ตั้งแต่รถยนต์อีโค่คาร์เข้ามาวางขายในไทย เราต่างเห้นกระแสความนิยมรถยนต์นั่งขนาดเล็กมากขึ้น รถเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ตอบการขับขี่โดนใจทั้งประหยัด และเป้นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก้าวเข้ามาอยู่ในใจใครหลายคน และวันนี้เราจะมาพูดถึงเจ้าตัวเล็กกลุ่ม 5 ประตู ที่มีหลายรุ่นในปัจจุบัน ว่ามีดีเด่น อะไรกันบ้าง

Nissan  March

ผู้กล้ารายแรกในรถยนต์อีโค่คาร์ ไม่มีใครเกินเขาไปกว่า   Nissan   ที่ตัดสินใจทันควันจับเอารถยนต์   Nissan March  มาวางขายในไทย เป็นผู้เล่นรายแรกที่ขายมาตั้งแต่ปี 2010 เลย

นิสสันตั้งใจมาลง้ล่นตลาดกลุ่มนี้จากของดีในบ้าน   Nissan  March   เป็นรถที่ทำตลาดมายาวนานในต่างประเทศ เป็นรถที่มีชื่อเสียงในยุโรป ทันที่มาวางขาย รถรุ่นนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก จนยอดขายของอีโค่คาร์ทะลุเพดานกันไป สร้างรอยยิ่มและดบนัสก้อนโตให้กับพนักงานนิสสันในปีนั้น

MARCH

แต่เมื่อมาพูดถึงตัวรถ   Nissan  March  เป็นรถที่มุ่งเน้นความน่ารักในการออกแบบ โดยเฉพาะการออกแบบภายนอกที่ดูน่ารักคิกขุ ราวกับสาวญี่ปุ่นแรกรุ่น ครบครันฟังชั่นใช้งานตอบโจทย์ด้วยความทันสมัย ดูสปอร์ตนิดๆ ไม่เกินงาม เครื่องยนต์ก็มีขนาดเล็กกว่า เป็นเครื่อง 1.2 ลิตร 3 สูบ กำลังวังชา เพียง 78   PS   เท่านั้น

แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องช่างล่าง นิสสันมาร์ช ขับสบายมากมาย และเป็นอีโค่คาร์ที่นังมีรุ่นเกียร์ธรรมดาให้เลือกด้วย แต่รุ่นนี้นับถึงตอนนี้ก็ทำตลาดมาจะ 8 ปีได้แล้ว คาดว่าจะมีรุ่นใหม่เข้ามาในเร็วๆนี้แน่ๆ

Mitsubishi Mirage

ไม่ต้องพูดมาก สำหรับ   Mitsubishi  Mirage   เพราะนี่คือรถดั่งฝาแฝดของ   Nissan March   ที่เปลี่ยนหน้าตาให้มันทันสมัยดูดีแตกต่าง และสปอร์ตขึ้น

ในตอนที่มีการพัมนารถรุ่นนี้   Mitsubishi – Nissan  มีความร่วมมือกันอย่างลับๆ  แต่เมื่อออกมา   Mitsubishi  Mirage   กลับเป็นรถที่ดูน่าสนใจด้วยการออกแบบที่มีความเป็นสปอร์ต ไม่ใช่เพียงแค่หน้าตาและการออกแบบ แต่ยังรวมถึงการโดยสารภายใน และการขับขี่

Mitsubishi Mirage001

โดยจุดเด่นที่สำคัญ คือการให้สมรรถนะในการขับขี่เต็มที่ ไม่ว่าจะระบบเครื่องยนต์ ที่แม้จะเท่ากับ   Nissan  March  แต่ก้มีระบบวาล์วแปรผัน   Mivec  ตอบโจทย์ในการขับขี่  รวมถึงชุดเกียร์ที่ตอบสนองดี เร่งแรง รถดูเบาคล่องตัว และขับสนุกค่อนข้างมาก รวมถึงยังมีความประหยัดด้วย

