ท่ามกลาง กระแสรถยนต์ไฟฟ้ามาแรง โตโยต้า ดูจะเป็นค่าย ที่ทำการบ้านมาอย่างดี ในการนำเสอน ผลิตภัฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ขณะที่หบลายคนอาจคิดว่า คนไทย ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าอย่างบ้าคลั่ง หากนั่นเป็นภาพลวงตา เพราะ ยังมีคนจำนวนหนึ่ง ที่เพียงมองหารถคุ้มค่า และ แค่ไม่ต้องตากแดดตากลม ไปทำงานเท่านั้น

แน่นอนว่า จะซื้อรถสักคัน ปัจจจัย ราคากลายมาเป็นตัวตัดสินใจว่าจะได้รถอะไร จะซื้อรถซิตี้คาร์คันเล็กก็ดูจะไม่สะใจ ยุคนี้มันต้องเป็นอเนกประสงค์ ว่าแล้ว โตโยต้า ก็บุกตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กตามที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างสักที หลังจากที่วางจำหน่ายมายาวนาน และ นั่นเป็นที่มาของ Toyota Yaris Cross ใหม่

ชื่อเสียงเรียงนาม Toyota Yaris Cross ไม่ใช่เรื่องใหม่ในประเทศไทย ตอนสุดท้ายปลายโฉม ยาริสรุ่นก่อนโฉมปัจจุบัน โตดยต้า ก็นึกครื้อมใจลองดูสอว่า มันจะเป็นอย่างไร ด้วยการเอา ยาริสเวอร์ชั่นแซยิด มายกสูงเล่นๆ ทำเป็นเวอร์ชั่นตัวครอสวางขาย ดูสิคนจะสนใจหรือไม่

แม้ว่า ในตอนนั้นจะเป็นเพียงการปรับขนาดโช๊ค และขนาดยางให้พร้อมสำหรับลุยได้บ้าง ประมาณว่าฝ่าน้ำขังรอการระบายได้ โดยไม่ต้องยูเทิร์น กลับไปฝ่ารถติดให้มันปวดใจ

วัตถุประสงค์นั้น ถูกใจคนจำนวนมาก ที่ขับรถในเมืองกรุง และมันก้ใช่จะมีน้ำขัง รอการระบายเพียงอย่างเดียว ยังมีหลุมท่อกทม. ฝาท่อร้อยสายไฟใต้ดิน ทั้งหมดนั้นอาจทำให้คุณรู้สึกว่า รถยกสูงตอบโจทย์กว่า

กาลเวลาผ่านไป ในที่สุด โตโยต้า ก็ตัดสินใจ ว่า ยาริส ครอส น่าจะตอบโจทย์ ทำตัวขายในญี่ปุ่น โดยเป็นรถอเนกประสงค์ ที่มีขนาดกำลังพอเหมาะต่อการใช้งาน ไม่จิ๋วแบบ Toyota Raize และ ไม่ใหญ่เบิ้มแบบ Toyota Corolla Cross

ตำแหน่งของมัน วางอยู่ตรงกลางของรถทั้งสองรุ่น อยู่ในช่วง ซับคอมแพ็คครอสโอเวอร์ และได้รับความสนใจมากในญีปุ่่น โตโยต้าหมายมั่นปั้นมือว่า รถแบบนี้น่าจะเหมาะในตลาดอื่นๆ ด้วย อย่างทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ปัจจัยสำคัญก็เป้นเรื่องของราคาจำหน่าย นั่นเอง

นี่เอง เป็นที่มาของ โครงการ พัฒนา Toyota Yaris Cross ตัวใหม่ โครงการนี้ ถูกโยนให้หน่วยงานร่วม ไดฮัทสุ เป็นผู้สายต่อ ในการทำรถยนต์ขนาดเล็กราคาถูก เืพ่อเปิดช่องให้ โตโยต้า มีเวลาศึก๋ษาตลาด และทำรถที่สำคัญต่อไป

เฉกเช่นโครงการพัฒนารถยนต์ ภายใต้การกุมบังเหียน ของ ไดฮัทสุ เจ้าอเนกประสงค์น้องเล็กคันใหม่ มาในสไตล์แบบเดียวกับที่คุณคงพอจะเดาออกได้ มันดีไซน์ดี ฟังชั่นครบและ ราคาไม่แพง เปิดแล้วปัง ยอดขายกระจาย วันนี้ผมจะมาค้นหาความจริงว่า รถรุ่นนี้ น่าซื้อขนาดไหนกัน

