กล้องมองหลังเปรียบเสมือนตาหลังที่ช่วยให้เราคาดคะเนการจอดรถ รวมถึงมองเห็นสิ่งกีดขวางที่ด้านท้ายได้ชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่มันมักติดตั้งในรุ่นย่อยสูงสุดของรถแต่ละโมเดล อย่างไรก็ตามที่สหรัฐอเมริกาได้มีการออกกฏให้ผู้ผลิตรถทุกยี่ห้อ ติดตั้งกล้องมองหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา

 

ตามปกติแล้วรถยนต์ทั่วไปจะมีเซนเซอร์ถอยหลังติดตั้งมากับรถอยู่แล้ว แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอหากผู้ขับขี่ยังเป็นมือใหม่ หรือเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องการถอยจอดรถ ดังนั้นการติดตั้งกล้องมองหลังจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับผู้ใช้รถในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามรถที่มีกล้องมองหลังมักจะเป็นรถในรุ่นย่อยสูงๆ ซึ่งทำให้ลูกค้าต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่ออุปกรณ์ดังกล่าว… แต่ต่อจากนี้ไปชาวมะกันไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีก เพราะพวกเขาจะได้กล้องมองหลังติดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้ว

 

 

จากที่กระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริกาได้จับมือกับหน่วยงานความปลอดภัยบนท้องถนน (NHTSA) ออกกฏหมายที่บังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ทุกแบรนด์จะต้องติดตั้งกล้องมองหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2018 เป็นต้นไป แน่นอนว่าข้อกำหนดนี้ทำให้บรรดาผู้ผลิตสูญเสียกำไรในการขายรถ แต่ผลดีจะตกสู่ผู้บริโภคทุกคนที่ขับรถบนท้องถนน ซึ่งทางการสหรัฐฯ หวังว่าสิ่งนี้จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี

สำหรับประเทศไทยหน่วยงานภาครัฐไม่ได้มีการกำหนดให้รถที่จำหน่ายในบ้านเรามีถุงลมนิรภัย กล้องมองหลัง หรือระบบช่วยเหลือการทรงตัวแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงบนถนน ก็คือผู้ขับขี่ใช้รถยนต์ที่ปราศจากระบบความปลอดภัยเหล่านี้ จะเป็นผลดีกว่าหรือไม่หากรัฐบาลเห็นความสำคัญของระบบช่วยเหลือที่เรากล่าวมาทั้งหมด?

 

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่