เป็นิวศวกรรมสมัยนี้บอกเลยว่าไม่ง่าย นอกจากจะต้องทำเครื่องยนต์ในรถใหม่ให้แรงขึ้นแล้ว ยังต้องรักษากฎทางด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้ปล่อยไอเสียให้น้อยที่สุด หลังจากรถยนต์ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการปล่อยไอสัยสู่ชั้นบรรยากาศจำนวนมาก

นั่นทำให้ทีมวิศวกรต้องหาแนวคิดใหม่ มาตอบโจทย์ พวกเขาหาความคิดใหม่ๆ มาใส่เครื่องยนต์สันดาปภายในเพื่อทำให้พวกมันยังอยู่อีกยาว

1.วาล์วแปรผัน ระบบวาล์วแปลผัน เชื่อว่าคุ้นหูใครหลายคน ระบบนี้จะทำการปรับจังหวะการเปิดวาล์วให้นานขึ้นทั้งฝั่งไอดี และไอเสีย เพื่อรีดอากาศเข้าห้องเผาไหม้เยอะขึ้น และ ปล่อยไอเสียออกไปเร็วขึ้นด้วย การยกวาล์วนานขึ้นทำให้ได้ไอดีมากขึ้น และการจุดระเบิดเดิมก็รุนแรงขึ้นอีกนิดหน่อย ถ้าจ่ายน้ำมันเพิ่มขึนไปอีกเล็กน้อย

2jz-vvti

ต้นตำหรับวาล์วแปรผัน ไม่มีใครอื่นนอกจากฮอนด้า ระบบ  VTEC   เป็นระบบวาล์วแปรผันแรกๆ ในโลก และได้รับการยอมรับในแง่ประสิทธิภาพ พวกเขาทำมันตั้งแต่ก่อนยุคระบบอิเล็กทรอนิกส์จะเข้ามามีบทบาทในเครื่องยนตืมากเท่าวันนี้

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ระบบวาล์วแปรผันทำงานโดยการสั่งการณ์ของกล่องประมวลผลกลาง โดยดูจากการเหยียบคันเร่งของผู้ขับขี่และอีกหลายอย่างทำงานสอดผสานกัน ทุกวันนี้ระบบนี้กลายเป็นมาตรฐานของรถสมัยใหม่ที่เครื่องยนต์ทุกตัวต้องมี

2.เครื่องยนต์กำลังอัดสูง 4-5 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนที่ติดตามข่าวสารวงการรถยนต์ใหม่ จะเห็นว่าเครื่องยนต์สมัยใหม่จะมาพร้อมสมรรถนะมากขึ้น ระบบหัวฉีดตรงสู่ห้องเผาไหม้ในเครื่องเบนซิน เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่า เราเรียกว่า “เครื่องยนต์กำลังอัดสูง” เดิมทีเป็นที่นิยมในเครื่องยนต์สำหรับการแข่งขันเท่านั้น

เครื่องยนต์สันดาปภายในกำลังอัดสูง  Mazda sky Activ

เครื่องยนต์ที่มีกำลังอัดสูง มีข้อดีคือ ให้การเผาไหม้หมดจดและกำลังอัดสูงของมัน ทำให้ได้แรงบิดเพิ่มขึ้นนิดหน่อย เจ้าตำหรับเครื่องยนต์กำลังอัดสูงในยุคนี้ก็ไม่พ้น   Mazda   พวกเขาแนะนำมาพร้อมเทคโนโลยี   Mazda Sky Activ  เครื่องยนต์เบนซินของมาสด้า มีกำลังอัดสูงถึง 14.0:1 มากที่สูดในเครื่องยนต์เบนซิน และทำให้เครื่องยนต์ของพวกเขามีการตอบสนองดีกว่าคู่แข่ง เมื่อเปรียบเทียบในขนาดเดียวกัน

3.เครื่องเทอร์โบ ในอดีต เครื่องเทอร์โบชาร์จมีแนะนำในรถสปอร์ตเท่านั้นเจ้าหอยโข่งมหัศจรรย์ถูกมองว่าเป็นตัวเพิ่มสมรรนถะเครื่องยนต์ให้ขับแรงขึ้นตอบสนองดีขึ้นมากกว่าเดิม

ยุคใหม่เทอร์โบ ถูกจับเข้ามาเป็นคู่หูอีกครั้ง โดยทีมวิศวกรลดขนาดเครื่องยนต์ลงและให้กำลังเทอร์โบช่วยปั้นสมรรถนะและแรงบิด ผล คือได้เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะดีกว่า และยังประหยัดน้ำมัน และปล่อยไอเสียต่ำกว่าด้วย ทำให้มันเริ่มเป็นที่นิยมในหลายบริษัทรถยนต์ทั่วโลก 

