ช่วงสองสัปดาห์มานี้คล้อยบ่ายทีไรเมฆฟ้าครึ้มทะมึนทุกวัน ทำเอาคนกรุงเทพฯ ต้องเหนื่อยตอนฝ่าฝนกลับบ้าน วันนี้เรามี 8 เคล็ดลับการใช้ชีวิตบนรถให้เป็นสุขช่วงฝนตกมาฝากกัน

 

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านที่อาจจะอ่านบทความนี้ขณะนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ที่รถของท่านอยู่ท่ามกลางฝนตกเม็ดหนา เล่นเอาการจราจรในโซนกลางเมืองของกรุงเทพฯ เป็นอัมพาตเสียดื้อๆ บางวันหนักข้อถึงขั้นติดยาวยันแถบชานเมือง ทำเอาหลายท่านเบื่อหน่ายทุกครั้งเวลามองออกนอกหน้าต่างแล้วเห็นฟ้าฝนกำลังมา วันนี้เราจะมาแนะนำ 8 เคล็ดลับการใช้ชีวิตบนรถให้เป็นสุขช่วงฝนตก ไว้ให้ผู้อ่านใช้รับมือกับการขับรถกลับบ้านตอนเย็นกัน

 

8 เคล็ดลับการใช้ชีวิตบนรถให้เป็นสุขช่วงฝนตก

 

1.วางแผนเส้นทางก่อนกลับ

 

อย่างแรกสุดที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตเป็นสุขบนรถช่วงฝนตก เริ่มจากการวางแผนเส้นทางกลับบ้านให้ถึงขั้นเซียน ชนิดที่ว่าถนนช่วง กม. ไหนบ้างที่มีน้ำท่วมขัง หรือบริเวณไหนมีจุดกลับรถเยอะ สิ่งเหล่านี้อาจดูจุกจิกไปซักหน่อย แต่หากคุณรู้ว่าควรขับรถอยู่ในช่องจราจรใดแล้วจะไปได้ไว โดยไม่ต้องเปลี่ยนเลนแล้วต้องเบรกชะลอความเร็วบ่อยเกินไป นี่แหละคือรายละเอียดเล็กน้อยที่ช่วยให้คุณไม่ต้องหัวเสียเวลาขับรถฝ่าฝน

 

2.เลิกงานกลับบ้านก่อนเวลารถติด

 

ข้อแนะนำนี้มีคนจำนวนไม่มากนักที่สามารถทำได้ เพราะการกลับบ้านก่อนเวลา 17.00 น. เร็วกว่าเวลาเลิกงานโดยทั่วไปหนึ่งชั่วโมง มันช่วยให้ผู้อ่านถึงบ้านหรือจุดหมายได้เร็วกว่าตอนกลับหลัง 18.00 น. แบบพลิกฝ่ามือ ซึ่งท่านอาจจะหาวิธีชดเชยการเลิกงานก่อนเวลาด้วยการเข้างานไว หรือพูดคุยกับหัวหน้างานกับทีมให้เข้าใจตรงกัน ว่าช่วงนี้เรารีบหนีฝนตกรถติดกันก่อนไหม

 

8 เคล็ดลับการใช้ชีวิตบนรถให้เป็นสุขช่วงฝนตก

 

3.เข้าห้องน้ำ เตรียมเสบียง

 

ก่อนจะเริ่มเดิมทางทุกครั้งโปรดเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย อย่าตื่นตระหนกรีบเดินไปที่รถแบบลุกลี้ลุกลน ขณะเดียวกันก็ให้จัดหาอาหาร น้ำดื่ม เครื่องอุปโภคที่จำเป็นไว้ให้เรียบร้อย เพราะบางวันการขับรถฝ่าฝนหนักไปพร้อมกับรถจำนวนมหาศาล เวลาที่ใช้ก็ย่อมมากขึ้นเป็นเงาตามตัว แน่นอนว่าถ้ามีของกินไว้เติมพลังเวลาคุณหัวเสีย อาการหงุดหงิดก็จะลดลงช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนควายกว่าขับรถแล้วท้องหิว

 

