ลาก่อน KTM – อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของค่ายสีส้มเป็นเช่นไร?

บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์แบรนด์ KTM ได้ยุติการทำตลาดในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าแต่อนาคตของรถแบรนด์นี้จะเป็นอย่างไร?

KTM สุดยอดแบรนด์มอเตอร์ไซค์สัญชาติออสเตรีย แม้ว่าในตลาดโลกจะขายดีเฉพาะยุโรป แต่สำหรับประเทศไทยนั้นถือว่าล้มพับไม่เป็นเรื่อง หลังล่าสุดบริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์แบรนด์ KTM ได้ออกมาประกาศยุติการทำตลาดในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังเปิดเซอร์วิสสำหรับรถแนว Street use อยู่ ทำเอาแฟนๆ ค่ายสีส้มตกอกตกใจไปเหมือนกัน

ย้อนกลับไป 5 ปีก่อน ช่วงที่ตลาดบิ๊กไบค์กำลังบูมอย่างสุดขีด มียอดจำหน่ายรวมทุกค่ายกว่า 20,000 คัน เติบโตขึ้นเป็น 2 เท่า จากแต่ก่อนที่เราต้องซื้อรถจากตลาดเกรย์มาร์เก็ต (รถนำเข้าจดประกอบ) ก็มีหลายค่ายเข้ามาบู๊ตลาดกันอย่างสนุกสนาน และหนึ่งในนั้นคือ KTM ที่แรกเริ่มเดิมที บริษัท คุณค่า คอร์ปเปอร์เรชั่น จำกัด เป็นผู้ช่วงชิงลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พ่วงด้วยสองล้อแบรนด์หรูอย่าง MV Augusta สปอร์ตหรูจากอิตาลี ที่กะเข้ามาผงาดอย่างเต็มภาคภูมิด้วยกันทั้ง 2 แบรนด์

ซึ่งจุดขายที่ชูมานั้นทุกๆ คนที่เป็นแฟนสองล้อต่างรู้จักกันดีอยู่แล้ว ทั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกว่ารถจากแดนอาทิตย์อุทัยในทุกๆ ด้าน ทั้งขุมพลัง ช่วงล่าง มิติรถ และสมรรถนะการขับขี่ ต้องบอกว่าเทียบกันไม่ติดจริงๆ คงต้องไปฟาดฟันกับแบรนด์ยุโรปอย่าง Ducati , BMW จึงจะเป็นมวยถูกคู่กว่า

แต่เนื่องจากการตั้งราคาขายที่แพงเกินไป โดยในโมเดลแรกที่รุกตลาดคือ KTM RC390 รถสปอร์ตไลท์เวท ที่มาพร้อมขุมพลังสูบเดี่ยวขนาด 390 ซีซี ที่โดดเด่นเรื่องแฮนด์ลิ่ง การควบคุมที่ง่ายดั่งปลอกกล้วย ทั้งช่วงล่าง และแรงบิดมหาศาลจากเครื่องยนต์ ที่ตั้งราคาขายเอาไว้ครั้งแรก 300,000 บาทถ้วน ทำเอาแฟนๆ อึ้งไปกับราคาขายกันตามๆ กัน เนื่องจากในขณะเวลาดังกล่าว ฮอนด้า ก็ได้เปิดตัว CBR650R , CB650F ที่มาพร้อมราคาถูกกว่าหรือใกล้เคียงกันที่ 285,000-290,000 บาท

แน่นอนว่าจริตการขับขี่ของคนไทย มักมองไปที่เรื่องของความแรงเป็นอันดับแรก และราคาขายสมเหตุสมผลกว่า จึงทำให้ตลาดรถในช่วงเวลานั้นเป็นของค่ายปีกนกอย่างแท้จริง ส่วน KTM เองก็ยังคงยืนหยัดอยู่ในความเป็นแบรนด์พรีเมี่ยม แต่ก็เริ่มทำโปรส่งเสริมการขายออกมาเป็นระยะ ทว่ายังไม่โดนใจสิงห์นักบิดคนไทยเท่าที่ควร จึงต้องเก็บเสื่อพับฐานกลับบ้านไป พร้อมทิ้งปัญหาให้เหล่ายูสเซอร์ และดีลเลอร์ที่เปิดโชว์รูมกันบานเป็นดอกเห็ดต้องรับภาระต่อ ถึงขั้นฟ้องร้องขึ้นศาลกันเลยทีเดียว

หลังจากวิกฤต KTM ของบ.คุณค่าฯ ผ่านพ้นไป เพียงไม่ถึงขวบปี บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในสายป่านอันยาวเหยียดของ บริษัท เวสปิอาร์ริโอ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสกูตเตอร์สุดฮิต “เวสป้า” ก็เข้ามารับเผือกร้อนอย่างทันควัน พร้อมอัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ลดราคาลง 1 แสนบาท โดยเฉพาะ RC390 ที่เหลือราคาเพียง 2 แสนบาทเท่านั้น ทำเอาลูกค้าเก่า KTM ที่ซื้อรถไปก่อนหน้านี้อึ้งกิมกี่กันไปเลยทีเดียว รวมถึงกิจกรรมออกทริป กิจกรรมแทร็คเดย์ DUKE IT WEEKEND ที่ไปดึงนักบิดระดับเวิล์ดกรังซ์ปรีอย่าง “เจเรมี่ แม็ควิลเลี่ยม” มาเป็นครูฝึกพิเศษให้กับลูกค้าเลยทีเดียว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การตลาดก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้สมรรถนะรถ ที่ค่ายอาจจะมองข้ามไปหรือจี้ไม่ถูกจุด หากเป็นแฟนๆ ของค่ายคงติดตามอัพเดทข่าวสารกันอยู่เสมอๆ แต่สำหรับประชาชนทั่วไปแล้ว บางคนยังไม่รู้จักเลยว่า KTM เป็นมอเตอร์ไซค์ อะไร มาจากไหน โดดเด่นเรื่องอะไร เมื่อยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า อีกทั้งค่าใช้จ่ายก็พุ่งเป็นเงาตามตัว ต่อให้ใหญ่ขนาดไหน ก็ล้มครืนลงได้เหมือนกัน ดังที่เกิดขึ้นกับ บริษัท เบิร์น รับเบอร์ฯ ในขณะนี้

คงต้องปล่อยให้เป็นการบ้านใหญ่สำหรับ “ใคร” ที่จะเข้ามารับช่วงต่อ KTM ในอนาคต ประสบการณ์ที่ผ่านมามันเป็นบทเรียนที่ดี แต่จะดียิ่งขึ้นหากรู้จักปรับตัวและแก้ปัญหาได้อย่างถูกจุด แต่ทั้งนี้ยังเชื่อว่า มีแฟนๆ KTM ที่ยังคงเหนียวแน่น รอการกลับมาผงาดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่จะเมื่อไหร่ ที่ไหน เราคงต้องคอยติดตามกันต่อไป

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com