บึ้งน้อย คือฉายา …

ก่อนจะลองขับ ผมไม่พลาดที่จะต้อง ดูหน้ากันชัด เหมือนก่อนจะเข้ามุ้ง มันก็ต้องส่องให้ชัดก่อนว่า ถูกฝาถูกตัวแน่ ..​

Yaris Cross ออกมาในงวดนี้นำเสนอ ความเป็นปัจเจก ในแบบโตโยต้า ส่วนตัว ผมเรียกมันว่า บึ้งน้อย ด้วย ข้อเท็จจริงว่า หน้าตาของมัน ดูละม้ายคล้ายพี่ใหญ่ Toyota Corolla Cross พี่ชายครอสโอเวอร์ ขายดิบขายดีมานานแรมปี

สะดุดตามาตั้งแต่กระจังหน้าที่ออกมาราวกับ จับพี่ชายมาย่อส่วนลงมาให้มี ขนาดย่อม ต่างตรง ขนาดกระจังหน้าถูกย่อส่วนลงไป ไม่เต็มหน้าแบบรุ่นใหญ่

กันชนปรับงานออกแบบ ให้มีช่องอากาศเข้าด้าน เพื่อความคล่องตัวในการระบายอาากศ

ด้านข้าง ปรับงานออกแบบตัวรถให้มีความนำสมัยไปอีกขั้น ด้วยการนำเสนอ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ในรุ่นท๊อป ข่าวดี สำหรับผู้ซื้อ Toyota Yaris Cross ทุกรุ่น มาพร้อม ยาง Yokohama Blue Earth XT Ae61 ยางประหยัด สำหรับรถอเนกประสงค์ คุณภาพเป็นหนึ่งในตระกูลนี้

สิ่งที่น่าแปลกใจ ก็หนีไม่พ้น ทางด้านหลัง ตามปกติ ดีไซน์โตโยต้า จะคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของโตโยต้า จริงๆ มันก็น่าจะสวยงานออกแบบไฟท้าย เดียวกับ โคโรลล่า ครอส

หนนี้ มาแปลก ไฟท้ายของมัน กลับออกแบบ จนพูดตามตรงว่าราวกับ ไปหยิบยืมจากแบรนด์ Lexus มาใช้ ดูดีมีเสน่ห์

แต่ด้วยความที่รถมีขนาดเล็กลง ช่วงฝ่ท้ายจึงเล็กลงตามไปด้วย สำหรับใครที่ชอบ จะติดอะไรบ่งบอกเกี่ยวกับคุณ เช่น ป้าย มือใหม่หัดขับ / Baby in Car จะพบว่ ารถรุ่นนี้ไม่มีตำแหน่งในเลยด้านท้าย ที่จะว่างพอให้แปะ นอกจากกระจกหลัง

ภายในสไตล์คุ้น ทันสมัย พร้อมใช้งาน

ทางด้านในห้องโดยสาร ทางโตโยต้า นำเสนอ ความคุ้นเคยในรถรุ่นนี้ ตอนเจ้าตอห์นไปรีวิว ครั้งแรกก็เฉยๆ เออ แปลกดี พอมาถึงคิวผมลองขับจริง พบว่า โตดยต้า เล่นง่าย แทบจะเอางานออกแบบ ของไมล์ Toyota Veloz มาใช้เลย

จริงๆ ไม่แปลกหรอก เพราะ Toyota Yaris Cross พัฒนา โดยไดฮัทสุ ก็คงต้องเอาอะไรที่หยิบจับง่ายมาก่อน เรือนไมล์ที่ผมบอก พอตกมาถึง ยาริสครอส ก็ดีไซน์ให้มันเข้าท่าเข้าทีมากขึ้น จอ 7 นิ้ว บอกค่าต่างๆที่จำเป็นต้องรู้อย่างครบถ้วน รายละเอียดบนจดสังเกตุง่าย

จอกลางพัฒนาเป็นขนาด 10 นิ้ว ใหญ่สุดในคล่าสนี้ไม่มีใครล้ำหน้าไปกว่านี้ ลูกเล่นเชื่อมต่อ ครบเครื่องอัพเดทให้ไร้สายได้ ใช้งานดี สายไม่เกะกะ จนกลายเป็นรกรุงรัง

