ท่ามกลางโลกยุคใหม่ เราต้องยอมรับครับ ว่า เครื่องยนต์บล็อกเล็กพกเทอร์โบชาร์จ จะต้องก้าวเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์ยุคเก่าเดิม ในอดีต ขุมพลังเหล่านี้ มาพร้อมความสามารในการขับขี่มากขึ้น ลดการปล่อยไอเสียน้อย ลง แถมยังประหยัดขึ้น จนเป็นสิ่งในอุดมคติของใครหลายคน

การมาของ นิสสัน อัลเมร่า สร้างกระแสให้คนไทยเริ่มสนใจเครื่องยนต์ประเภทนี้มากขึ้น และมันมีอีกหลายรุ่นทำตลาดทั่วโลก วันนี้เราจะพาชมหลายตัวเด่นๆ ที่น่าสนใจ ใครจะรู้วันหน้า มันอาจจะมาไทย ก็ได้

Toyota 1.2  เทอร์โบ

ใครว่า โตโยต้า ไม่สนใจเครื่องยนต์บล็อกเล็กเทอร์โบ คงต้องคิดกันใหม่ แบรนด์สามห่วง ให้ความสำคัญกับเครื่องยนต์บล็อกเล็กเทอร์โบอย่างมาก พวกเขาเปิดตัว เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรเทอร์โบ ออกมาจำหน่าย ตั้งแต่ ปี 2015 ปัจจุบัน วางในรถยนต์หลายรุ่น รวมถึงที่คุ้นหน้าตาในไทย ก็คงจะเป็น   Toyota C-HR   นั่นแหละ

เครื่องเทอร์โบ  Toyota 8 NR-FTS

เครื่องยนต์ 1.2 เทอร์โบชาร์จนี้ มีรหัสว่า   8NR-FTS เป็นเครื่องยนต์บล็อกเล็กประสิทธิภาพสูง คุณภาพขับขี่คับแน่นอัดของเล่นไฮโซลงใน เริ่มจากติดตั้งระบบ   D-4T   จ่ายน้ำมันฉีกตรงในเครื่องยนต์เทอร์โบ ยัดวาล์วแปรผัน   VVTi-W  มีความสามารถพิเศษ สามารถปรับการทำงาน เป็น   Atkinson Cycle  ได้ ตัวเทอร์โบเรียบง่ายเป็นเทอร์โบช่องเดียว ไม่ได้พิสดารอะไรใดๆ  ทีมวิศวกรมยังปรับการถ่ายเทความร้อยเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 36 %   จากเครื่องยนต์ แถมยังมีการระบายความร้อนอากาศเทอร์โบด้วยระบบอินเตอร์คูลเลอร์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ

อัดแน่นขนาดนี้ เครื่อง 1.2 เทอร์โบไม่ได้เร้าใจมาก มันมีกำลัง 116 PS  ทำแรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตรเท่านั้น บางคนอาจจะคิดว่า ไม่เท่าไรนี่นา แต่ด้วยความต้องการของโตโยต้า ให้เครื่องยนต์ตัวนี้ เหนียวสักหน่อย ไม่ใช่ขับแล้วพังคามือลูกค้า พวกเขาจึงยอมรับว่า จูนเครื่องมาไม่แรงมาก

ที่สำคัญ มันเป็นเครื่องที่พัฒนาตั้งแต่ช่วงปี 2013 บัดนี้ก็เรียกว่า นานโขพอตัว พิสูจน์ในรถยนต์หลายรุ่น ทั้ง   Toyota C-HR , Toyota Auris , และ  Toyota Corolla   ใหม่

 

Ecoboost เจนเนอร์เรชั่นที่ 2

ฟอร์ด อาจโบกมืออำลา รถนั่งไปแล้ว แต่ในอดีต พวกเขาเคยฝากความตั้งใจ สร้างตลาด 1.0 เทอร์โบ ให้เกิดในบ้านเราเหมือนกัน เครื่องยนต์   Ecoboost   มาพร้อมการตอบโจทย์จากฟอร์ด พวกเขาเหมือนมองเห็นอนาคตวงการยานยนต์ จึงเร่งสร้างเครื่องยนต์ 1.0 เทอร์โบ 3 สูบ ออกมาขาย

เครื่องเทอร์โบ   Ford Ecoboost

ขุมพลังรุ่นนี้ ผมเคยขับมาบ้าง มันตอบโจทย์ความสามารถในการขับขี่ได้เท่าเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ความสามารถของมันเรียกว่า ไม่เป็นสองรองใคร ในตลาด เพียงคนอาจจะไม่วางใจคู่หูชุดเกียร์ พาวเวอร์ชิฟท์ของมัน ซึ่งคุ้มดีคุ้มร้าย ก็เลยกลายเป็นไม่ประสบความสำเร็จในบ้านเราเท่าที่ควร

การชนะรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยม 3 ปี ซ้อน ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น นับเป็นการการันตีความสามารถ และความเป็นผู้นำในเรื่องนี้ ฟอร์ดไม่รอช้า ส่ง   Ecoboost เจนเนอร์เรชั่นที่ 2 ออกมา เรื่องพละกำลังยังเท่าเดิม 125 ให้กำลังสูงสุด 170 นิวตันเมตร มีความสามารถ   Over Boost   สั้นๆ  200  นิวตันเมตรด้วย

เครื่องยนต์ดั้งเดิม เป็น 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ใช้ระบบจ่ายน้ำมัน   Direct Injection  ,การปรับปรุงล่าสุด ทางฟอร์ เน้นไปที่ระบบเกียร์เจ้าปัญหา ติดตั้งเป็นชุดคลัทช์ใหม่ ในระบบ   Torque Convertor เพิ่มขนาดฟลายวีล ตัวเครื่องยนต์เองจัดการปรับให้มีความสามารถระบบหยุดการทำงานบางสูบ สามารถเดิน 2 สูบได้ ในจังหวะความเร็วต่ำ ลดการปล่อยไอเสียและให้ความประหยัดน้ำมัน  ยิ่งขึ้น

น่าเสียดาย เราคงไม่มีโอกาส เห็นเครื่องยนต์อีโคบูสต์กลับมาทำตลาดในไทย ด้วยความตั้งใจแบรนด์นี้ไปสู่รถอเนกประสงค์

 

Suzuki Booster Jet

ถึงซูซูกิ มอเตอร์ในบ้านเรา จะไม่ได้เปิดตัวอีโค่คาร์ด้วยเครื่องยนต์ 1.0 เทอร์โบ แต่เราอยากบอกว่า แบรนด์เขามีของดีในค่าย ถ้าเสียงเชียร์สายเทอร์โบมาเยอะ ใครจะรู้ เราอาจจะได้เห็น อีโค่คาร์เทอร์โบ จากค่ายนี้ ตอนปรับ ไมเนอร์เชนจ์

เครื่องยนต์เทอร์โบของ   Suzuki   มีชื่อว่า   “Booster Jet “ ปัจจุบันมี 2 รุ่นคือ 1.4 เทอร์โบชาร์จ เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง  อีกรุ่นเป็นเครื่องยนต์สามสูบแถวเรียง 1.0 ลิตร

เครื่องเทอร์โบ  Suzuki Booster Jet

ตัวเครื่องยนต์พัฒนาให้มีความสามารถในการขับขี่ตอบโจทย์ด้วยการทำให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักเบา ซูซูกิ ไม่ได้ใส่อะไรหวือหวามากมายนัก เพียงแค่ติดตั้งระบบ   Direct injection   เข้าไปในเครื่องยนต์ และใช้หัวฉีด 6 รู ให้ประสิทธิภาพในการเผาไหม้ดีขึ้นตามลำดับ และแน่นอน มันติดตั้งระบบเทอร์โบชาร์จให้แรงบิดด้วย

ในเวอร์ชั่นปกติเครื่องยนต์รุ่นนี้สามารถทำกำลังได้ 109 แรงม้า และให้แรงบิด 170 นิวตันเมตร ที่เด็ดกว่าค่ายอื่น คือการติดตั้งระบบ   Suzuki Hybrid Vehicle System   หรือ  SHVS จนสามารถทำให้การปล่อยไอเสียต่ำลงเหลือเพียง 97 กรัม/กิโลเมตรในความจริง

ดังนั้นแม้จะไม่เครื่องพละกำลังสูงมาก แต่ความสามารถของเครื่องยนต์ตัวนี้ เรียกว่า ไม่เป็นสองรองใครในตลาด  และมีรายงานว่าถังเดียวของ  Suzuki Swift (35 ลิตร) สามารถขับได้ไกล 804 กิโลเมตรเลยทีเดียว

 

เครื่องยนต์บล็อกเล็กพกเทอร์โบชาร์จ ยังมีอีกหลายเครื่องยนต์ที่จะมาตอบโจทย์ตลาดบ้านเรา เพียงแต่มันจะมาไทย หรือไม่ ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับตลาดตัดสนิใจ และความเหมาะสมในความเห็นของแต่ละบริษัท



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่