Kia AD

Home » “จุดบอดสายตา” เรื่องที่คุณต้องรู้ในการใช้รถ
SideMirrorblind

Kia AD

Suzuki AD

บทความ เคล็ดลับเรื่องรถ

“จุดบอดสายตา” เรื่องที่คุณต้องรู้ในการใช้รถ

เคยเป็นไหมครับ  ขับรถอย่างสบายใจมองรอบรถเพื่อสำรวจความปลอดภัย คุณตัดสินใจเปิดไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน หรือเร่งแซง แต่แล้ว …. ปิ้น… ปิ้น ..สาดยาวๆ มาจากรถที่คุณแทบไม่เห็นเขาในการสำรวจด้วยซ้ำไป

คุณงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยู่ดีๆ ก็มีคนด่าให้ทั้งที่คุณไม่ได้ทำอะไรผิด ที่จริงเรื่องนี้อาจจะไม่มีใครผิด แต่เกิดจากการการสร้างรถยนต์ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ที่มาพร้อมข้อจำกัดบางประการ

ไม่รู้ว่าตอนเรียนสอนขับรถ มีใครเคยได้เรียนรู้เรื่องจุดบอดสายตา หรือบางทีครูผู้สอนอาจจะเรียกว่า “มุมอับสายตา” หรือเปล่า แต่ถ้าคุณไม่รู้หรือไม่เคยผ่านการเรียนรู้จากโรงเรียนสอนขับรถยนต์ก็ไม่ต้องหวั่นใจไป เพราะผมกำลังจะมาเล่าให้ฟัง…

“จุดบอดสายตา” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า  Blind spot  เป็นสิ่งที่มีในรถยนต์ทุกคันไม่ว่าจะราคาถูกหรือแพง รถทุกรุ่นทุกยี่ห้อต่างมีจุดอับสายตา มันคือพื้นที่ซึ่งผู้ขับขี่ไม่สามารถสังเกตการณ์ในการขับขี่ได้โดยตรง และเป็นจุดที่คุณมักไม่ค่อยใช้ในการสังเกต จนอาจจะเป้นต้นตอของอบัติเหตุ จนเราคงไม่อาจจะมองข้ามเรื่องมุมอับกระจกได้

แม้รถยนต์จะพัฒนาไปไกลเพียงใด แต่เรื่องมุมอับสายตายังเป้นปัญหาคลาสสิคที่วิศวกรไม่สามารถแก้ไขได้ แม้ในปัจจุบันจะมีเทคโนดลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการขับขี่ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยตรง มันทำได้เพียงช่วยให้ผู้ขับขี่รับทราบสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวรถ แต่จะดีกว่าถ้าคุณฝึกให้คุณชินกับจุดบอดเหล่านี้

1.มุมบอดกระจกบังลมหน้า

เชื่อว่าหลายคนน่าจะผ่านมาบ้างกับ เรื่องจุดบอดกระจกบังลมหน้า คงมีบ่อยครั้ง ที่คุณขับรถเบียดเสาทางด้านซ้าย หรือ แทบจะไม่เห็นคนเดินถนนที่วิ่งมาตัดหน้ารถอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณประสบปัญหาแบบนี้บ่อย มันคือปัญหาจุดบอดบนกระจกบังลมหน้า

จุดบอดกระจกบังลมหน้า เกิดขึ้นได้จากการวางเสาโครงสร้างหลักของตัวรถ หรือที่ทางวิศวกรเรียกว่า  เสา  A   เพื่อให้โครงสร้างตัวถังมัน่คงแข็งแรงและใช้เป็นที่ติดตั้งกระจกบังลมทางด้านหน้า

ตำแหน่งเสา  A   ดังกล่าวบางครั้งก็ร้ายกาจ เพราะมันอาจจะมีขนาดใหญ่จนบดบังทัศนวิสัยในการขับขี่จนเป็นอันตรายในการสังเกตการณ์ของคนใช้รถอย่างเราๆท่านๆ ในระยะหลังๆ ทางวิศวกรจึงกลับมาทำกระจกหูช้างหรือกระจกเล็กๆ เพื่อให้สายตายังสามารถสอดแทนดูสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในตำแหน่งใกล้เสา  A  

ส่วนทางด้านตรงข้ามฝั่งซ้าย เรามันจะพบจุดบอดที่มุม  15   องศา มองออกนอกฝากระโปรง เพราะเป็นมุมที่ เสา  A  ด้านซ้ายตั้งอยู่ ดังนั้นต้องใช้เจ้ากระจกหูช้างให้เป็นประโยชน์ หัดมองรอดออกไป