ข้อเสียเดียวที่เราดูจะเห็นใน มิตซูบิชิมิราจ คือมันให้ล้อและยางขนาดเล็ก ตอบโจทย์ลูกค้า ทำให้บางครั้งขับเร็วๆ อาจะรู้สึกว่าเหมือนรถจะบินได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิน 120 ก.ม./ช.ม. ขึ้นไป

Honda  Brio

Honda  Brio   เป็นรถที่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จในช่วงแรก เนื่องจากการให้ระจกบานหลังขนาดใหญ่เป็นฝาท้ายในตัว และไม่มีที่ปัดน้ำฝนหลัง แต่ในระยะหลังเราจะเห็นรถรุ่นนี้มากขึ้นตามลำดับ

ด้วยเหตุผลสำคัญข้อหนึ่ง คือมันเป็นอีโค่คาร์ที่มีเครื่องกำลังแรงพอสมควร ขุมพลัง 4 สูบ 1.2 ลิตร ในเจ้าบริโอ้นั้นดีเด่น กว่าเรือนร่างของมันเอง ซึ่งดูอออกแบบยังไม่โดนใจสาวก

แต่เครื่องยนต์บล็อก  L12A   มาแบบจัดเต็ม 90 แรงม้า เหลือเฟือง สำหรับรถเล็กคันนี้ รวมถึงช่วงล่างก็จัดมาให้ขับมั่นใจพอสมควร ให้ความรู้สึกขับสนุก แต่ไม่กระด้างมาก  ทำให้ปัจจุบันบริโอ้ กลายเป็นรถที่ถูกนำไปแต่งมากที่สุดรุ่นหนึ่ง  จนสร้างยอดขายให้กับฮอนด้า

ข้อเสีย ใน   Honda  Brio   มี 2 ข้อ คือ 1. กระจกบานหลังใหญ่ หลายคนมักติว่ามันดูไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะถ้าโดนรถชนท้าย กับ 2. รถรุ่นนี้มาเดิมๆ จากโรงงานจะทำความเร็วได้เพียง 145 ก.ม./ชม. ซึ่งทางฮอนด้าบอกว่าเพื่อความปลอดภัย

Toyota  Yaris

รถยนต์   Toyota Yaris   น่าจะเรียกว่า แทบจะมาเป็นรุ่นสุดท้ายในกลุ่มน้องเล็ก เนื่องจากท่าทีของบริษัท ที่ไม่ค่อยมั่นใจว่าท้ายที่สุดตลาดจะอยู่อีกยาวนานไหม ทว่าจนแล้วจนรอกก็ต้องทำออกมาขายกัน

2018-Toyota-Yaris-010

โตโยต้า ยาริส เดิมทีเป็นรถลุ่ม 1.5 ลิตร และการกลับมาเกิดใหม่ในกลุ่มอีโค่คาร์ ทำให้ โตโยต้าต้องสร้างรุ่นเฉพาะสำหรับตลาดในแถวจีน และอาเซียน ขึ้นมา

ในรุ่นที่วางจำหน่ายในไทยปัจจุบัน มีการปรับโฉม ( Minor changed)   มาแล้ว 1 รอบ เมื่อปีที่แล้ว เพื่อให้หน้าตาทันสมัยสู้คู่แข่งเขาได้  โดยเฉพาะการใส่ความสปอร์ตตัวรถเข้ามาเต็มๆ  ไม่กั้ก ด้วยช่วงล่างขับสนุกมั่นใจ เข้าโค้ง สลาลอม ได้ไม่มีปัญหา ส่วนภายในครบเครื่องฟังชั่นเท่าที่ต้องใช้งาน การโดยสารมีพื้นที่นั่งสบายๆ ไม่เบียดเสียดยัดเยียดจนเกินไปนัก