4.หาเพื่อนร่วมทางกลับบ้านด้วย

 

การขับรถคนเดียวกลับบ้านฝ่าฝนไปบนการจราจรหนาแน่นบนถนนในกทม. ช่างเป็นเวลาอันยาวนานจนทำให้บางคนรู้สึกง่วง เบื่อ เซ็งกันตามไปกัน ดังนั้น หากคุณมีเพื่อนที่ทำงานหรือคนที่จะกลับบ้านในเส้นทางเดียวกัน นอกจากจะช่วยให้มีเพื่อนคุยตลอดการเดินทางแล้ว ยังส่งผลถึงจำนวนรถยนต์ที่อยู่บนถนนในทางอ้อมอีกต่างหาก บางทีคุณยังได้พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมโดยสารด้วย

 

8 เคล็ดลับการใช้ชีวิตบนรถให้เป็นสุขช่วงฝนตก

 

5.เช็คหม้อน้ำ เติมน้ำมันให้พอ

 

โปรดจำไว้ว่าไม่ว่าจะเดินทางไกลหรือใกล้ คุณก็ควรเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อตรวจเช็คสภาพความเรียบร้อยของห้องเครื่องเสมอ ดูว่าน้ำยาหม้อน้ำอยู่ในระดับสูงสุดหรือไม่ รวมถึงพยายามเติมน้ำมันให้เพียงพอต่อระยะทางที่จะกลับบ้าน ไม่ก็เติมเผื่อเวลารถติดไปเลยก็ไม่ผิดพลาดแต่ประการใด เพราะหากเกิดไปรถน้ำมันหมดกลางทางตอนฝนตกจะทำให้คุณหัวเสียได้ง่ายๆ

 

 

6.เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนทุกปี

 

เรารู้ว่าผู้อ่านบางคนไม่ได้ใส่ใจเรื่องใบยางปัดน้ำฝนซักเท่าไหร่ เท่าที่สังเกตุมายังมีหลายท่านใช้งานอุปกรณ์ความปลอดภัยนี้จนเสื่อมสภาพ วิธีที่ดีเหมาะสมสำหรับสภาพอากาศบ้านเราที่สุด คือการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนใหม่ทุกปี เพราะการขับรถฝ่าฝนตกหนักจำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งนี้อย่างมาก ถ้ามันเกิดใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุตามมาได้

 

7. ขับรถเว้นระยะห่าง

 

การขับรถในสภาวะอากาศฝนตกถนนเปียกชื้นไปด้วยน้ำ ความสามารถในการยึดเกาะถนนของยาง รวมถึงประสิทธิภาพการเบรกก็ยิ่งลดลง โดยคุณผู้อ่านจะเห็นว่ามีกรณีอุบัติเหตุขับรถชนท้ายกันช่วงฝนตกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากขับรถติดๆ กันไม่ได้เว้นระยะห่างพอเผื่อไว้สำหรับการเบรก วิธีป้องกันคือขับให้ห่างจากคันหน้าให้มากที่สุดตามสภาพการจราจรในขณะนั้น เพียงเท่านี้คุณก็จะมีความสุขขับรถกลับบ้านอย่างปลอดภัย

 

8 เคล็ดลับการใช้ชีวิตบนรถให้เป็นสุขช่วงฝนตก

 

8. ใจเย็น และมีน้ำใจให้ผู้ร่วมทาง

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการใช้รถใช้ถนนของคนไทยในตอนนี้ มักมีข่าวตลอดจนคลิปวีดีโอที่แสดงให้เห็นถึงความรุนแรง ซึ่งเกิดจากการกระทบกระทั่งกันเพียงเล็กน้อยบนถนน บางทีการขับรถให้ช้าลงหน่อย รวมถึงมีน้ำใจให้ทางกับคนขับรถท่านอื่น นี่ก็ถือช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการทะเลาะมีปากเสียงได้มากมาย เราบอกได้ว่าการที่คุณขับรถถึงบ้านโดยไม่ต้องหงุดหงิด รถยนต์ไม่เสียหาย แค่เท่านี้ถือว่าดีมากกว่าอะไรแล้วครับ

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่