อาจไม่คุ้นหูคุ้นตาในไทยสักเท่าไหร่ แต่ในปี 2021 และ 2022 ที่ผ่านมา Peugeot 208 คือรถยนต์ที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ในช่วงเวลานั้น ทำให้ในปี 2024 ทางค่ายได้ตัดสินใจปรับโฉมมันให่อีกเล็กน้อย เพื่อรักษากระแสความต้องการของลูกค้าให้ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไป

2024 Peugeot 208 หากว่ากันตามจริง มันก็คือตัวรถที่ถูกปรับใหม่ ในระดับ Minor Change จากตัวรถ 208 โฉมก่อนหน้า ที่เป็นร่างปรับโฉมใหญ่เมื่อปี 2019 ดังนั้นโครงสร้างตัวถังในภาพรวมของมันจึงยังคงคล้ายเดิมอยู่หลายจุดด้วยกัน

แต่อย่างที่เราระบุไปในข้างต้นว่า เพื่อให้ตัวรถยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องโดยที่ลูกค้าไม่เบือนหน้าหนีไปเสียก่อน ทาง Peugeot จึงทำการใส่เส้นสายใหม่ๆเข้าไปในบางจุด เพื่อให้ตัวรถดูทันสมัยมากขึ้น

เริ่มจาก กระจังหน้าแบบใหม่ ขนาดใหญ่ขึ้น, ไฟหน้าที่แม้จะมีกรอบคล้ายเดิม แต่ดวงไฟภายในได้ถูกเปลี่ยนใหม่ให้เป็นแบบ LED 3 ช่อง ที่ส่องสว่างหนทางด้านหน้าได้ดีกว่าเดิม และแม้แถบไฟ LED 3 ชั้น ที่เคยอยู่ในตัวโคมไฟหลักจะหายไป แต่ก็แค่ย้ายไปอยู่ในโคมไฟตัดหมอกขนาดใหญ่ทางด้านล่างแทน ด้วยแรงบันดาลใจจากตัวแข่งเลอมังส์ Peugeot 9X8 Hypercar

ตามด้วยชุดล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว กับ 17 นิ้ว ลายใหม่ ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละรุ่นย่อย กับออพชันการตกแต่งภายนอกใหมีกเล็กน้อย เช่น ครอบกระจกมองข้างสีดำ, ขอบซุ้มล้อสีดำ กับทางเลือกหลังคาสีดำ สำหรับรุ่น GT และสุดท้ายคือโลโก้สัญลักษณ์ประจำรุ่นแบบใหม่ที่ดูดียิ่งขึ้น

งานตกแต่งภายในห้องโดยสารเอง ก็แทบจะเหมือนเล่นเกิมจับผิดภาพ เพราะงานออกแบบคอนโซลต่างๆ แม้กระทั่งรูปทรงเบาะนั่งก็ล้วนยังคงคล้ายเดิม ทว่าตัวเบาะชุดนี้ กลับหุ้มด้วยวัสดุแบบใหม่ นั่นคือหนังอัลคันทาร่าสีดำ สลับด้วยลวดลายกราฟฟิกสีเขียว Adamite Green

ส่วนหน้าจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 10 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการ i-Connect และการรองรับระบบ Apple CarPlay กับ Android Auto เอง ก็กลายเป็นออพชันพื้นฐานสำหรับตัวรถทุกรุ่นย่อยแล้วในตอนนี้, ชุดพวงมาลัยเองก็ถูกปรับรายละเอียดเล็กน้อย ด้วยโลโก้แบรนด์แบบใหม่, และหัวคันเกียร์สำหรับรถรุ่นเกียร์กระปุกก็ถูกปรับงานออกแบบใหม่ด้วย

ด้านชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ Full Digital ขนาด 10 นิ้วเอง กลายเป็นออพชันติดรถสำหรับรุ่น Allure และ GT เช่นเดียวกับ ชุดพอร์ทชาร์จไฟ และเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือแบบ USB Type-C 3 จุด, แท่นไวร์เลสชาร์จที่แรงขึ้น, และชุดกล้องหน้า-หลัง ที่สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้คมชัดกว่าเดิม

ฝั่งขุมกำลังตัวรถ ยังคงมีให้เลือกตามเดิม เริ่มจากรุ่นมาแรง E-208 ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 156 HP และได้แบตเตอรี่ขนาด 51 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานต่อชาร์จสูงสุด 400 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 20% – 80% ได้ในเวลา 25 นาที ผ่านระบบชาร์จเร็ว

ด้านรุ่นขุมกำลังลูกผสมระบบ Hybrid แบบ 48 Volt หรือ Mild Hybrid ก็จะยังคงมีให้ลูกค้าให้เลือกซื้อด้วยสองระดับความแรง นั่นคือรุ่น 100 HP กับ 136 HP ตามด้วยรุ่นขุมกำลังเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนๆ ที่มีทั้งรุ่น เครื่องยนต์ 3 สูบเรียง ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 75 HP พร้อมทางเลือกชุดเกียร์ธรรมดา 5 สปีด กับ รุ่น เครื่องยนต์ 3 สูบเรียง ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 100 HP พร้อมทางเลือกชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

ส่วนราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในทวีปยุโรป ทาง Peugeot ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆออกมาทั้งสิ้น ขณะที่กำหนดการเปิดตัวและการวางจำหน่ายในประเทศไทยยังต้องรอการอัพเดทข้อมูลกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่