แถมเมื่อขับใช้งานบนถนนจริงๆ เราจะพบว่า เจ้า   Toyota  Yaris   สามารถทำความเร็วได้สูงสุดในบรรดาอีโค่คาร์ทุกรุ่น ความเร็ว 180 ก.ม./ช.ม. สามารถเป็นไปได้ ถ้ามีพืเนที่โล่งพอ นอกจากนี้ ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ ทำให้ตอบสนองดี และยังมีความประหยัดน้ำมัน ด้วย

ข้อเสียเดียว คือคันเร่ง ยาริส จะหน่วงเวลาการตอบสนอง ถ้าคุณเร่งมันเต็มๆ รวมถึง พวงมาลัยที่ยังไม่คมเท่าไร และที่สำคัญไม่มีรุ่นเกียร์ธรรมดา ให้เลือก

Mazda 2

มาสด้าก้าวเข้ามาตลาดอีโค่คาร์ ด้วยการแนะนำรถยนต์   Mazda 2   ใหม่ เข้าทำตบลาดสู้สึก ด้วยหน้าตาสไตล์ปัจเจกความเป็นมาสด้า และการออกแบบที่เน้นหนักในความทันสมัย

มาสด้าเป็นรถที่ออกแบบดูดี ดีไซน์มาเด่น แต่ยังใช้งานได้ไม่ดีในบางมุม โดยเฉพาะที่นั่งโดยสารตอนหลังซึ่งค่อนข้างแคบกว่าชาวบ้าน  เป็นสิง่ที่ทำให้หลายคนมาขบคิดไม่น้อย กลับกันถ้ามองอย่างเป็นกลางว่า นานทีคุณจะมีเพื่อนขอติดรถไปด้วยในเมือง เน้นใช้ 2 คนมากกว่า ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

Mazda2 (1)

ข้อดีของมาสด้า ที่นังไม่มีใครสามารถลบได้ แม้แต่ในตลาดวันนี้ คือมันเป็นอีโค่คาร์รุ่นเดียวที่มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร แถมระบบเกียร์ไม่ได้เป็นระบบเกียร์   CVT   เหมือนชาวบ้านชาวช่อง แต่เป็นเกียร์ออโต้ 6 สปีด ทำให้ความสนุกสนานในการขับขี่มากกว่า

ยิ่งรุ่นดีเซล นี่ขับได้ทั้งแรงทั้งประหยัด เป็นรถที่ตอบโจทย์มาก นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยและช่วยในการขับขี่มาให้อย่างครบครันในรุ่นท๊อปออพชั่น และมีระบบเครื่องเสียงเชื่อมต่อใช้งานง่ายผ่านปุ่มตรงกลาง จนบางครั้งดูเหมือนรถยุโรปมากกว่ารถญีปุ่นด้วยซ้ำไป

Nissan Note

เมื่อปีกลาย  Nissan   เปิดตลาดรถยนต์   Nissan  Note  มาตอบโจทย์ลูกค้าด้วยเป้าหมายสำคัญในการส่งอีโค่คาร์เฟสแรกรุ่นสุดท้ายออกขาย และต้องการทำรถที่ตอบโจทย์ สำหรับคนที่มองหารถที่เน้นการเดินทางไกล

ภารกิจนี้จึงตกเป็นของ   Nissan Note   รถยนต์   Mini  MPV   จากญี่ปุ้นที่ยกเครื่อง 1.6 ลิตร ที่บ้านเกิดออก แล้วกอดตั๋วเด็กใช้เครื่องยนต์   Nissan  March  เข้ามาวางขายในบ้านเรา พร้อมด้วย เกียร์   X Tronic  CVT   รุ่นใหม่ แบบ   D Step จะตัดเกียร์ขึ้นตำแหน่งถัดไปอัตโนมัติ เรื่องประหยัดก็ทได้ 20 ก.ม./ลิตร

testdrive-Nissan-Note-VL006

จุดขายหลักของ   Nissan  Note   อยู่ที่การจับร่างซับคอมแพ็คขนาดใหญ่ มาให้เลือก ซึ่งรถที่มีขนาดใหญ่กว่าให้ความมั่นใจในการขับขี่ และยังมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าด้วย แถมประตูหลังเปิดกว้างถึง 85 องศา  เสียก็ตรงเบาะหลังพับแล้วยังมีต่างระดับไม่แบนราบก็เท่านั้น