จุดเริ่มต้นของเครื่องเทอร์โบยุคใหม่ไม่แน่ใจว่า ค่ายไหนเป็นคนริเริ่ม แต่ที่แน่ๆในประเทศไทย ปัจจุบันมีเพียงฮอนด้าเพียงแบรนด์เดียว ที่แนะนำเครื่องยนต์ในลักษณะนี้วางจำหน่ายในรถยนต์ Honda  Civic และพวกมันได้รับความนิยมอย่างมาก

4.เครื่องยนต์ไฮบริด แม้นว่าเครื่องยนต์ไฮบริดอาจจะไม่ใช่การพัฒนาระบบเครื่องยนต์เสียทีเดียว แต่การผสมผสานเครื่องยนต์ไฮบริดให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้นกับการพ่วงระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาทำให้ได้สมรรถนะกำลังขับรวมดีขึ้นกว่าเดิมพอสมควร

Toyota Corolla Hybrid - เครื่องยนต์ไฮบริด

จุดเด่นของระบบไฮบริดอยู่ที่การรับมือกับรูปแบบการขับขี่   Stop and go   หรือ ขยับสลับหยุดนิ่งได้ดี มันประหยัดมากในเมือง เนื่องจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก นอกเมืองเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์ขับเคลื่อนปกติทั่วไป แต่เวลาแซง คุณได้กำลังทั้งจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า รวมพลังกัน จนบางครั้งระบบรวมทะลุ 200 แรงม้า

5.เครื่องยนต์ 5 จังหวะ น้อยคนจะเคยได้ยินเรื่องนี้ แต่เครื่องยนต์ 5 จังหวะ เกิดขึ้นโดยค่ายนิสสันแนะนำสู่ตลาดประเทศยุโรปในเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร พร้อมติดตั้งระบบซุปเปอร์ชาร์จเข้ามา เครื่องยนต์นี้ทำงานภายใต้วัฏจักรแบบ   Miller Cycle   โดยกระบวนการดูให้ต่ำลง แล้ว สร้างจังหวะที่ 5 โอเวอร์แลปในการจุดระเบิดให้มีคุณลักษณะคล้ายเครื่องยนต์กำลังอัดสูง ผลคือเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ที่อยู่ในอีโค่คาร์ในบ้านเราจาก 78 แรงม้า เพิ่มเป็น 90 แรงม้า และมีกำลังแรงบิดเพิ่มขึ้นพอสมควร แต่ดูเหมือนนิสสันไม่คิดทำเครื่องลักษณะนี้อีกด้วยเหตุผลบางประการ

6.เกียร์หลายอัตราทด ฟังดูเหมือนคนละเรื่องเดียวกัน แต่เกียร์หลายอัตราทดเกิดขึ้นภายใต้แนวคิดการทำให้เครื่องยนต์อยุ่ในช่วงกำลังดีที่สุดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การเพิ่มอัตราทดเกียร์เพิ่งมีแนวคิด 2-3 ปีหลังมานี้ เพื่อทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น อัตราทดเกียร์ถี่ทำให้สามารถรีดกำลังเครื่องยนต์ดีขึ้น โดยไม่สร้างรอบเร่งมาก ผลคือัตราเร่งเพิ่มขึ้น ประหยัดน้ำมันกว่า แม้ในเครื่องยนต์บล็อกเดียวกันก็ตาม

Ford Escape

7.Lean Burn Technology   มีคนจำนวนไม่น้อยสงสัยไว้วิศวกรทำอย่างไร ให้เครื่องยนต์สมัยนี้กินน้ำมันน้อยกว่าเดิม คำตอบอยู่ที่เทคนิคการจ่ายน้ำมันบางหรือ   Lean Burn  ซึ่งมีการพูดคุยมาก่อนยุค 2010 ว่า น่าจะทำการจ่ายน้ำมันบางลง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการประหยัดดีขึ้น ขณะที่ยังได้กำลังเท่าเดิม โดยการจ่ายน้ำมันบางลงจะเกิดขึ้นในจังหวะที่เราขับขี่รถด้วยความเร็วคงที่ ส่วนเวลาเราต้องการอัตราเร่งก็จ่ายน้ำมันปกติ เพื่อให้ได้ความสามารถในการขับขี่สูงสุด

เครื่องยนต์สันดาปภายในยังไม่ตายไปเร็ววันนี้ แต่เราต้องยอมรับครับว่าภาวะโลกร้อน ที่พวกเราต่างบ่นอุบว่า อากาศวันนี้มันช่างร้อนเสียจริง กำลังทำให้เครื่องยนต์สันดาปภายในตายจากไป จนวันหน้าเราอาจจะต้องใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพลดการปล่อยไอเสียจากปลายท่อดีกว่า 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่