ซื้อ รถสันดาป ยุคนี้ ..ถือว่า ตกยุค แล้วหรือไม่

ท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีในโลกยุคใหม่ โดยเฉพาะการมาของรถยนต์ไฟฟ้า จนวันนี้หันไปทางไหน หลายคน ก็จะพูดไปในทางเดียวกันว่า “ถ้าเงินถึง ก็ซื้อไปเถิดรถยนต์ไฟฟ้า” จนคนรุ่นใหม่ จำนวนมาก หมายมั่นปั้นมือ มองเป็นเป้าหมายปลายทาง ความสำเร็จ ว่าต้องลั่นรถในฝัน อย่าง Tesla สักวัน

รถยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นนวัตกรรมที่มากระตุเนต่อม คนอยากทันสมัย ไปพร้อมกับ ลดการค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดมลภาวะ เรียกว่า “ยืงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว” จนบางครั้ง หาคุณกำลังคิดจะซื้อรถยนต์สักคัน แต่มันเป็นเครื่องยนต์สันดาปเพียวๆ ก็แอบรู้สึกว่า เราคิดไม่เหมือนเขา มันจะดูเหมือน เราไม่อินเทรนด์ หรือไม่

จุดดี เครื่องสันดาป

ก่อนจะไปไกล ,​เราขอพูดกันตามข้อเท็จจริงว่า รถยนต์ที่เราใช้กันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ,​คุณพ่อ มาจนถึง รุ่นเรา กว่าร้อยละ 90 เป็นรถยนต์เครื่องสันดาปภายในทั้งสิ้น (ระบบไฮบริดเพิ่งจะมามีในราวๆ 20-30 ปี หลัง ประเทศไทย ขาย Toyota Camry Hybrid รุ่นแรกในปี 2009)

เครื่องยนต์สันดาป ภายใน เรียกว่าอยู่คู่รถมายาวนาน ตั้งแต่ยุคบุกเบิกมาจนวันนี้ แม้ว่าหลายคนจะกังขาว่า การมาของรถยนต์ไฟฟ้า จะทำให้มันหายไปในอนาคต แต่การยืนหยัดมาหลายปี นับตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มทำตลาด และมีตัวเลือกมากขึ้น ก็ค่อนข้างชัดว่า เครื่องยนต์สันดาป จะยังไม่จางหายไปในเร็วๆนี้ อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพัก

และมีความพยายามจากหลายภาคส่วนที่ จะชุบชีวิตเครื่องสันดาปให้ได้ไปต่อในอนาคต อาทิ การทดลองทำ น้ำมันเชื้อสังเคราะห์ ที่ทำให้การสันดาปปล่อยไอเสียน้อย หรือ กลายเป็น 0 ได้ในอนาคต ถ้าประสบความสำเร็จ

แม้ว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนความจริงของเครื่องสันดาป ว่าการเอาเชื้อเพลิงเข้าไปจุดระเบิดสร้างพลังขับ จะต้องปล่อยไอเสีย หากข้อดีของเครื่องยนต์ ที่สำคัญ คือมันสามารถรับภาระการใช้งานหนักได้ มันสูญกำลังในการทำงาน น้อยกว่าการใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้า

ส่วนสำคัญ ก็มาจากการพัฒนาระบบขับเคลื่อนที่มีชุดเกียร์ ช่วยทดแรงผ่อนแรงให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในช่วงที่เหมาะสม ในระหว่างการขับขี่

ขณะเดียวกันกันเมื่อมองย้อนมาถึงในแง่การบำรุงรักษาในระยาว แม้ว่าเป็นความจริง ว่าเครื่องยนต์สันดาปใช้ไปนานวันเครื่องหลวม ก็สามารถถอดประกอบซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ดี ฟิตปั๋ง เหมือนวันแรกที่ออกจากศูนย์ได้ เพียงผ่านมือโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