งานออกแบบตัวรถ ในช่วงคอนโซล จัดตำแหน่งต่างๆ ดี หยิบจับใช้งานง่ายค่อนข้างสะดวกในระหว่างการใช้งาน มีบางจุดที่ทำเอาผมงงเล็กน้อย คือตรงคอนโซลกลางทางฝั่ง ผู้โดยสารตอนหน้า ออกแบบให้เหมือนเป็นแผ่นบังไปเลยปิดยาว

ในเรื่องความสวยงาม อันนี้พอเข้าใจได้เพราะมันรับ กับเส้นคอนโซลหน้า แต่ในเรื่องการใช้งาน ก็ทำให้เราสงสัยว่า ทำไมเพราะอะไร ถึงต้องทำมาแบบนี้

แต่เอาล่ะ !! พอขึ้นนั่ง อย่างแรกที่ผมรู้สักได้เลย คือ ช่วง ที่วางขา การโดยสารตอนหน้า ค่อนข้างมีพื้นที่จำกัด ยิ่งใครขับรถชอบนั่งแหกแข้งแหกขา ตัวใหญ่ไซส์หมี ขายาว พูดกันตรงนี้เลยว่า คุณต้องมีปัญหา แน่ๆ เพราะ ช่วงแผงประตู ถึงคอนโซลกลาง ไม่ได้กว้างมาก ถ้าเป็นคนตัวเล็ก สตรไซส์คนไทยปกติ อันนี้เรียกว่าโอเค

เรื่องตัวเบาะออกแบบมาดีอยู่ข้อ ตรงมันไม่นั่งเต่อมากไป ในแบบรถอินโดสไตล์ ท่านั่ง ผมว่ากำลังเหมาะสม เพียงแค่ว่า จนาดเบาะนั่งไม่ใหญ่มาก รุ่นท๊อป Premium Luxury ตัวเบาะมีการตัดเย็บโดยใช้หนังสะท้อนความร้อน Quole Nodure ถ้าคุณคุ้นๆ ว่ามันเหมือน ของ มิตซูบิชิ ที่นำเสนอในรถ อย่าง Mitsubishi Xpander Cross , คุณคิดถูกครับ มันหนังตัวเดียวกันเลย

หนังตัวนี้มีข้อดี คือ ไม่อมความร้อน และยังสะท้อนความร้อนได้ด้วย ช่วยให้เวลาจอดรถตากแดด ไม่ต้องดังวลว่าเข้ารถมา แล้วเบาะนั่งจะพา คุณสะดุเงโหยง กระโดดเป็นกบ เมื่อโน้มตัวลงนั่งโดยสาร

เบาะคนขับในรุ่นท๊อป เป็นปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ฝั่งคนนั่ง ทุกรุ่นย่อย เป็นปรับมือกันครบเครื่อง

เรื่องสัมผัสเบาะ ส่วนตัวมีความโอบประชับ ใช้ขับทางใกล้ๆ นั่งในเมือง ไม่เท่าไร เมื่อนั่งโดยสารนานๆ 2 ชั่วโมงขึ้นไป จะเริ่มรู้สึกว่า เบาะนั่งยังไม่ตอบโจทย์มากนัก ปัญหา เหมือนเช่นรถราคาไม่แรงเน้นออพชั่นเต็มเต็งหลายรุ่น คือ ชอบทำที่รองนั่งสั้น ทำให้ขาของเราไม่ได้รับการซัพพอร์ตเวลานั่งนานๆ ผิดกับ รถคู่แข่งที่โตโยต้า อ้างขึ้นมาว่าอยู่ในคลาสใกล้กันบางรุ่น ที่ทำเรืองนี้ได้ดีกว่ามากพอสมควร

ทางด้านการโดยสารตอนหลัง ลูกเล่นไม่หวือหวา อะไร เลย เพียงแค่พูดตามตรงว่าใช้งานได้ดีในระดับหนีง คนตัวใหญ่อย่างผม นั่งโดยสารตอนหลัง โดยมีพื้นที่วางขา และพื้นที่เหนือศีรษะอย่างครบเครื่อง เพียงพอ พร้อมใช้งาน

การเดินทางของผม ก็จะมีเจ้าตัวเล็กไปด้วย ติดตั้งเบาะเด็กลองดู สามาiถติดตั้งได้ มีพื้นที่กำลังเหมาะสมต่อการใช้งาน ไม่กว้างหรือแคบไป

ตรงกลางมีที่เท้าแขรมาให้พร้อมช่องวางแก้วน้ำ และ มีเพียงช่อง USB ท้ายคอนโซลมาให้เพียงช่องเดียว ในการใเชงานคอนหลัง ที่เหลือ ไม่มีลูกเล่นอะไรเลย

จะว่าไป พื้นที่โดยสารตอนหลัง เอาเรื่องอยู่ไม่น้อย เอากำลังดี ควรนั่งโดยสารเพียง 4 คน เท่านั่น ถ้านั่ง 5 คน จะค่อนข้างแน่น อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผม

ข่าวดี สำหรับสายเดินทาง และสายขนของ รถคันนี้ มีพื้นที่สัมภาระพอสำหรับทุกคน กับคนที่มีลูกเล็ก ผมลองยัดกระเป๋าเดินทาง 24 นิ้ว 1 ใบ บวกกับรถเข็นเด็ก เรียกว่าเหลือเฟือพอตัว

วิศวกรรมและการลองขับ

ไม่พูดพร่ำทำเพลง ได้เวลาลองขับ เจ้า Toyota Yaris Cross กันเลย ก่อนอื่น บอกตามตรงว่า รถคันนี้ไม่ได่มาจาก อินโดนีเซีย อย่างที่หลายคนเข้าใจ มันประกอบในประเทศไทย นี่แหละครับ

ใต้เรือนบึ้งน้อย นำเสนอ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อม มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมพลังช่วยในการขับขี่ ลำพังเครื่องยนต์เอง มีกำลังขับสูงสุด 91 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังขับสูงสุด 80 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร

Toyota Yaris Cross

ทว่าเมื่อรวมกำลังขับทั้งสองอย่าง มันมีกำลังร่วมเพียง 111 แรงมา้ เท่านั้น ไม่ได้มากมายอะไรเลย เมื่อเทียบว่า เครื่องยนต์สันดาป 1.5 ลิตร ธรรมดา อาจจะมีกำลังขับมากกกว่า ไม่ต้องเสกมนต์วิเศษ อะไร ให้มันมากความ

ข้อเท็จจริงดังกล่าว ไม่ค่อยรู้สึกกับการขับขี่ในเมือง หรือความเร็วต่ำ คุณจะค้นพบว่า การตอบสนองของ Toyota Yaris Cross ค่อนข้างเร็ว ตอบโจทย์ได้ดีพอตัว

ส่วนสำคัญ ก้มาจากความพยายามในการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน ในช่วงความเร็วนี้ เวลากดคันเร่งไป จะรู้สึกว่า มันตอบสนองได้ดีพอตัว กดแล้ว รถพุ่งทะยานในทันที ไม่รีรอ หรือออกตัวอืดแบบเครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วไป

การวิ่งในเมือง จะใช้การขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนเป็นหลัก และเมื่อระดับไฟในแบตเตอร์รี่อยู่ต่ำ ก็จะสตาร์ทเครื่องยนต์มาปั่นไฟฟ้า เข้าแบตเตอร์รี่ (กรณีติดหยุดนิ่งนาน) รวมถึง ยังใช้เครื่องยนต์ขับล้อพร้อมปั่นไฟด้วย สำหรับกรณี คุณเคลื่อนที่ด้วยความเร็วๆต่ำ

รวมๆ การตอบสนองในเมือง ทำได้ค่อนข้างประทับใจ และด้วยตัวรถ ขนาดเล็กน้ำหนักเบาหวิว แรงบิดที่ผลิตออกมาได้เอยะ ตั้งแต่รอบต้ำ ช่วยให้รู้สึกดี และ จากการลองขับในเมือง ด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอลล 95 อัตราประหยัดบึ้งน้อยก็ไม่ธรรมดา เราได้ อัตราประหยัด 19.63 ก.ม./ลิตร เลยทีเดียว

จากในเมือง มีรถอเนกประสงค์ เราก็คงต้องออกเดินทางกันบ้าง ใครคิดจะซื้อรถแนวนี้ก็คงหวังพอมันเดินทางกันบ้างในวันว่่ง

เมื่อเอาร่างเล็กเครื่อง 1.5 ไฮบริดออกเดินทาง ผมใช้ช่วงความเร็วเดินทางปกติ ที่ 80-120 ก.ม./ช.ม. การไต่ความเร็วจาก 0 ไปถึง 100 ก.ม.*ช.ม.​ถ้าเหยียบพรืดไปในทีเดียว จะตอบสนองดีในช่วงต้น และ พอความเร็วมากกว่า 90 ก.ม./ช.ม. จะเริ่มช้าลงเล็กน้อย

จากที่สังเกตระบบไฮบริด จะทำงานโดยอาศัยมอเตอร์ไฟฟ้าช่วงต้น แล้ว จากนั้นเริ่มตัดสลับเครื่องยนต์มาทำงาน ช่วยผสานกำลังขับ ลดการทำงานมอเตอร์ไฟฟ้านั่นเอง

ด้วยการทำงานอบบนี้ทำให้ เวลาเราเลี้ยงความเร็วช่วงเดินทางปกติ 100-110 ก.ม./ช.ม. จะพบว่าการเลี้ยงความเร็ว 100-107 ก.ม./ช.ม.​ เป็นไปได้ค่อนข้างง่าย แต่พอในจังหวะเร่งแซงถ้ากดคันเร่งเต็มๆ จะกลับรู้สึกว่ารถไม่ค่อยมีแรงไปแบบอืดๆ

ถ้าใครขับรถรุ่นนี้แล้วพบประเด้นนี้อยู่ ให้ลองแบบนี้ครับ ปรับการเหยียบ จากการเหยียบคันเร่ง 100% มาเป็นเหยียบคัน้ร่ง 20-30% การตอบสนองจะดีกว่ามาก เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าจะ มารับบทพระรองคอยเข้าช่วยเครื่องยนต์ กลายเป็นอยากเร่งแซง กดคันเร่งไม่เยอะมาก รถพุ่งดีกว่า

Toyota Yaris Cross

เข้าใจว่า วิศวกร คงต้องการให้รถประหยัด เพราะลำพังเครื่องยนต์ 1.5 พร้อมระบบ Atkinson Cycle มันจะทำงานดีในรอบกลางขึ้นไป มันจำเป็นต้องมีมอเตอร์ช่วย แต่กลายเป็นเมื่อเราเหยียบคันเร่งเต็ม มอเตอร์ก็ดูเข้ามาช่วยไม่เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น อาจด้วยการป้องกันไฟในแบตเตอร์รี่ ซึ่งก็เป็นปกติของระบบไฮบริดที่จะเซทพลังงานในแบตเตอร์รี่ มิให้ต่ำมากจนเกินไป

หากก็เหมือนจะดูเรื่องนี้มากไป เพระา เวลาขับทางไกล ระดับแบตเตอร์รี่จะอยู่ในระดับ 4-5 ขีด ตลอดเวลา อาจเผื่อ สำหรับต้องการเร่งแซง ก็เป็นไปได้

ส่วนเรื่องอัตราประยัด ถ้าขับนิ่งๆที่ความเร็ว 100-100 ก.ม./ช.ม. เร่งแซงบ้าง บนมอเตอร์เวย์ ผมได้อัตราประหยัด 25.11 ก.ม./ลิตร ซึ่งถือว่า ทำได้พอตัว

อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่อยากรู้ว่า อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. เป็นอย่างไร จากการทดสอบของเรา จับด้วย V Box เราพบว่า เจ้า Toyota Yaris Cross ทำอัตราเร่งดีพอตัว ถ้ามีแบตเตอร์รี่ในระดับที่มากพอ ตุณจะเห็นตัวเลข 12 วินาที กลางๆ นั่นเร็วพอๆ กับ อเนกประสงค์ เครื่องยนต์ 2.0 ด้วยซ้ำไป

แต่เมื่อไร ที่แบตเตอร์รี่ไฟอ่อน หรือ อย่างผมที่เจอ ทำอัตราเร่ง ต่อเนื่องหลายรอบต่อกัน เข้าใจว่าน่าจะมีมาตรการป้องกันแบตเตอร์รี่แบบใดแบบหนึ่ง ไม่ให้อุณหภูมิสูงเกินไป เราพบว่ าอัตราเร่ง ของมันจะแทบไม่ต่างจากรถอีโค่คาร์ เวลาทอนลงมาเหลือเพียง 14 วินาที ปลายๆ พอกับ เครื่องสันดาป 1.5 ลิตร ธรรมดา ทั่วไป

