กระทรวงการคลังของจีนเตรียมลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ลงร้อยละ 10 ภายในวันที่ 1 กรกฎาคมปีนี้ โดยนี่ทำให้จีนกลายเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในซึ่งมีความน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ผลิตรถยนต์จากต่างประเทศ ขณะเดียวกันยังช่วยกระตุ้นการพัฒนายานยนต์ภายในแดนมังกรไปพร้อมกัน

 

เดิมทีประเทศจีนเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศอยู่ที่ 25% แต่หลังจากกระทรวงการคลังแดนมังกรได้ประกาศลดภาษีลงเหลือ 15% ก็ทำให้เห็นว่ารัฐบาลจีนต้องการกระตุ้นการลงทุนจากบริษัทรถยนต์หลายสัญชาติ แต่เดิมทีเมืองจีนก็ถือเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอยู่แล้ว นี่ยิ่งทำให้ตลาดแดนมังกรเป็นที่น่าลงทุนเพิ่มขึ้นว่าเดิมอีกหลายเท่าจากมุมมองนักธุรกิจ 

 

 

จีนในอนาคตจะเป็นเป้าหมายหลักของบริษัทรถที่ต้องการขายรถไฟฟ้า เนื่องจากปัจจุบันประเทศแห่งนี้ก็มียอดขายรถไฟฟ้ารุ่นใหม่พุ่งสูงติดอันดับหนึ่งของโลกอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้าที่รัฐบาลจีนจะประกาศลดภาษีนำเข้า พวกเขาเคยเรียกเก็บภาษีรถยนต์ที่ไม่ได้ผลิตในประเทศด้วยอัตราสูง จนทำให้นาย ดอนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เอ่ยคำหนึ่งออกมาว่า “Stupid trade”

 

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจีนจะลดภาษีนำเข้ารถยนต์ แต่เมื่อเทียบกับราคารถที่จำหน่ายในประเทศอื่นๆ รถที่จีนก็ยังมีราคาสูงกว่าอยู่ดี ถึงอย่างนั้นมาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติจำนวนมากเข้ามาลงทุนในดินแดนจีน โดยปีที่ผ่านมามีรถยนต์จำนวน 23,900,000 คันถูกจำหน่ายในประเทศจีน ซึ่งเมื่อเทียบกับรถยนต์ใหม่ที่ขายในยุโรปรวมกันจะมีจำนวนอยู่ที่ 15,630,000 คัน นับว่ายังตามห่างอยู่มากโข

การลดภาษีนำเข้าของจีนถือเป็นการเชื้อเชิญให้บริษัทรถยนต์ต่างชาติเข้ามาตั้งศูนย์วิจัย โรงงาน และผลิตรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ เพื่อสร้างสรรค์รถป้อนสู่ตลาดจีนในอนาคต นี่เรียกว่าเป็นเหมือนดั่งรัฐบาลจีนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยก็ว่าได้

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่