เหตุใด ค่ายรถยนต์ ญี่ปุ่น จึงยังไม่รีบ แนะนำ รถยนต์ไฟฟ้า ออกสู่ตลาด

มาถึงวันนี้ ต้องยอมรับว่า รถยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นสิ่งที่หลาบคนมองหา ในการใช้ชีวิตเดินทาง รถยนต์แบบ Battery Electric Vehicle หรือเดิมที เรียกสั้นๆ ว่า EV ได้รับความสนใจ อย่างมาก จากราคาน้ำมันที่แพงสูงขึ้น หากในวันนี้ มีเพียง ค่ายรถยนต์จากจีน และ ยุโรป ที่บุกตลาดจริงจัง จนหลายคนตั้งคำถามว่า ผู้ผลิตชาวญี่ปุ่นไม่เอาบ้างหรือ

การเปิดตัว Nissan Leaf , Toyota BZ4X สะท้อน ภาพสำคัญ ของค่ายรถยนต์ที่คนไทยคุ้นรเคยว่า รถยนต์ไฟฟ้า จากผู้ผลิตประเทศญี่ปุ่น ยังไม่มากอย่างที่คิด แม้ว่าในปีนี้ อาจจะมีฮอนด้า ตามมาร่วมสมทบ ตามสไตล์ 3 ทหารเสือ ตลาดรถยนต์ค่ายหลักที่คนไทย คุ้นเคยมาช้านาน

ด้วยความล่าช้า ในการแนะนำ เทคโนดลยีรถยนต์ไฟฟ้า เข้าสู่ตลาด จึงมักโดน ชาวเน็ตแซะ ว่า เดี๋ยวก็จะเหมือนโนเกีย / โกดัก และอะไรอีกมากมาย ที่ล้มหายตานจากไป ในการเปลี่ยนถ่ายทางเทคโนโลยี หากสิ่งที่หลายคนคงสงสัยไม่แพ้กัน ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเบอร์ต้นๆ เหตุใด จึงล่าช้าในการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้า สู่ตลาด ทั้งที่เมื่อขุดประวัติกันจริงๆ ก็พัฒนามานาน หลายปีแล้ว

อันที่จริง บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นหลายแห่ง มีการปรับตัวสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้ามากกว่าที่หลายคนคิด โตโยต้า ประกาศการลุยรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ปลายปี 2021 และ ล่าสุด เป็นทีของฮอนด้า ถึงกับเร่งตั้งหน่วยงานวิจัยพัฒนารถยนต์ไฟฟเ้า เพื่อเร่งเครื่องเต็มสูบ ในเรื่องนี้

รายงานจาก Japan Time ระบุว่า สาเหตุที่รถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่นล่าช้า ส่วนหนึ่งมาจาก การวางนโยบายของผู้ผลิตรส่วนใหญ่ไปในทาง Wait and See เพื่อดูความต้องการ รถยนต์ไฟฟ้า และการเปลี่ยนถ่ายที่เกิดขึ้น ว่า จะเป็นไปในทิศทางใด

การเร่งเครื่องของหลายแบรนด์ เป็นที่ชัดเจนว่า ทางผู้ผลิตญี่ปุ่นไม่ได้นิ่งนอนใจ ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามาตบอตลาด บางแบรนด์ อย่างฮอนด้า ใช้กระบวนทางลัดในการเข้าร่วมกับค่ายรถยนต์จากจีน ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า อาทิ Honda e:N ที่เตรียมเข้ามาวางจำหน่ายในไทย ในเร็วๆนี้

ส่วนทางโตโยต้าเองก็มีความร่วมมือกับทาง BYD ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน เช่นเดียวกับ มิตซูบิช กับ GAC และ อื่นๆ อีกมากมาย ที่กลายเป็นการจับคู่เล่นเก้าอี้ดนตรี ในยุครถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังจะมาถึง

ต้องดูแลโครงสร้างเดิม

หนึ่งในประเด็นที่มีการพูดถึงอย่างมาก ถึงสาเหตุที่ ค่ายรถยน์ญี่ปุ่นยังไม่แนะนำ รถยนต์ไฟฟ้า ก็มาจาก การที่บริษัทยังต้องดูแล โครงสร้างดั้งเดิมในส่วนของ ซัพพลายเออร์ ที่ป้อนชิ้นส่วนให้ผู้ผลิต