การควบคุมตัวรถ

ในแง่พลังขับ ผมพอได้คำตอบแล้ว แต่รถไม่ได้มีเรื่องเครื่องยนต์ให้กำลังลงไปปั่นล้อมันยังต้องสามารถควบคุมได้ดั่งใจ เป็นไปตามต้องการด้วย

ผมพูดตามตรงว่าตอนแรกที่ขึ้นรถ แล้วขับออกมาจากโตโยต้า แอบกังวลกับพวงมาลัย โตโยต้า ยาริส ครอส เนื่องจากอาการพวงมาลัยอารมณ์แข็งทื่อ ติดโรบอท ไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควรจะเป็น มันอารมณ์ ซ้ายหรอ ?? เอา ซ้าย ขวาหรือ?? เอ้าขวา

Toyota Yaris Cross

ผมต้องบอกก่อนครับว่า อาการนี้คนทั่วไป จะไม่ค่อยรู้สึก แต่กับบรรดานักทดสอบ ที่ผ่านมือรถมาหลายรุ่น เราจะรู้สึกได้ ตั้งแต่ครั้งแรกของการขับ เพราะ สิ่งที่นักทดสอบทุกคนจะทำก่อน เวลาขึ้นรถใหม่ๆ คือ ทำความคุ้นเคยกับรถ โดยเฉพาะของที่ต้องใช้ แป้นเบรก และ พวงมาลัย เป็นอย่างแรกๆ

ในช่วงขับทางตรงยาวๆ หรือ เลี้ยวเอนไปตามโค้งด้วยความเร็วปกติ เรื่องนี้ ไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลนัก มันจะเริ่มมีประเด็นเมื่อเรา ทำการบังคับพวงมาลัย ให้จังหวะรถเร็วๆ อาทิ เปลี่ยนเลน อย่างต่อเนื่องในความเร็วเดินทาง เมื่อ พวงมาลัยไม่ต่อเนื่อง สิ่งที่ตามมา คือ เราจะใช้พวงมาลัยเยอะ เพื่อให้ รถมันเปลี่ยนตามทิศทางที่เราต้องการ

อีกสถานการณ์ที่คุณจะรู้สึก คือ เวลาเข้าจอดรถ ความต่อเนื่องพวงมาลัย ใช้บางจังหวะที่เราต้องการเลี้ยวไปตามทิศทางต้องการ พอบังคับรู้สึกว่า มันมากเกิน หรือน้อยเกินไป ไม่ไปดั่งที่เราปรารถนานัก

เรื่องน้ำหนักพวงมาลัย ก็เป็นอีกอย่างที่น่าแปลกใจ ตอนความเร็วต่ำ ที่เราควรจะใช้พวงมาลัยคล่องๆ กลับรู้สึกว่า มันมีน้ำหนักพอตัว จน อย่างเดือน ยังบ่น ทำไม พวงมาลัยหนัก อาจด้วยขนาดยางและล้อ แต่พอใช้ความเร็วมาอยู่ในระดับเดินทางไกล ก็กลับกลายว่า มันเบาหวิวคล่องตัวเกินไป ดูไม่มั่นใจเท่าที่ควร จนบางทีแอบรู้สึกถึงอาการพวงมาลัยไวไปหน่อย บ้าง

Toyota Yaris Cross

จากพวงมาลัย มาถึงระบบกันสะเทือน เป็นไปตามคาด กับ ช่วงล่างด้านหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลัง เป็นแบบทอร์ชั่นบีม สูตรสำเร็จรถคนเมือง จุดแตกต่างของยาริสครอส คือ มันถูกถลกขากางเกง ยกสูง ขึ้นมาเป็น 210 มม. เมื่อเทียบกับ รถเก่งที่ใช้โครงสร้างเดียวกัน Toyota Yaris Ativ ความสูงจากพื้นถึงท้องรถ 160 มม. รุ่นนี้ + มาอีก 50 มม. เลยล่ะครับ