ผิดกับรถยนต์ไฟฟ้า ถ้าเกิดมอเตอร์ขอลาโลกกลับบ้านเก่า จะไม่มีทางอื่นใด นอกจากเปลี่ยนชุดมอเตอร์ทั้งยวง (ทั้งโมดูล)

จุดเดียวที่ รถยนต์ไฟฟ้า ดีกว่า รถสันดาป ในเวลานี้ คือ ค่าพลังงานถูก ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และ ไม่ปล่อยไอเสียในระหว่างการขับขี่ นั่นแหละ

โปรดสังเกต รถบางแบบไม่ขาย EV

ถึงเราจะยกข้อดี เครื่องสันดาปมาให้คุณฟัง ว่า มันดีกว่า EV ในแง่ไหนบ้าง แต่เชื่อว่า สาวก รถยนต์ไฟฟ้า ก็จะมารุมทึ้งคุณ อยู่ดี บางคนลามปามไปถึง ขนาดว่า อย่างน้อยไฮบริดก็ยังดี

ความจริง ถ้าพวกเขาเหล่านั้น เปิดใจมองโลกกว้างๆ สักนิด จะพบว่า รถยนต์สันดาป ยังมีอยู่มากมาย และรถหลายแบบ คุณไม่สามารถเลือกซื้อหารถยนต์ไฟฟ้าได้

ยกตัวอย่างนะครับ, รถกระบะ ,ที่ขายในตลาดปัจจุบัน ทั้งหมด ยังเป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เท่านั้น ไม่มีทางเลือก แม้แต่ไฮบริด หรือไฟฟ้า เนื่องจาก ผู้ผลิตมองว่า รถแบบนี้เกิดมาเพื่อใช้บรรทุกขนส่งสินค้า เป็นม้างาน การบรรทุกหนัก รับภาระการขนของอยู่ประจำ เครื่องยนต์ดีเซลจึงเหมาะกว่า

นั่นรวมถึงรถอเนกประสงค์ในกลุ่ม PPV ที่ต้องกรำงาน สมบุกสมบัน ต้องไปบุกป่าฝ่าดง จึงต้องมีความทนทานในการใช้งาน รถสันดาป ก็ยังสร้างความมั่นใจมากกว่า เรื่องนี้ต้องยอมรับกันในความจริง

นอกจากนี้ที่กล่าวมาแล้ว จะพบว่า ในกลุ่มรถราคาไม่แพง อย่าง อีโค่คาร์ ยังไม่มีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกมากนัก

ถึงในตอนนี้ตลาดจะมีรถ อย่าง Neta V เข้ามาวางจำหน่าย แต่หลายคนก็ยังตะขิดตะขวงกับบางอย่าง มันทำออกมาเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ได้เผื่อเหลือเผื่อขาด แล้ว ถ้าจะเลือกรถราคาไม่เกิน 7 แสน ที่เหมาะสม ซื้อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ ก็ แล จะมีเพียง Neta V เท่านั้น ที่เข้าท่าเข้าที

กระโดดจาก Neta V ขึนไปก็จะเป็น BYD Dolphin ผู้ประกาศราคา 799,000 บาท กับรถขนาด Honda Jazz ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่เหมาะกับทุกคน แถมบางคนยังหวั่นใจ กับคำว่า รถจีน

ดังนั้น ก็ไม่แปลกที่ หลายคนจะยังเลือกซื้อเครื่องสันดาปไปก่อน ..​และเชื่อผม คุณไม่ใช่คนเดียว ที่ทำแบบนั้น เพราะ รถยนต์ไฟฟ้า ยังมีตัวเลือกไม่มากนัก ถ้ามองรถราคาไม่เกิน 8 แสนบาท

หรือ อย่างบางคน อยากได้รถ 7 ที่นั่งมาใช้ และอยากได้ไฟฟ้าด้วย พอผมบอกว่า มีรถอย่าง MG Maxus 9 ก็ติดประเด็นเรื่องราคาจำหน่าย แพงกระฉูด

