ด้วยกระแสเศรษฐกิจในปัจจุบัน รถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานในการเดินทาง มันดีกว่าตากแดดขี่มอเตอร์ไซค์ และปลอดภัยแถมเสียเวลาน้อยกว่าการขึ้นรถสาธารณะ ที่อาจะทำให้คุณต้องลำบากในชีวิตแต่ละวัน

“อีโค่คาร์” กลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาวของคนใมองหารถยนต์ยุคใหม่ พวกมันมาพร้อมความประหยัด , การดูแลรักษาง่าย ค่าดูแลรายปีไม่แพงจนเกินไปนัก  กลายเป็นรถยนต์ที่น่าใช้จับจองเป็นเจ้าจอง 

การซื้อรถสักคัน หลายคนอาจจะหมายปองอยากได้รถใหม่มาใช้งาน ด้วยความมั่นใจในการขัขขี่มากกว่า หากปัจจุบันรถยนต์มือสองก็ดูมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน แม้ว่าจะมีข้อเท็จจริงบางประการทำให้รถมือสองไม่เป็นที่สนใจ แต่การมีรถยนต์คันแรกก็ใช่ว่าทุกคนจะมีเงินทองมากมายพอจะเป็นเจ้าของรถใหม่ป้ายแดงได้ “รถอีโค่คาร์มือสอง” จึงเป็นความคุ้มค่าที่จับจองได้ด้วยเหตุผลหลายประการ 

1.ราคา ในการสำรวจรถอีโค่คาร์ในตลาดมือสอง ปัจจุบัน รถยนต์อีโค่คาร์มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2 แสนบาทปลายๆ สำหรับรถที่ใช้งานมาแล้วในระยะหนึ่ง 3- 4 ปี มีระยะทางขับขี่ตั้งแต่ 6 หมื่นกิโลเมตรขึ้นไป และสูงสุดราคา ประมาณ 5 แสนบาท ต้นๆ สำหรับรถอีโค่คาร์สภาพนางฟ้าปีใหม่ ที่ยังใช้งานได้อีกนาน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ าเทียบกับอีโค่คาร์มือหนึง มันถูกกว่ามากพอสมควรเลยทีเดียว 

2. ประหยัดน้ำมัน ด้วยความสามารถตามระเบียบข้อบังคับของทางรัฐบาล รถอีโค่คาร์ จะมีการทดสอบอัตราประหยัดอย่างเช้มงวด โดยต้องผ่านอันตราประหยัด อย่างน้อย 5 ลิตร / 100 กิโลเมตร หรือ เทียบเท่า 20 กิโลเมตร / ลิตร (จากการทดสอบ) ในภาวะการขับขี่จริง อาจทำอัตราประหยัดได้ไม่ถึงตามเกณฑ์ดังกล่าวก็จริง จากสภาวะการใช้งานต่างๆ แต่ก็ถือว่าเป็นรถที่มีความประหยัดน้ำมันสูงมาก  ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางลดลง เมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ 

3.ขับสะดวกในเมือง ประเด็นหลักที่มีของรถยนต์ขนาดเล็ก คือเพื่อคล่องตัวในเมือง รถยนต์อีโค่คาร์ส่วนใหญ่เกิดมากพร้อมขนาดกระทัดรัด ทำให้คุณใช้งานได้คล่องท่ามกลางการจราจรในเมือง หาที่จอดก็ง่าย ขับสบาย และที่สำคัญ ยังมีค่าบำรุงรักษาต่ำอีกต่างหาก

เปรียบเทียบความคุ้มค่า 

ทีนี้เราลองมามองเหตุผลที่คุณ ควรซื้ออีโค่คาร์มือสอง กับอีโค่คาร์ใหม่ป้ายแดง   โดยเราขอหยิบยกรถยนต์   Suzuki  Ciaz  รุ่น  GLX   ขึ้นมาเปรียบเทียบ เป็นตัวอย่าง 

ถ้าคุณต้องการซื้อรถ   Suzuki   Ciaz  GLX   ในฐานะรถใหม่ป้ายแดง คุณจะจะต้องจ่ายค่าตัว  625,000 บาท  หรือถ้าดาวน์รถกะขับคนเดียว ต้องดาวน์ 25%  หรือเป็นเงิน  156,250 บาท มีดอกเบี้ยต่อปี 14,000 บาท ถ้ามามองค่าใช้จ่ายต่องวด 9,062 บาท  (คิดที่อัตราดอกเบี้ย 3.2%)