เท่าที่จับอาการ ระบบกันสะเทือนมาในสูตรเดิมอีกแล้ว ทางไดฮัทสุ เซทให้ด้านหน้าแข็ง ด้านหลังมีความอ่อนกว่าข้างหน้าเล็กน้อย เหมือนใน เอทิฟ เป๊ะ

เข้าใจว่า ที่ต้องเซทหน้าให้แข็งเพื่อรับกับน้ำหนักเครื่องยนต์ และด้านหลังอ่อนหน่อย เพื่อเอาใจคนนั่งโดยสารตอนหลัง จะได้ไม่รู้สึกตึงตังมากเกินไป

แง่ของการซับแรง ก็ตามสไตล์SUV มันจะมีติดแข็งบ้างพอสมควร ใครซื้อรถแนวนี้บอกไว้ก่อนครับ ว่ามันไม่นอบน้อมเหมือนรถเก่งแน่ๆ

ความแข็งปนความนุ่,ของมัน ถ้าพูดกันตามภาษาคนทดสอบรถ ง่ายๆ คือ เฟิร์ม ช่วงยืดของโช๊คยาวกว่าของเอทีฟอย่างเห็นไดั เวลาตกหลุมกระแทกซับแรงได้ดีในระดับที่น่าพอใจ พอสมควร หากก็ยังมีช่วงบางครั้งที่รู้สึกว่ายังตึงตังบ้าง นั่นอาจด้วยล้อ 18 นิ้ว ที่ใส่มาเอาใจลูกค้า

เมื่อล้อใหญ่ขึ้น ก็เลยต้องใช้ยางแก้มเตี้ยลง กว่ารุ่นอื่นๆ ยางแก้มเตี้ย ก็ซับแรงได้น้อยลงตามลำดับ ประกอบกับ จากที่เข้ามาหาข้อมูลในส่วนของยาง yokohama Blue Earth XT ทราบมาว่า ยางรุ่นนี้ เป็นยางที่ออกแบบแก้ม และไหล่ยาง มาค่อนข้างแข็ง เพื่อสอดรับกับ ความเป็นรถอเนกประสงค์ที่พอจะบุกตะลุย ตามที่ต่างๆ ได้บ้าง

Toyota Yaris Cross

สองอย่างที่ ผมพูด ประกอบให้ การซับแรง เลยกระเดียด ไปทางความกระด้างมาก บางทีขับบนถนน ตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้า หรือ ขับไป ตามถนนต่างจังหวัด ที่มี หลุมบ่อยิบยับ ไปหมด ราวกับโลก ดาวอังคาร หรือ เจอ ลอนรอยต่อ

ล้อและยาง เล่นส่งมาให้ช่วงล่างๆราวๆ 60-70% เลย จนใช้คำว่าแอบติดแข็งมากไปหน่อย เมื่อเทียบกับ รถที่มีราคาและอยู่ในคลาสไล่เรี่ยกัน โดยเฉพาะเมื่อคุณขับคนเดียว หรือเดินทางสองคน ซึ่งก็เป็นปกติ ของรถกลุ่มนี้ กลับกัน เมื่อนั่งเต็มคัน

ช่วงล่างจะนวลขึ้น และความกระด้างจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด

เรื่องเบรก ค่อนข้างทำได้ดีพอสมควร การตอบสนอง แรงหน่วงมอเตอร์ไม่มากนัก ดูเป็นธรรมชาติ ตามสไตล์ โตโยต้า เมื่อเราถอนคันเร่ง การหน่วงมอเตอร์ จะเริ่มตอบสนองก่อน แต่อย่าหวังว่าจะหนักหน่วงแบบรถยนต์ไฟฟ้า มันจะช่วยชะลอนิดหน่อย ที่เหลือ คุณต้องทำงานกับแป้นเบรก

เมื่อแตะเบรกลงไป น้ำหนักเบรก กำลังดี โดยเฉพาะกับการเดินทาง ด้วยความเร็ว การถ่ายน้ำหนักรถ ทำได้ดีอยู่พอตัว และจากที่จับอัตรา 100-0 ก.ม./ช.ม.​มันค่อนข้าง จะตอบสนองเร็ว อยู่ในระดับ 44 เมตร ส่วนหนึ่ง ตัวรถมีน้ำหนักไม่มากเท่าไรนัก

