ตั้งแต่เปิดตัวออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว MG4 Electric ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ที่มาพร้อมความน่าสนใจไม่น้อย ด้วยราคาเริ่มต้น 869,000 บาท ทำให้ รถคันนี้กลายเป็นขวัญใจ ของใครหลายคนที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความสปอร์ตในตัว
ผ่านมาปีนี้ MG4 ก็ดูจะถูกยกให้เป็นคู่เทียบกับ โลมา น้องใหม่ที่เพิ่งประกาศราคาไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าในราคาไม่เกินล้าน ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกัน
หากถ้ามองลึกลงไป จะพบว่า MG4 ยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าซื้อด้วย ดีไซน์ความสปอร์ตที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อมองตัวรถ MG4 สิ่งแรกสะดุดสายตา คงไม่พ้น ภาพลักษณ์ความสปอร์ต ขับไปไหนมาไหน มีคนมอง ด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยวจนดูไม่เหมือนรถไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ที่ขายกัน ไม่ได้เน้นเส้นสายแนวนี้สักเท่าไร
แต่มันก็ไม่ได้ มีดีเพียงแค่รูปลักษณ์เท่านั้น เพราะรูปลักษณ์สปอร์ต ก็มาพร้อมกับความมั่นใจในการขับขี่เหมือนทรวดทรงภายนอก
กระแสในโลกออนไลน์ที่มีการนำ MG4 เทียบสเปคกับเจ้า โลมา ซึ่งหลายคนให้ความสนใจ
แต่การที่จะบอกว่ารถคันหนึ่งขับดีหรือไม่นั้น ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องพลังขับเคลื่อนเท่านั้น การบังคับควบคุมที่แม่นยำ และนุ่มนวลก็สำคัญไม่แพ้กันด้วย
ถ้าใครมีโอกาสไปสัมผัส MG4 จะพบว่า ตัวรถรุ่นนี้พัฒนาให้มีความสปอร์ตตอบโจทย์สายขับตัวจริง เป็นรถ EV รุ่นเดียวในราคาต่ำกว่าล้านบาท ที่วางมอเตอร์ขับเคลื่อนไว้ทางด้านหลัง ณ เวลานี้
ต่อมา ถ้าดูกายภาพตัวรถดีๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงหลังแบบ Five Link และการวิศวกรรมตัวรถให้มีความสูงจากพื้นถึงท้องรถค่อนข้างต่ำเพียง 117 มม. ตลอดจน ตามการเคลมของทาง MG ที่บ่งชี้ว่ารถคันนี้มีสมดุลหน้า-หลังแบบ 50-50
หากมีโอกาสได้ไปทดลองขับ อยากแนะนำ ให้ลองรีดสมรรถนะดู จะพบว่า มันค่อนข้างขับได้สนุกสนานพอสมควร มีความสปอร์ตในแบบที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ไม่มี
แถมระบบกันสะเทือนค่อนข้างลงตัวกับสมรรถนะของรถ มีความมั่นใจในการขับขี่พอสมควร ให้ความเฟิร์ม ไม่แข็งจนเกินไป และไม่นิ่มจนคุณรู้สึกไม่มั่นใจ
การตอบสนองคันเร่ง ก็เซทมาแนวทางสปอร์ต ตอบสนองไว กดเมื่อไหร่พร้อมทะยานทุกเมื่อ
และถ้ามาคิดย้อนดีๆ เหมือน MG ตั้งใจทำรถคันนี้ออกมาเป็นรถสปอร์ต hot hatch ซึ่งจริงๆ มันก็มีรุ่นแรงเร้าใจอย่างเข้า MG 4 X- Power ที่ไม่รู้ว่า จะมีโอกาส เข้ามาขายในบ้านเราหรือไม่ ซึ่งผมก็แอบลุ้นให้มา
ห้องโดยสาร MG4 เหมาะกับคนตัวใหญ่ จริงหรอ?