อย่างที่หลายคนทราบ ชิ้นส่วนในรถยนต์ทั่วไปมีมากมายหลายพันชิ้น แต่เมื่อเครื่องยนต์ถูกถอดออก ชุดเกียร์หายไป ทุกอย่างเป็นระบบไฟฟ้าเข้ามาใช้ในการขับขี่ สิ่งที่เกิดขึ้ก็ไม่พ้นการพังทลาย ของบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วน ที่ไม่ว่าจะมีบทบาทมากน้อย

บริษัทเหล่านี้ก็ยังมีคนทำงานอยู่ในบริษัท ซึ่งอาจจะส่งผล ต่อเศษฐกิจในภาพรวมในอนาคตได้

ตามข้อมูลเผยว่า คนญี่ปุ่นกว่า 5.5 ล้านคน ทำงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นในปี 2020 หรือคิดเป็นสัดส่วน 8% ของแรงงานทั้งหมด ในประเทศ ในจำนวนนี้ ยังไม่นับแรงงานจากซัพพลายเออต่างประเทศ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

นับเป็นโจทย์ที่หินไม่น้อย ในการบริหารไม่ให้ บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น โดยเฉพาะแรงงานที่อยู่ในภาคการทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์เดิม ซึ่ง ถือเป็นชิ้นส่วนหลักในปัจจุบัน และกำลังจะหายไปในยุครถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

คนสนใจ แต่ยอดขายไม่ใช่อย่างที่คิด

แม้ว่า หลายคนจะพูดเสมอว่ารถยนต์ไฟฟ้า ได้รับความสนใจอย่างมากจากคน ที่มองหารถใหม่ และวันนี้มีรถยนต์ไฟฟ้าออกมาวิ่งบนถนนมากขึ้นแต่ภาพคยวามเป็นจริง จากทางผู้ผลิตกลับมองว่า มันไม่ได้ขายดีแบบนั้น

ในปี 2021 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% มียอดจำหน่ายเพียง 1% เท่านั้น ในญี่ปุ่น ตัวเลขดังกล่าค่อนข้างคล้ายคลึงกับในประเทศไทย ที่มียอดขายเพียงราวๆ 9,729 คันจากยอดจดทะเบียนทั้งประเทศ เมื่อสิ้นปี 2022 หรือคิดเป็น 1.13% ของตลาดรถใหม่ ในประเทศไทย

นั่นผิดกับในตลาดยุโรป ที่มียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสูงขึ้น มีสัดส่วน 11.6% และ 9.1 % ในอังกฤษ และ สหภาพยุโรปตามลำดับ

นั่นหมายความว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ยังไม่เป็นที่นิยมมากเท่าไรนัก ในขณะที่ตลาดรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึง ในอาเซียน เริ่มปรับ มาสู่รถยนต์ไฮบริดมากกว่าจะไปรถยนต์ไฟฟ้า โดยในญี่ปุ่นรถยนตใหม่ มียอดขาย เป็นรถไฮบริดถึงกว่า 40%

และทั่วโลก ต่างมีความนิยมระบบขับเคลื่อนไฮบริดในปริมาณที่สูง สำหรับประเทศไทย มีสัดส่วนการขายในวันนี้ถึง 14% แม้ว่าจะเพิ่งมีการแนะนำระบบไฮบริดเข้าสู่ตลาด

ทางด้าน นาย อากิโอะ โตโยดะ อดีต CEO Toyota Motor เคยให้ข้อมูลว่า การสู้กับภาวะโลกร้อน ไม่ควรจำกัดที่ระบบขับเคลื่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง และไม่ควรเป็นภาระของคนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนจะต้องร่วมกัน ในการเข้าถึงเทคโนโลยีสะอาด

รถยนต์ไฟฟ้าเป็นเพียงเทคโนโลยีหนึ่งเท่านั้น ที่สามารถลดภาวะโลกร้อนได้ เท่านั้น

สรุป โลกกำลังค่อยๆ เปลี่ยน ไม่ใช่ ได้เร็วอย่างที่คิด

ถ้าเรามาดูจากทั้งหมด จะพบว่า การเปลี่ยนถ่ายสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างที่หลายคนคิด มันกำลังค่อยๆ เกิดขึ้น ค่อยเป็นค่อยไป โดยประเทศที่เปลี่ยนเร็ว มีในยุโรป และอเมริกา ส่วนในประเทศไทย ก็เริ่มได้รับความนิยม จนติดเป็นชาติต้นๆของทางประเทศในแถบอาเซียน

ด้วยเหตุนี้ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น จึงเริ่มค่อยๆ แนะนำรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ได้เร่งรีบมาก เพราะ คนจะเริ่มค่อย ๆ มาใช้ รถยนต์ไฟฟ้าเมื่อพร้อม และ เป็นไปอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป