————————————————————-

สรุป   Honda   CR-V  2017 มีดีดั่งรถยุโรป  ในราคาที่อาจเอื้อมได้

ผมเชื่อว่าความใฝ่ฝันของคนที่อยากมีรถทุกคน คือการมีรถสักคันที่ขับได้ดีใช้งานได้ดีและมั่นใจทุกครั่งที่เปิดประตูขึ้นรถ และเดินทางออกจากบ้าน คนที่บ้านอุ่นใจ คนเดินทางก็มั่นใจในยามขับขี่

ความคิดนี้เป็นความคิดที่หลายคนคิดมากนัก ยิ่งถ้าคุณต้องเดินทางกับครอบครัว ความปลอดภัย ความสบายในการขับขี่ และความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงมากกว่าสิ่งใดในการมองหารถสักคัน

Honda  CR-V 1.6 Diesel EL

 Honda CR-V   เป็นรถที่ส่งทอดความครบครันในเรื่องฟังชั่นการใช้งานจากรุ่นสู่รุ่น และรุ่นนี้ก็เช่นกัน เราเห็นความลงตัวในแง่การใช้งานและการออกแบบตัวอย่างครบครันในหลายมุมมอง เช่นประตูท้ายไฟฟ้า , ขนาดที่เหมาะสมแก่การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง รุ่นใหม่ที่มาคงความครบครันของเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ตอบโจทย์อย่างลงตัว

ผมเองไม่ค่อยติดเรื่องการออกแบบนัก เนื่องจากบางครั้งรสนิยมความชอบของคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้ามอง   Honda CR-V   ใหม่ เทียบหน้าค่าตากับรุ่นก่อนหน้านี้ ผมว่า รุ่นเดิมของ   Honda  CR-V   ดูสวยกว่า  มีความสปอร์ตมากกว่า รุ่นใหม่ ดูเหมือน   Honda   ดูมีความบึกบึนแข็งแร่ง มีหน่วยก้าน แต่ที่ผ่านมาฮอนด้าไม่ใช่บริษัทรถยนต์ที่เคยออกแบบรถได้บึกบึน พวกเขาไม่ได้เก่งทางนี้ และไม่ใช่แนวของฮอนด้า และเมื่อมีความพยายามจะออกแบบเส้นสายนี้ให้มีในรถฮอนด้า มันก็เลยไม่ลงตัว

ส่วนที่ผมไม่ชอบที่สุดก็คือบั้นท้าย ไฟท้าย LED   ทรง   J   ผมให้เพียงผ่าน ที่จริงมันแอบดูคล้ายๆ กับ   BMW i3   ในบางมุมมอง แถมการยำผสมเข้ากับฝาท้ายเรียบเกือบเหลี่ยมโค้งน้อยๆ ไม่ดูมล คล้าย   Honda BR-V   รุ่นน้องที่ถูกขยายร่างขึ้นมา นั่นทำให้ Honda CR-V ขนาดเสน่ห์ความเป็นตัวของตัวเอง ทั้งที่ ตั้งรุ่นแรกยันรุ่นก่อนหน้านี้ใช้ไฟตั้งยาวมาโดยตลอด ถึงจะมีความครหาว่าเหมือนวอลโว่อยู่บ้าง แต่ก็ยังมีสไตล์ในแบบของฮอนด้าเอง และไม่เหมือนใคร

ตอนที่เห็นไฟท้ายรถ   Honda  CR-V   ใหม่ ครั้งแรก ผมว่ามันดูแปลกตา เมื่อมาดูตัวจริงก็ยิ่งแปลกตาเข้าไปใหญ่ เดินหมุนมองๆ รอบคัน เส้นสายการออกแบบเหมือนไม่สุดสักด้าน ไม่ว่า จะบึก แกร่ง หรือปราดเปรียว กลายเป็นรถที่ติดอยู่ตรงกลางว่าตัวฉันนี้จะเอาดีทางด้านไหน

