หากเอ่ยถึงชื่อ Chevrolet Camaro หลายคนร้องอ๋อทันทีเพราะเคยเห็นภาพมันโลดแล่นในหนังฟอร์มยักษ์ฝั่งฮอลลีวูด โดยรถคันนี้มีชื่อเรียกรุ่นอีกนามหนึ่งว่า ‘บัมเบิลบี’ ตามหุ่นยนต์ที่แปลงร่างเป็นรถในหนัง ซึ่งตอนนี้ Camaro ได้เปลี่ยนโฉมใหม่ปี 2019 มาพร้อมกับเครื่องเทอร์โบ 2.0 ลิตร และมีเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดให้เลือกใช้

 

ในที่สุดเชฟโรเลตก็ได้เปิดผ้าคลุมของ Chevrolet Camaro 2019 รถอเมริกันมัสเซิลกล้ามโตที่ขึ้นชื่อเรื่องมิติอันบึกบึนแถมมีเครื่องพลังแรง แน่นอนว่าคู่แข่งหลักของมันคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้า Ford Mustang ม้าป่าผยอง กับ Dodge Challenger แมวป่าผู้คำรามก้อง ซึ่งเจ้า Camaro หรืออีกนามที่เรียกกันติดปากว่า ‘บัมเบิลบี’ นี้ได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งคัน รวมถึงหัวใจหลักกับสมรรถนะที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม

 

 

การอัพเดทล่าสุดเปลี่ยนโฉมคามาโรจากรถที่มีมิติใหญ่โตบึกบึน ให้กลับกลายเป็นดูปราดเปรียวสมส่วนมากขึ้น เริ่มจากกระจังหน้าใหม่ที่สอดรับกับไฟหน้าแอลอีดีกับไฟ DRL สุดโฉบเฉี่ยว ต่อมาล้ออัลลอย 20 นิ้วดีไซน์ใหม่จะติดตั้งมาในรุ่น RS กับ SS ขณะที่ด้านท้ายก็ได้รับกันชนกับไฟท้ายแอลอีดีใหม่ฝั่งละสองดวง ซึ่งในรุ่น LS กับ LT จะให้โคมไฟสีแดง ส่วนรุ่น RS, SS และ ZL1 จะเป็นโคมรมดำ 

ฝากระโปรงหน้ากับกระจังหน้าได้รับการปรับโฉมใหม่ (ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ขึ้นในรุ่น SS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเย็นให้แก่เบรคและแรงเสียดทาน พร้อมด้วยเพิ่มแรงกดต่อตัวรถ สำหรับรุ่นที่มาพร้อมกับระบบ Dual Mode Exhaust อันเป็นอุปกรณ์เสริมจะได้แผงกระจายอากาศด้านหลัง

 

 

ตอนนี้ทางเชฟฯ ได้เพิ่มโมเดลใหม่ Camaro Turbo 1LE ที่เข้ามาเป็นหนึ่งในรหัสแรงของ Camelo อันมีสมรรถนะสูงกว่า ซึ่งในรุ่น 1LE มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 275 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และด้วยเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็ก ทางผู้ผลิตกล่าวว่าตัวรถเกือบจะบรรลุความสมดุลของน้ำหนัก 50:50

ส่วนรุ่น Camaro SS จะมาพร้อมเครื่องเบนซิน V8 6.2 ลิตร 455 แรงม้า แรงบิด 617 นิวตันเมตร แล้วจับคู่กับเกียร์ออโตเมติก 10 สปีดรุ่นใหม่ โดยรุ่นก่อนหน้าจะให้เพียงเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดเท่านั้น นอกจากนี้มีโหมดขับขี่แบบทัวริ่ง สปอร์ต และวิ่งในสนาม รวมถึงเอาใจขาซิ่งด้วยระบบควบคุมการล็อคเบรกด้านหน้าเพื่อเบิร์นยางได้ด้วย

 

 

ด้านความปลอดภัย Camaro ตัวเปิดประทุนได้รับถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ในขณะที่รุ่นคูเป้มีจำนวนถึง 8 ใบ เพิ่มมาบริเวณด้านเหนือศีรษะสองฝั่ง ขณะเดียวกันยังมีระบบ Rear Park Assist, Rear Cross Traffic Alert และ Side Blind Zone Alert พร้อมด้วย Lane Change Alert และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น

แฟนอเมริกันมัสเซิลคาร์เมืองไทยคงน้ำลายไหลกันไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่เชฟวี่ไม่มีนโยบายผลิตรถเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวา เหมือนที่คู่แข่งอย่าง Ford Mustang ทำจนมีบรรดาเกรย์มาร์เก็ตนำเข้ามาขายในไทยกันเป็นว่าเล่น

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

 

[ngg_images source=”galleries” container_ids=”545″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่