สรุป Toyota Yaris Cross Premium Luxury ประหยัดออพชั่นคุ้ม เหมาะเป็นรถใช้งาน

แม้ว่าการเป็นนักรีวิว รถยนต์ อาจไม่ได้หมายความว่า ผมจะใช้เวลา อยู่กับรถคันนั้นนานมาก เหมือน การซื้อรถมาใช้ หากก็พอจะเข้าใจ รถอย่าง Toyota Yaris Cross อยู่บ้างพอสมควร หลังใช้เวลากับมันหลายวัน

ก่อนอื่น ต้องบอกเลยว่า ถ้าคุณคาดหวังว่า มันจะต้องเป็นรถ สมรรถนะขับสนุกสุดโดต่ง ควรมองผ่านมันไปเลย ด้วยจุดเด่นของมันที่แท้จริง อยู่ที่การมีฟังชั่นครบเครื่อง ทุกอย่างที่ต้องการ ทั้งขนาดตัวรถ , เครื่องยนต์ไฮบริด ,​ออพชั่นแน่นๆ ส่วนเรื่องหน้าตา ต้องยอมรับว่า แล้วแต่คนชอบ

Toyota Yaris Cross

จุดเด่น ทั้งหมดที่พูดมา นั่น คือ ความเป็นรถใช้งาน ในชีวิตประจำวัน มีความประหยัดน้ำ ดูแลรักษาง่าย ทนทาน และ มีฟังชั่นที่เหมาะสม และจำเป็น แถมทั้งหมดที่พูดมา ราคาเพียง 899,000 บาท เท่านั้น ไม่แปลกที่หลายคนจะมองว่า มันเป็นรถคุ้มค่า ราคาน่าคบ เป็นตัวรถเลือก ที่ดีสำหรับลูกค้า

ส่วนตัวผมหลังจากเห้นรถ ทราบราคา และลองใช้ชีวิตกับรถ ก็ยอมรับว่าน่าใช้ดี แค่ติดขัดบางอย่าง ตามสไตล์คนที่ผ่านมารถเยอะ คือ ชอบสมรรถนะในการขับขี่ จากรถคันนั้น

รถต้องตอบสนองดี ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะ การบังคับควบคุมตัวรถ ยาริสครอส ยังมีประเด็นบางข้อ อย่างเรื่องพวงมาลัย ที่เซทติ้งน้ำหนัก เบาในช่วงใช้ความเร็ว และ รวมถึง ระบบไฮบริด ที่ยังมีอาหาร แบตร้อนทอนกำลัง แม้ว่าผมจะพบในช่วงที่ทดสอบ อัตราเร่ง แต่ก็หมายความว่ามันเกิดขึ้นได้

ลองจินตนาการว่า ลูกคุณร้องไห้หิวนมกับตายายอยู่ที่บ้าน แล้วคุณต้องพาภรรยาซิ่ง รถคันนี้กลับบ้าน ระหว่างทางใช้ความเร็ว เหยียบคันเร่งตลอด ปรากฏว่า จังหวะหนึ่ง อาการนี้เกิดขึ้น ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติ คงไม่เป็นไร แต่ถ้าอยู่ในระหว่างผู้ขับต้องการใช้อัตราเร่ง ในยามคับขัน ก็น่าคิดไม่น้อย

มันไม่มีสัญญาณ เตือน แบตฯ ร้อนหรืออะไร บนหน้าปัด ทุกอย่างดูปกติดี จะรู้เมื่อเหยียบคันเร่งลงไป แล้ว รู้สึกการตอบสนองไม่ทันใจ

และเมื่อพูดถึงการตอบสนอง จากระบบไฮบริด ก็แปลกที่เน้นการเหยีบเร่งในช่วงกลาง ทั้งที่พฤติกรรมคนอยากได้อัตราเร่ง มักจะเยียบลงไปเต็มๆ ไม่ใช่ค่อยๆ เหยียบ ผมก้ว่าแปลก

แต่เอาล่ะ สมรรถนะของรถ อาจมีประเด้นบ้าง นั่นคือความเห็น จากผม ในมุม คนที่ผ่านรถมาเยอะ ขับมาแยะ แต่ถ้าสำหรับคนทั่วไป เท่านี้เหมาะสม และเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

มันเป็นรถที่ดี สำหรับคนที่มองหารถสักคันที่ใช้งานได้ครอบคลุม การเดินทาง

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่