เรื่องการออกแบบในห้องโดยสารเองในภาพรวมทำออกมาได้ค่อนข้างดีกว่ารุ่นเดิมในบางส่วน หากฮอนด้ากลับมาตกม้าตายเรื่องเบาะนั่งโดยเฉพาะที่รองตูดทั้งหมดทุกที่นั่งภายในฟันธงว่าทำออกมาค่อนข้างสั้น รองได้ถึงเพียงช่วงต้นขาเท่านั้น เลยทำให้เบาะรู้สึกว่านั่งไม่สบาย ทั้งที่พนักผิงหลังทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงฟังชั่นเบาะแถม 2 เลื่อนเดินหน้าถอยหลังได้ จะติอีกครั้งตรงเบาะแถว 3 ที่ยังไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นพื้นที่สำหรับผู้ใหญ่โดยสาร ทำให้ ในความจริงถ้าคุณต้องเดินทางทั้งครอบครัว เบาะหลังสุดควรเป็นพื้นที่วางสำหรับเด็กๆ เท่านั้น

ด้านการออกแบบจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ฮอนด้า ทำได้ดีอยู่แล้ว จะมึนสักนิด ตรงเกียร์ปุ่มของรุ่นดีเซล ทำให้คอนโซลหน้าดูโล่งก็จริง โล่งจนบางทีเหมือนมันสมควรต้องมีบางสิ่งมาแทนที่คันเกียร์
ผมขออนุญาตฮอนด้า ยกตัวอย่างใน รถเมอร์เซเดสเบนซ์ พวกเขาแทนที่คันเกียร์ที่มาอยู่ตรงคอพวงมาลัย ด้วย Track Pad   ควบคุมเครื่องเสียงและข้อมูลต่างๆ ของตัวรถ กลับกันของฮอนด้า แค่เป็นปุ่มเกียร์ จนอย่าแปลกใจ ถ้าบางทีขึ้นมาแล้วจะงงในช่วงแรกๆ ว่า เฮ้ย !! รถไม่มีเกียร์

อย่างไรก็ตาม เรื่องเครื่องเคราและสมรรถนะ เครื่องยนต์ 2.4 ลิตรมันยังเก๋าอยู่ เร่งดีเร้าใจในการเดินทาง แต่ไม่ตอบเรื่องความประหยัด แถมเทียบกับรุ่นเดิมแล้ว  Paddle Shift  ดันหายไป กลายเป็นรถที่ไม่ตอบโจทย์อย่างที่ควรจะเป็นถึง อัตราเร่งจะดีขึ้น แต่ชีวิตจริงไม่มีใครบ้าระห่ำมาออกตัว 0-100 ก.ม./ช.ม. ทุกไฟแดง ผมว่า ฮอนด้าพลาดที่ถอด  Paddle Shift  ออกไปในรุ่นนี้ แม้ว่าเครื่องยนต์จะกำลังเหลือแหล่ ก็ตาม

ฝั่งเครื่องยนต์ดีเซลเอง แววดี แต่ขับจริงก็ไม่ได้ดีเลิศประเสริฐประหยัดมากมายนัก อัตราบริโภคจากการลองขับ ผมพบว่า ต่างจากเบนซินอยู่ไม่มากมายนัก

ตารางเปรียบเทียบ อัตราประหยัดน้ำมัน  Honda  CR-V 2.4 EL (เบนซิน)  และ  Honda  CR-V 1.6 DT -EL  

  Honda  CR-V 1.6 DT -EL   Honda  CR-V 2.4 EL (เบนซิน)  
อัตราประหยัดในเมือง 9.58 ก.ม./ลิตร  (12.64 ก.ม./ลิตร ถ้าเปิด  Idling Stop) 7.3 ก.ม./ลิตร
อัตราประหยัด นอกเมือง 13.72 ก.ม./ลิตร 8.4 ก.ม./ลิตร
Bonn Test mode 16.69 ก.ม./ลิตร 11.83 ก.ม./ลิตร

 

จากข้อมูล จะเห็นได้ว่าตัวเครื่องยนต์ดีเซลเองจะน่าสนใจตอนที่คุณจะขับเดินทางไกลๆ หรือขับในเมืองแล้วใช้ระบบ idling Stop   จะเห็นผลชัดเจนมากกว่า

แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ดีงามที่สุดใน   Honda  CR-V   ผมกลับยกให้การเซทระบบกันสะเทือนของรถที่ปรับใหม่หมดจนขับได้มั่นใจ โดยเฉพาะ   Liquid Fill Bushing  ในช่วงล่าง ช่วยซับแรงกระเทือน แน่นหนึบขึ้นกว่ารุ่นก่อน ทว่าในทางกลับกันมันก็ดันเก็บตกพวกอาการลอนคลื่นถนนมาสู่ห้องโดยสารมากเกินไป จนบางครั้งอาจจะรู้สึกว่าไม่สบายตัวในการเดินทางเว้นแต่คุณขับให้เร็วขึ้น การตอบสนองของช่วงล่างจะเปลี่ยนบุคลิกไปอีก เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ผมยังไม่เห็นใน   Honda  CR-V   ใหม่ ไม่ว่าจะเครื่องยนต์เบนซิน หรือเครื่องยนต์ดีเซล คือระบบความปลอดภัย ประเภท   Active Safety   ระบบที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้

สำหรับรถราคาระดับ 1.5-1.6 ล้าน เป็นรถกลุ่มที่ลูกค้ามีโอกาสจะหันไปหารถยุโรปรุ่นเริ่มต้น การดึงให้ลูกค้าตัดสินใจง่าย ก็น่าจะเป็นพวกระบบความปลอดภัยต่างๆนี่แหละ

ผมลองเปิดรายละเอียดทางเทคนิคของ   Honda  Accord   เทียบดู ก็พบว่าที่ผ่านมา   Honda  ไม่ได้มุ่งเน้นให้ระบบความปลอดภัยต่างๆ มากมายนัก ทั้งที่เนื้อแท้ของฮอนด้าดั้งเดิม นอกจากการผลิตรถที่มีสมรรนถะที่ดีแล้ว ยังมีเรื่องของความปลอดภัยเป็นอีกปรัชญาที่ทำให้ฮอนด้าขึ้นมามีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ จากความตั้งใจจริงของผู้ก่อตั้งแบรนด์ฮอนด้า  นาย โซอิชิโร่ ฮอนด้า

แต่ผมยังไม่เห็นฮอนด้าทุ่มเทในเรื่องนี้มากมายนัก ทั้งที่ก็สมควรจะมีมาให้ในรถราคาระดับล้านกลางๆ ได้แล้ว ถ้ามองในรถกลุ่มนี้ รถรุ่นเดียวที่ได้ระบบแพ็คเกจความปลอดภัย   Honda Sensing   คือ  Honda  Accord 2.4 Hybrid  Tech   สนนราคาจำหน่าย 1.849 ล้านบาท ก็อาจจะเป็นเหตุให้   Honda  CR-V   ไม่มีของเล่นอะไร นอกจากระบบ   Honda  Lane Watch   ซึ่งในแง่การใช้งานจริงก็คงไม่มีใครค่อยใช้มันนัก

ผมอยากจะบอกฮอนด้าเหลือเกินในฐานะที่เรารักกันว่า “พี่ครับเอาแพ็คเกจความปลอดภัยมาลงเถอะ” ลูกค้าจะได้รู้สึกว่า รถฮอนด้ามีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัย และมีอะไรมากกว่าแค่ระบบควบคุมการทรงตัว , เบรกป้องกันล้อล็อคที่กลายเป็นของสามัญประจำรถราคา 7 แสนบาทไปแล้วในวันนี้  

————————————————————

ได้เวลาให้คะแนน!!!!