มองจากภายนอกรถหลายคน อาจจะคิดว่า ห้องโดยสารของ MG4 นั้น ค่อนข้างเล็ก แต่จริงๆ แล้วมันไม่เล็กด้วยระยะฐานล้อที่มีความยาว 2,705 มม. ทำให้ มีพื้นที่วางขาของผู้โดยสารตอนหลังดีกว่า รถบางรุ่น ที่ราคาใกล้ๆ กัน
รวมถึง ถ้ามาอ่านสเป็ค จะพบว่า ช่วงตัวของ MG 4 จัดว่ากว้าง คุณจะเห็นชัด ถ้าคุณเป็นคนตัวใหญ่ แบบแอดมินบอล และแอดมินเดือน เวลานั่ง จะไม่รู้สึกว่า รถเล็ก เบียดเสียดไหล่ชนไหล่ ช่วงกว้างของรถรุ่นนี้ ทำได้ดีอย่างเห็นได้ชัดเจน
ไม่เพียงเท่านี้ คุณภาพการโดยสารก็สำคัญ การให้เบาะที่มีการปรับหัวหมอนได้ และตัวเบาะเองทำออกมาค่อนข้างใหญ่ให้ความนั่งสบายโดยเฉพาะกับคนตัวใหญ่ เป็นจุดที่น่าสมควรพิจารณาในการใช้รถอย่างมาก
เพียงแต่ ด้วยกระจกหน้าต่างที่ไม่ใหญ่มาก การไม่มีหลังคาพาโนรามิค ทำให้มันดูแคบไปสักหน่อย แต่ก็ดีนะ คุณไม่ต้องมกังวลว่า น้ำจะรั่วไหม ในภายภาคหน้า
คุ้มค่า และพร้อมใช้งาน
ท้ายสุด จะซื้อรถให้คุ้มค่า มันก็ต้องดูลูกเล่นทางการตลาด ตอนนี้ MG ออกโปรโมชั่น สนับสนุนลูกค้า อย่างคุ้ม แถมประกันภัยชั้น 1 เป็นเวลา 3 ปี เลยทีเดียวเชียว จนลูกค้าที่เคยซื้อรถต่างพูดไปในทางเดียวกันว่า โห!! อย่างคุ้ม เค้าให้อะไรบ้าง ดูเอาเถอะครับ
- ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง นาน 3 ปี ปกติเค้าให้กับ 1 ปี เท่านั้น
- ฟรี! ค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
- พิเศษ! การรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
- ฟรี! บริการรถช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
- รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน
- ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
- ฟรี! ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
เบ็ดเสร็จมูลค่ารวมประมาณ 140,000 บาท
ไม่เพียงเท่านี้ เมื่อไม่กี่วันก่อน MG ก็ครึ้มใจอะไรไม่ทราบ ออกแคมเปญ ชาร์จไฟที่ “ตู้แดง” MG Super Charge เท่าไร MG จะ Cash Back คืนให้เท่านั้นแบบไม่หัก ตลอด 24 ชม. ล่าสุด เห็นว่าขยายไปจนถึง 31 กรกฏาคม 2566 ใครที่ใช้ “ตู้แดง” เป็นประจำก็ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลย โดยการคืนเงินจะคืนผ่านทาง Wallet ซึ่งอยู่ใน MG Thailand แอพพลิเคชั่น ภายใน 7 วันทำการ ส่วนใครที่ชอบขับรถเดินทาง ถ้าเป็น MG ก็กังวล เรื่องสถานีชาร์จเร็วน้อยกว่าเพราะ ทุก 150 ก.ม.จะมีจุดชาร์จ MG Super Charge ให้บริการ เป็นเอกสิทธิ์ ของคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อนี้เท่านั้น ปัจจุบันให้บริการอยู่ 135 แห่ง ทั่วประเทศ ช่วยคลายความกังวลในการใช้งาน โดยเฉพาะในหน้าเทศกาล จะขับรถไปเที่ยว หรือกลับบ้าน ก็ไม่ต้องไปรบรา เรื่องต่อคิวรอชาร์จให้เหนื่อยใจ
MG 4 ในวันนี้อาจจะเป็นรถที่หลายคนพูดถึง หลังจากคู่แข่ง ส่งน้องเล็กลงมาสะกิดไหล่ และมีพลังขับมากกว่า ในราคาไล่ๆ กัน จุดต่างรถทั้งสองรุ่น เราเคยพูดไปแล้ว ว่ามันต่างกันอย่างไรบ้าง แต่เมื่อคุณลองสัมผัสตัวรถ ทั้งสองรุ่น อาจจะเห็นได้ทันที ว่ามันต่างกัน รถแต่ละคัน สร้างมาตอบโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน แบบไหนที่คิดว่าเหมาะกับคุณ เลือกคันนั้นครับ