2.จุดบอดด้านข้างตัวรถ

เชื่อเลยว่าหลายครั้งที่คุณขับรถ น่าจะเจอเหตุการณ์ที่โดนมอเตอร์ไซค์ หรือ รถเล็กบีบแตรด่าว่าเอา และคุณไม่มีความตั้งใจที่จะก่อให้เกิดอันตรายแก่พวกเขา แต่มันไม่เห็นจริงๆ สิ่งที่คุณประสบในกรณีนี้เรียกว่า มุมอับสายตาด้านข้างตัวรถ มันเกิดขึ้นในรถทุกคัน โดยเฉพาะรถที่มีขนาดตัวรถยาว การตอบสนองของกระจกมองข้างตัวรถ อาจจะทำได้เพียงการมองในระยะหลังจากประตูหลังพ้นช่วงเสากลางตัวรถไปแล้ว ทำให้ พื้นที่บริเวณประตูหลัง ช่วงเสากลางตัวรถหรือเสา  B   เป็นจุดบอดของกระจก หากมีรถ , มอเตอร์ไซค์ หรืออะไรก็ตามอยู่ในจุดนี้ พวกมันไม่สามารถที่จะมองเห็นได้บนกระจกมองข้างตามปกติ

วีธีการแก้ไขปัญหานี้ มีแนวทางหลายส่วนด้วยกัน มีหลายคำแนะนำที่นำมาปรับใช้ได้จริง เช่น

1.ปรับกระจก มองข้างให้เป็นระนาบทำมุม  90  องศา   

พวกเราหลายคนถูกสอนให้ปรับกระจกเป็นมุม   45-50   องซากับรถ เพื่อที่จะมองเห็นทั้งตัวรถและถนน ในทฤษฏีใหม่ที่เริ่มมาใช้ในต่างประเทศ มีคำแนะนำให้ผู้ขับขี่ ปรับกระจกมองข้างตั้งฉาก ไม่ใช่ทำมุมแหลมกับรถ เพื่ออที่จะมองถนนซึ่งเป็นประโยชน์กว่าการมองข้างรถ การทำเช่นนี้สามารถลดมุมบอดบนกระจกได้พอสมควร แต่กว่าจะคุ้นเคย อาจจะต้องฝึกฝนกัน

2.ติดตั้งกระจกมองหลังชนิดยาวพิเศษ

หลายคนมักสงสัยว่าตามร้านประดับยนต์ทำไมยังมีกระจกมองหลังยาวๆ วางขายอยู่ และมันยังขายได้เรื่อยๆ ที่จริงๆ กระจกมองหลัง มักถูกมองข้ามจากคนใช้รถจำนวนมาก ทัง้ที่มันสามารถช่วยลดมุมอับสายตาได้เป็นอย่างดี ความกว้างที่มากขึ้นของกระจกมองหลัง ช่วยให้คุณได้มุมมองของทางด้านข้าง ของข้างหลัง มากกว่าแค่มองรอดออกไปจากกระจกทางด้านหลัง ช่วยสนับสนุนการมองเห็นที่จำเป็น ลดจุดบอดทางด้านข้างรถได้ระดับหนึ่ง

3.ติดตั้งกระจกโค้งบนกระจกมองข้าง

เคยเห็นกระจกโค้งกลมๆ เล็กๆ หรือไม่ เชื่อหรือไม่ว่า กระจกราคาไม่กี่สิบบาทเล่านั้น ช่วยลดมุมอับได้เป็นอย่างดี  และพวกมันทำงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อเพื่อบอกคุณว่า มีอะไรอยู่ข้างรถหรือไม่ ทีนี้คุณก็ขับขี่ปลอดภัยได้มากขึ้นแล้ว

 

4.เทคโนโลยีช่วยได้

ถ้าคุณคิดว่าที่กล่าวมาทั้งหมดเบื้องต้นไม่สามารถทำได้ ลองมองรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่มีระบบช่วยเตือนมุมบอดสายตาหรือ  Blind Spot  information System   ระบบนี้จะใช้เซนเซอร์ตรวจจับ วัตถุที่เข้ามาใกล้รถ แล้วแสดงบนกระจกมองข้าง มันช่วยได้มากในการขับขี่ 

 

อย่างไรก็ดีมุมบอดสายตา หรือจุดอับต่างๆ บางครั้งก็แก้ไขได้จากการปรับท่านั่งของผู้ขับขี่ ตลอดจน สรีระทั่วไปของผู้ขับขี่เช่นความสูง หรือ โครงหน้าของแต่ละคนก็มีส่วนในการทำให้การรับรู้จุดบอดต่างกัน

 

จุดบอดรอบรถ อาจจะเป็นสิ่งที่เราหลายคนไม่เคยทราบมาก่อนในการขับขี่รถยนต์ในชีวิตประจำวันของเราหลายคน แต่วันนี้ถ้าคุณรู้แล้ว ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ในการสังเกตการณ์ เพียงเท่านี้คุณก็ขับขี่ได้ปลอดภัยมากกว่าที่เป็น

 

เรื่องโดย ทีมงาน Ridebuster

 
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ …. เนื้อหาดีๆ ต้องแบ่งปันต่อ แล้วอย่าลืมถูกใจ เพื่อรับข่าวสารยานยนต์ดีๆ จากทีมงานคุณภาพ Ridebuster – ส่องรถ ….

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*