ผมตัดสินใจว่า เพื่อให้ง่ายขึ้นต่อการตัดสินใจของหลายท่านที่ชอบเข้ามาอ่านรีวิว อันยืดยาว จึงน่าจะถึงเวลาที่เราทำการให้คะแนนดูบ้าง โดยคะแนนที่ให้จะมี 10 หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับรถ คะแนนเต็มหัวข้อละ 10 คะแนน รวมเป็น 100 คะแนน

  Honda CR-V 2.4 EL AWD Honda  CR-V 1.6 DT EL
หมวดการออกแบบ    
การออกแบบ ภายนอก 8 8
การออกแบบภายใน 8 8
หมวดเครื่องยนต์    
ความแรง 9 8
ความประหยัด 6 9
หมวดสมรรรถนะและการใช้งาน    
ฟังชั่นการใช้งาน 8 8
ความสบายในการโดยสาร และการบรรทุก 7 7
การตอบสนองของระบบกันสะเทือนและบังคับทิศทาง 8 8
ความทันสมัยและเทคโนโลยีความปลอดภัย 5 5
ภาพรวมการขับขี่ 7 8
ราคาและความคุ้มค่า 8 8
คะแนนรวม (เต็ม 100) 74 77

 

ผมลองให้คะแนน   Honda CR-V   ทั้ง 2 รุ่น ตามหมวดหมู่หัวข้อ ยอมรับว่า หัวข้อที่ต้องให้น้อย คือความทันสมัยและเทคโนโลยีความปลอดภัย เนื่องจากไม่มีอะไรมากมายที่เด่นชัด เว้น  Honda  Lane Watch   

และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างรุ่น จะเห็นว่าผมให้  รุ่นเบนซิน มีคะแนนต่ำกว่าดีเซล  ในเรื่องความประหยัด แต่เรื่องความแรงนั้นมากกว่าอยู่ 1 คะแนน นี่ถ้ามี   Paddle Shift   อาจให้เต็ม 10 เลยก็ได้

———————————————

ผมมอง   Honda  CR-V   ใหม่ ครั้งสุดท้ายก่อนจากลาที่สำนักงานใหญ่ฮอนด้า ในภาพรวมมันคือรถที่ออกแบบ และมีสมรรถนะในการขับขี่ดีในระดับน่าพอใจ และยังคงความเป็นฮอนด้าที่มีรถขับขี่ได้ใจ ครบฟังชั่นใช้งาน ในราคาที่จับต้องได้

สำหรับผมเอง คิดว่า ฮอนด้ามีความตั้งใจมากในการพัฒนา   Honda  CR-V   ใหม่ พยายามอัพสมรรถนะจนบางอย่างเข้าขั้นคำว่า “รถยุโรป” โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล  แต่ก็เหมือนกับเด็กที่พยายามตั้งใจสอบ อ่านหนังสือมากไป จนทำข้อสอบจริงไม่ได้นัก

บางทีสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำอะไรบางอย่าง คือทำมันในแบบที่ตัวเองเป็น เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องพยายามให้มากมาย .. แต่คงตัวตนแบบที่ตัวเองเป็นมากที่สด แล้วลบจุดบอดที่เคยมีมา นั่นน่าจะดีกว่า ใช่ไหมครับ

 

เรื่องและขับทดสอบรถยนต์   Honda  CR-V  รุ่นปี 2017 โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า  ออโต้โมบิล จำกัด  ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ   Honda  CR-V 2.4 EL   และ   Honda  CR-V 1.6 DT EL มาให้ทีมงาน  Ridebuster.com  ทดสอบ

สงนลิขสิทธิ์ ห้ามนำรูป บทความ และข้อมูลการทดสอบ ไปใช้อ้างอิงใดๆ โดยไม่ได้ขออนุญาตจากผู้ทดสอบ และเว็บไซต์ Ridebuster.com การนำข้อมูลส่วนหนึ่งส่วนใด คัดลอก ไปเผยแพร่ มีความผิดตามประมวลกฎหมายทางด้านลิขสิทธิ์

การทดสอบรถครั้งนี้เป็นการศึกษา ทดลอง โดยอิสระจากผู้ทดสอบ เท่านั้น

รถทดสอบ   

Honda CR-V 2.4 EL AWD  ราคา จำหน่าย 1,549,000 บาท

Honda  CR-V 1.6 DT EL ราคาจำหน่าย  1,699,000 บาท

 

ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา   ridebuster.com 

[ngg_images source=”galleries” container_ids=”248″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่