ส่วนในกรณีที่คุณซื้อรถ  Suzuki  GLX   มือสอง จากผู้ขายที่วางใจ ปัจจุบันจากการลองสำรวจราคารถใหม่ในตลาด มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 425,000 บาท สำหรับรถปี 2017 หากต้องการดาวน์ 25%  เท่ากัน  จะมีค่าใช้จ่าย 106,250 บาท แต่เนื่องจากเป็นปีใหม่จึงสามารถจัดไฟแนนซ์ได้ถึงร้อยละ 90 ของราคารถ ทำให้คุรไม่จำเป็นต้องหาดาวน์ก้อนเพื่อมาออกรถ  
สมมุติคุณขอจัดไฟแนนซ์ 4 แสนของราคารถ  ก็จะใช้เงินดาวน์รถเพียง 25,000 บาทเท่านั้น  ถ้าบวกค่าประกันภัยและค่าโอนไปอีก 15,000 บาท การออกรถอีโค่คาร์มือสองจะใช้เงินเพียง  40,000 บาท เท่านัน  และเมื่อมาดูค่างวดผ่อนรถแต่ละเดือน ถ้าคำนวนอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 4.5 จะพบว่า  คุณจะผ่อนชำระเพียงเดือนละ 8,166 บาทเท่านั้น  และคุณไม่จำเป็นต้องหาเงินก้อนไปซื้อรถ 

Mitsubishi Mirage001

วิธีดู รถอีโค่คาร์มือสอง … 

การดูรถอีโค่คาร์มือสอง ก็คล้ายกับหลักการดูรถมือสองทั่วๆไป ที่ทำกันอยู่เป็นประจำ  ซึงเราจำเป็นต้องตรวจสอบก่อนตัดสินใจซื้อ เนื่องจากเป็นรถที่ผ่านสภาพการใช้งานมาแล้ว 

1.ตรวจสอบการบำรุงรักษา รถมือสองไม่เหมือนรถมือหนึ่ง พวกเราสมควรจะตรวจสอบการบำรุงรักษารถอีโค่คาร์มือสองให้ดี เนื่องจากส่วนใหญ่รถอีโค่คาร์จะเป็นรถคันแรกของผู้ใช้เดิม ทำให้โดยมากมักไม่มีปัญหาในแง่การดูแลรักษานัก เพราะว่า  ส่วนใหญ่จะเข้าศูนย์บริการมากกว่าซ่อมหรือใช้บริการอู่นอก แต่ในรถที่มีสภาพไม่เดิม เช่นมีการแต่งซิ่ง สมควรจำเป็นต้องดูเป็นพิเศษ เนื่องจากรถอาจมีการดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดจากเจ้าของเดิม 

2.ตรวจสอบการเกิดอุบัติเหตุ  เมื่อคุณซื้อรถมือสอง การตรวจสอบการเกิดอุบัติเหตุของรถอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอีโค่คาร์นั้นมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก เนื่องจากเป็นรถยนต์นังขนาดเล็ก ใช้งานบ่อย และหากเป็นรถคันแรก ความอ่อนประสบการณ์ของผู้ขับขี่ อาจทำให้รถยนต์คันดังกล่าวเคยบอบช้ำมาบ้างไม่มากก้น้อย การตรวจสอบอุบัติเหตุ สามารถดูได้จากขอบยาง ตรวจสอบคานตัวรถ ดูร่องรอยการทำสี หรือร่องรอยการโป้วสี ดูว่ามีการเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือไม่ เนื่องจากรถอีโค่คาร์ส่วนใหญ่จะเป็นประกันชั้น 1 ซ่อมศูนย์  
3.ซื้อจากแหล่งเชื่อถือได้ ถ้าคุณต้องการรถมือสองสภาพดี แต่ดูไม่เป็นบางทีอาจจะหารถจากแหล่งน่าเชื่อถือ ที่มีการรับประกันการชนหนักหรือประกันตัวรถ ว่ามีการตรวจสอบสภาพมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย    หรือไม่ถ้าคุณซื้อกับเจ้าของรถโดยตรงก็จะดี จะได้ทราบว่ารถคันนั้นๆ มีผู้ใช้ลักษณะอย่างไรบ้าง หรือเขาและเธออาจจะยอมบอกว่า รถคันนี้เคยเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ 
4.ตรวจสอบราคากลางเสมอ ทำการบ้าน เป็นงานของการซื้อรถมือสองที่สำคัญ คุณจำเป็นจะต้องตรวจสอบราคากลาง และชั่งใจกับการตรวจสอบสภาพรถ ว่าคุณพอจะรับกับราคาขายได้หรือไม่ ถ้ารับได้ ก็ขับมันกลับบ้านเลย 

หลายคน อาจจะขยาดกับบรรดารถมือสองในตลาด จากเรื่องราวต่างๆที่เคยได้ฟังมา และความน่ากลัวที่คุณยังอาจจะรู้สึกว่า กล้าๆ กลัวกับรถมือสอง ทว่าบางครั้งหากเรางบน้อย บางทีก็สมควรจะเลือกซื้อรถมือสองก็ได้นะครับ  

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่