แม้ยอดขายรถยนต์ของทุกแบรนด์ในภาพรวมตลาดโลกจะมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น แต่ดูเหมือนว่านั่นจะไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Toyota จนทำให้พวกเขาต้องปรับลดความคาดหวังของตนเองในปีนี้ลง
จากการเปิดเผยข้อมูลโดย Toyota Motor Corp หรือ Toyota บริษัทแม่ที่ได้ออกมาประกาศปรับตัวเลขประมาณการยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมทั่วโลกของปีงบประมาณ 2023-2024 ลง นั่นคือ จากที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะขายได้ราวๆ 202,000 คัน เหลือเพียง 123,000 คันเท่านั้น หรือหายไปถึง 39% เลยทีเดียว แม้จะพึ่งผ่านไตรมาสที่สองของปีงบประมาณนี้ไปเท่านั้น
อย่างไรก็ดี แม้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาจะไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่คิด ทว่าเมื่อมองในภาพรวมของยอดขายรถยนต์ทุกรูปแบบที่แบรนด์มี เรากลับพบว่าพวกเขาสามารถสร้างกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มรถยนต์ขุมกำลังไฮบริด ที่ช่วยให้ตอนนี้บริษัทสามารถทำกำไรทะลุเป้าไปแล้ว แม้จะยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะปิดปีงบประมาณก็ตาม
โดยหากอิงจากข้อมูลเมื่อต้นปี ทาง Toyota ได้มีการประเมินเอาไว้ว่า พวกเขาจะสามารถทำกำไรจากการดำเนินงาน (Operation Profit) ในปีงบประมาณ 2023-2024 ได้ราวๆ 3,000,000,000,000 (สามล้านล้าน) เยน หรือราวๆ 700,000,000,000 (เจ็ดแสนล้าน) บาท
ทว่าในการรายงานผลประกอบการล่าสุด ปรากฏว่าตอนนี้พวกเขาสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานไปได้มากถึง 4,500,000,000,000 (สี่ล้านห้าแสนล้าน) เยน หรือราวๆ 1,072,000,000,000 (หนึ่งล้านเจ็ดหมื่นสองพันล้าน) บาท เข้าไปแล้ว
และจนกว่าจะปิดปีงบประมาณรอบนี้ ทาง Toyota ยังตั้งเป้าที่จะขายรถยนต์ไฮบริดทั่วโลก ให้ได้อีก 3.6 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ตั้งใจจะขายราวๆ 3.5 ล้านคัน หรือหากรวมเอายอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่หวังไว้ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไฟฟ้า 100% (EVs), ไฮบริด, ปลั๊กอิน ไฮบริด, และ ไฮโดรเจน ฟิวเซลล์ ทางแบรนด์ก็หวังว่าจะขายได้ทั้งหมด 3.9 ล้านคัน ซึ่งถือว่าเพิ่มจากปีงบประมาณก่อนถึง 42% (แม้ว่ายอดขายรถยนต์ EV จะถูกปรับลดความคาดหวังลงแล้วก็ตาม)
ส่วนการขายในภาพรวมของรถยนต์ทุกประเภท ทั้งที่อยู่ภายใต้แบรนด์ Toyota และ Lexus จากเดิมที่พวกเขาเคยตั้งเป้าไว้ว่าจะขายรถยนต์ของตนเองภายในปีงบประมาณนี้ได้ทั้งหมด 10.1 ล้านคัน แต่จากการประเมินตัวเลขล่าสุด กลับดูเหมือนว่าพวกเขาจะสามารถขายได้ทั้งสิ้นราวๆ 11.38 ล้านคัน เมื่อปิดปีงบประมาณ 2023-2024 นี้
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ Toyota ยังไม่สามารถทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้เปรี้ยงปร้างเท่าไหร่นัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพวกเขามีตัวเลือกรถยนต์กลุ่มนี้ให้ลูกค้าในตลาดโลกเพียง 2 รุ่นหลักๆ นั่นคือ Toyota bZ4X และ Lexus RZ และมีอีกหนึ่งตัวเลือกเสริมในประเทศจีนอย่าง Toyota bZ3 แค่นั้น
แต่จากการตั้งเป้าหมายเตรียมขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มอีกกว่า 10 รุ่น ภายในปี 2026 จึงคาดว่าพวกเขาอาจจะสามารถตีตลาดรถยนต์กลุ่มนี้ได้มากขึ้นอีกพอสมควร ซึ่งมันอาจจะดูไม่เร็วทันใจใครหลายคนเท่าไหร่นัก แต่เมื่อมองจากยอดขายรถยนต์ในภาพรวมแล้ว ทางค่ายก็ไม่เห็นจะต้องรีบร้อนอะไรอยู่ดี