ดังนั้น ตัวเลือกบางอย่าง จึงยังมีไม่มากมายนัก ถ้าคิดจะเล่น รถยนต์ไฟฟ้า

สันดาป ยังไม่ตกยุค ..​เพียงแต่ ต้องรู้เหมาะกับ ใช้งานแบบไหน

มาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากได้ คำตอบ ว่า ซื้อรถสันดาป วันนี้ ถือว่าตกยุคหรือไม่

ในมุมผู้เขียน มองว่า ไม่ครับ ..​การซื้อรถสันดาปไม่ได้ ทำให้คุณตกยุค หรือ ต่อให้วันหน้ารถยนต์ไฟฟ้าเกลื่อนเมือง กว่าในวันนี้ มันก็ยังไม่ตกยุค ถ้าคุณรู้ว่า ต้องการอะไรจากรถคันนั้น

อาจจะจริง ว่า รถยนต์ไฟฟ้าอันทันสมัย มีประสิทธิภาพมากกว่า ค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานถูกกว่า และช่วยลดการปล่อยไอเสียจากปลายท่อได้ด้วย

ทว่า ในการซื้อรถของเราทุกคน แต่ละคน มีจุดประสงค์ต่างกัน มีเงื่อนไขต่างกัน เราเลยไม่จำเป็นต้องเลือกเหมือนกัน ผมจึงบอกว่า การซื้อรถสันดาป ไม่ตกยุค และไม่ผิด

บางคนต้องการรถไว้ใช้เดินทางไกล เช่น กลุ่มครอสโอเวอร์ และ รถอเนกประสงค์ PPV ที่เน้นการใช้ความเร็วต่อเนื่อ ง ทำเวลา และ รองรับการโดยสารหลายคน ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าในสมัยนี้ แม้ว่าจะ ตอบโจทย์ได้ใกล้เคียง แต่เมื่อมาวัดกันจริงๆ อาจจะยังทำได้ไม่เท่า วิ่งในระยะทาง 500 ก.ม.​ขึ้นไป ต้องเสียเวลาแวะชาร์จ หรือ รถที่ทำได้เทียบเท่า ก็มาพร้อมแบตเตอร์รี่ก้อนใหญ่ ราคาตัวรถ ก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

รวมถึง ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีจำนวนมากขึ้น ปัญหา เรื่อง สถานีชาร์จ เริ่มมีปัญหา ในการรอคิว ต่อคิวเริ่มชัดเจนขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ ต้องการเตรียมความพร้อมที่บ้านของเรา เพื่อทำจุดชาร์จ จะได้ไม่ไปวุ่นวาย รอคิวชาร์จ มันจะไม่มีความสุข

รถยนต์ไฟฟ้า เป็นนวัตกรรมที่ดี แต่ยังไม่เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ นั่น คือ ข้อเท็จจริง ที่ปฏิเสธไม่ได้ คนที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ ที่บ้านไม่ได้มีรถคันเดียว และ มักไม่ใช่คันแรก น้อยมาก จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก

เหมือนที่ผม กล่าวไป ความต้องการของเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน รถยนต์ที่คุณมอง จะเป็นแบบไหน ไม่ว่า สันดาป ไฟฟ้า หรือ ไฮบริด คนที่รู้ว่าอะไรเหมาะกับตัวเอง คือ ตัวคุณเอง ยังไงเสีย จะเป็นหนี้ หรือ จ่ายเงินทั้งที ก็ควรเป็นรถที่เราเลือก และ คิดตัดสินใจ แล้วว่า เป็นช้อยส์ ที่เหมาะกับการใช้งานของเราในตอนนั้นที่สุด

ต่อให้เป็น “รถสันดาป” มันก็ตรงความต้องการ ตอบสนองในการใช้งานของเราได้ ตามที่เราต้องการ นั่นแหละครับ คือ รถที่เหมาะกับเราที่สุด