ในเวลาคนไทยบอกว่าราคาน้ำมันแพง หรือใครก้ตามต้องใช้รถยนต์เดินทางกันยาวๆ เรามัดจะถูกเป่าหู ว่า “ก็ไปติดแก๊สดิ” คนไทนเชื่ออย่างสนิทใจว่า แก๊สประหยัดกว่า ด้วยราคาหนั้มที่ถูกว่าน้ำมัน 2-3 เท่าตัว ทั้งที่ความจริงแล้วเบื้อหลังแก๊สรถยนต์มีความจริงมากมา ไม่ใช่เพียงความประหยัด และเราอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง

1.แก๊สรักษาสิ่งแวดล้อมดีกว่า

เป็นเรื่องทีไม่ค่อยมีใครพูดถึงแม้แต่ภาครัฐบาล แต่ว่าแก๊สรถยนต์กลับกลายเป็นของดีที่คุณไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะถ้าคุณรักษ์ฌลก เพราะแก๊สรถยนต์ปล่อยไอเสียหรือ   CO2   น้อยกว่าน้ำมัน เพียง 1.5 กก. ต่อ แก๊ส 1 ลิตร กลับกันน้ำมันรถยนต์ที่เราเติมใช้กัน กลับปล่อยไอเสียถึง 2.3 กก. ต่อน้ำมัน 1 ลิตรทีเดียว  

นอกจากนี้พวกมันยังปล่อยก๊าซประเภท ไนโตรโจนออกไซดน้อยกว่าถึง 65-83%   เมื่อเทียบกับรถเบนซินหรือดีเซล ที่ว่าปล่อยไอเสียต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ด้วยส่วนสำคัญว่า แก๊สรถยนต์นั้นเผาไหม้สะอาดและหมดจดมากกว่านั่นเอง

2.จจะขับดี ก็ต้องมีเครื่องยนต์ที่เหมาะสม

ทุกวันนี้ถ้าคุณคิดประหยัดทางรัฐจับเอารถยนต์ที่บ้านไปติ๊ดแก๊ส ผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศบอกกับคุณเลยว่า นั่นเท่ากับคุณกำลังสูญเสียศักยภาพกำลังขับร้อยละ 20 ของเครื่องยนต์ทันทีที่ใช้แก๊ส เป็นสาเหตุว่า ทำไมพอใช้แก๊วบางทีรู้สึกรถเร่งไม่ออก หรือขับแล้วอืดกว่า

ในต่างประเทศบริษัทรถยนต์บางรายพยายามทำให้รถยนต์ของพวกเขาตอบโจทย์ในเรื่องการใช้แก๊ส เช่น   Ford Falcon   มีรุ่น   LPI   หรือรุ่นใช้แก๊สโดยตรงจากโรงงาน

ทางบริษัทพัฒนาศักยภาพเครื่องยนต์ตั้งแต่จังหวะการจุดระเบิดและที่สำคัญที่สุดคือกำลังอัดต้องมากกว่าเครื่องยนต์ปกติที่ใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งรุ่น  LPI   นั้นใช้กำลังอัดถึง 12.0ต่อ 1 ในเครื่องยนต์ 6 สูบ 4.0 ลิตร ทกำลังเครื่องยนต์ได้ 195 กิดลวัตต์ และ ให้แรงบิดสูงถึง 491 นิวตันเมตร

กลับกันในรุ่นปกติ เครื่องยนต์มีกำลังอัดเพียง  10.3 ต่อ 1 ทำกำลังเครื่องยนต์เท่ากันแต่มีแรงบิดน้อยกว่า เพียง 391 นิวตันเมตร เท่านั้น  

ดังนั้นจากข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงกล่าวได้ว่า แก๊สถ้าจูนมาถูกต้องกับเครื่องยนต์อาจขับดีกว่า

3.ยังไงแก๊สก็ซดกว่า

แก๊สที่เราพูดถึงคือแก๊ส   LPG   ซึ่งติดตั้งง่ายใช้สะดวก และประหยัดค่าติดตั้ง รวมถึงน้ำหนักถังที่ต้องแบกเพิ่มเติม