ทีเด็ดอีกเรื่องที่ดูจะไม่พูดถึงไม่ได้คือ ระบบความปลอดภัยพวก   Active Safety  มีมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะระบบหล้องมองรอบทิศทาง ,ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และเตือนการชนทางด้านหน้า ,และมีอีกหลายรายการที่จะช่วยในการขับขี่

แต่ข้อเสียเดียวที่ดูจะทำให้คนไทยยังไม่ถูกใจ   Nissan Note   คือมันออกตัวอืดมาก อาจจะอืดที่สุดในบรรดาอีโค่คาร์ 5 ประตู ก็ไม่น่าแปลกใจด้วยตัวรถขนาดใหญ่กว่าชาวบ้านเขา

Suzuki  Swift

มาถึงคันสุดท้าย และเพิ่งจะเปลี่ยนร่างล่าสุดกับเจ้า Suzuki Swift   โฉมใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในปีนี้

Suzuki  Swift   เป็นรถที่หลายคนจับตามองอย่างมาก เนื่องจากเป็นรถอีโค่คาร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในรุ่นที่ผ่านมา ทำให้รุ่นใหม่เป็นที่สนใจ ของคนที่กำลังคิดจะซื้อรถยนต์อีโค่คาร์ไม่น้อย

เทียบรุ่นให่ม่ กับรุ่นเดิม   Suzuki  Swift   เปลี่ยนไปในแนวทางการออกแบบที่ดูรู้สึกมีความสดใสมากขึ้น รถดูสปอร์ตน้อยลง กลายเป็นรถเด่นความทันสมัยในการออกแบบ อันที่จริงเหมือนรุ่นนี้ อยากจะเจาะเป้ากลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้หญิงมากขึ้นตามไปด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นใหม่ทางซูซูกิจัดการ ปรับขนาดตัวรถสั้นลงจากรุ่นเดิมเล็กน้อย แต่ยังคงครบเครื่องฟังชั่นน่าใช้งานต่างๆ มากมาย เช่นไมล์เรืองแสง เบาะนั่งปรับพับได้ 60/40 และเครื่องเสียงจอสัมผัส

แต่ที่เด็ดกว่าเรื่องการใช้งานทั่วๆ ไป เห็นที่จะเป็นสมรรนถะการขับขี่ ซึ่งได้โครงสร้างใหม่   Suzuki Heartect  ตอบโจทย์ลูกค้า เทียบกับรุ่นเดิมรถรุ่นใหม่เบาขึ้นประมาณ 80 กก. ทำให้ ตอบสนองดีขึ้น แม้ว่า   Suzuki   จะปรับเครื่องยนต์มาเป็นขนาด 1.2 ลิตร แถมกำลังลดลงเหลือเพียง 83 PS

หากมันกลับขับดีขึ้นจนรู้สึกเหมือนขับรถเก๋ง 1500 ซีซี เร่งติดเท้า ขับมั่นใจ เบรกได้ใจและตอบสนองในการเข้าโค้งหรือบังคับเลี้ยวดีเยี่ยม กลายเป็นรถที่อีโค่คาร์ขับสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ จนอยากให้ลองสัมผัสด้วยตัวเอง

ในวันนี้อีโค่คาร์ 5 ประตู มีมากมายหลายรุ่น ตามความต้องการของคุณ แต่คันไหนที่เหมาะสมกับคุณ เราหวังว่าการมาเล่าให้ฟังสั้นๆ ทุกคัน คงจะช่วยให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น และเลือกรถที่ตรงใจมากขึ้นด้วย

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่