมพลังนั้นมีให้เลือก 2 บล็อก เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 660 ซีซี ต่างกันที่มีกับไม่มีเทอร์โบ โดยเราจะพูดเฉพาะตัวเทอร์โบที่ให้กำลังสูงสุด 64 แรงม้า (PS) ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันได้เกิน 23 กิโลเมตรต่อลิตรชัวร์ๆ

ความปลอดภัยบน Tanto ตอนเราดูสเป็คก็พบว่ามันจัดเต็มไม่แพ้เอสยูวี หรือซีดานกลางรุ่นใหม่ๆ ที่จำหน่ายในตลาดปัจจุบัน โดยระบบความปลอดภัยขั้นสูง อาทิ Smart Assist III ที่คอยลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อมีความเสี่ยงที่จะชนด้านหน้า ระบบแจ้งเตือนรถยนต์ออกนอกช่องจราจร พร้อมดึงพวงมาลัยกลับ รวมถึงระบบถอยจอดกึ่งอัตโนมัติทั้งเข้าซองและจอดขนาน ที่ระบบควบคุมพวงมาลัยเอง ผู้ขับขี่ทำแค่ควบคุมคันเร่ง, เบรก และพวงมาลัยในยามที่จำเป็น

เหล่านี้ที่กล่าวมาทั้งหมดมาในราคาระหว่าง 1,220,400 – 2,070,000 เยน (ราว 345,000 – 585,000 บาท) ซึ่งหลังจากที่เราได้ลองสัมผัสรถคันจริงตัวเป็นๆ ได้ลุกนั่งเข้าๆ ออกๆ จับนู่นลองนี่กันเป็นเวลาพอสมควร คำถามในใจถึงเกิดขึ้นทันทีว่า Daihatsu Tanto หรือรถ K-Car ที่มีขายในญี่ปุ่น เขาเข้าใจสิ่งที่คนยุคใหม่อยากได้จากการครอบครองรถยนต์หนึ่งคันแบบครบถ้วน

เพราะการเดินทางในเมืองใหญ่หรือจะไปที่ไหนก็ตาม บางคนต้องการแค่รถที่รูปลักษณ์ถูกใจ ภายในกว้างขวางขับแล้วสบาย กำลังเครื่องพอเพียงสำหรับการเร่งแซงรถที่ขับช้าเบื้องหน้า และที่สำคัญคือความประหยัดน้ำมันกับค่าใช้จ่ายในการครอบครองต้องสบายกระเป๋า เราจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Tanto กับบรรดา K-Car จากยี่ห้ออื่นถึงขายดีโดนใจชาวญี่ปุ่นมาจวบจนถึงทุกวันนี้

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่