แต่จากเคสเจ้า   Ford Falcon  มีรายงานว่ารุ่น  LPI   ใช้แก๊ส มีขนาดถังใหญ่ถึง 88 ลิตร ทำอัตราประหยัดได้ 11.8 ลิตร /100 ก.ม. (8.47 ก.ม./ลิตร) ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ปกติ ทำอัตราประหยัดได้  9.0 ลิตร /100 ก.ม. (11.11 ก.ม./ลิตร) ด้วยถังน้ำมันขนาด 64 ลิตรเท่านั้น

ทำไมถังใหญ่กว่าทานกว่า?  เรื่องนี้ตอบง่ามาก นั่นมาจากความหนาแน่นของพลังงานต่อหน่วยเชื้อเพลิง ซึ่งแก๊ส  LPG  มีความหนาแน่นพลังงานเพียง 26 เมะกะจูล ส่วนน้ำมันเบนซินปกติมีความหนาแน่นพลังงาน 34.2 เมกะจูล  ดังนั้นการสั่งจ่ายแก๊สจึงหนากว่าน้ำมัน ทำให้หมดเร็วและไม่ได้ประหยัดกว่า ในเชิงประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน

4.ถูกกว่าจริงดิ

ราคาหน้าปั้มเป็นตัวล่อที่ดีสำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆ  ท่านให้คิดว่าน่าจะลองใช้แก๊ส

กว่าท่านจะได้ใช้แก๊ส ด่านแรกต้องทำการติดตั้งระบบเพิ่ม ซึ่งปัจจุบัน รถเก๋งทั่วไปจะอยู่ราวๆ 30,000 บาท

การติดตั้งแก๊สถ้าเอาให้ถูกต้องก็หลังจากติดตั้งก็จะต้องไปแจ้งกับกรมขนส่ง มีค่าดำเนินการจดแจ้งเล็กน้อย

แต่เมื่อเริ่มใช้งานจริง ผมของตั้งราคาเลขกลมๆ แก๊ส  LPG   ไว้ที่ 13 บาท เนื่องจากแต่ละปั้มผันผวนกันตามการตั้งราคาไม่เท่ากัน ถ้าแก๊สลิตรละ 13 บาท คุณต้องเติมอย่างน้อย 2,300 ลิตร จึงจะถือว่าคุ้มทุนในการติดตั้งแก๊สหรือถ้าคิดเป็นถังขนาด 43 ลิตร ที่ชอบติดกันทั่วไป ก็ต้องประมาณ 53 ถัง

ถ้าสมมุติ แก๊ส 1 ลิตร วิ่งได้ 10 กิโลเมตร 43 ลิตร จะวิ่งได้  430 กิโลเมตร และรวมแล้วกว่าจะคุ้มทุน คุณต้องวิ่งอย่างน้อย 22,790 กิโลเมตร ซึ่งเทียบกับการใช้งานรถทั่วไป ก็ 1 ปีเต็มๆ  เลยทีเดียว

แถมยังเสียรถ และการเสื่อมสภาพเครื่องยนต์ เนื่องจากไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับการใช้แก๊ส

5.ห้ามลืมระยะยาว

นอกจากความคุ้มค่าที่คุณต้องใช้ให้คุ้มแล้ว รถใช้แก๊สยังต้องการดูแลในระยะยาวเพื่อความประหยัดสูงสุดในการขับขี่ อันที่จริงแล้วต้องไม่ลืมการดูแลรักษาในระยะยาวด้วย

ด้วยเครื่องยนต์ที่ไม่ออกแบบมารองรับการทำงานระบบแก๊ส และความร้อนจากการเผาไหม้ที่สูงกว่า ทำให้ในระยะยาวเครื่องยนต์จะสึกหรอมากกว่า ยิ่งถ้าดูแลไม่ดียิ่งไปกันใหญ่

ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องรู้ความจริง ก่อนตัดสินใจติดแก๊ว่า รถแก๊สนั้นต้องดูแลมากเป็นพิเศษ และจะดีมาก ถ้าอย่างน้อยคุณมีความรู้เครื่องยนต์สักหน่อย ซึ่งคุณจำเป็นต้องใช้เงินในการดูแลรักษารถยนต์มากกว่าปกติ .. สักเล็กน้อย

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่